Why Nostr? What is Njump?
2024-08-18 16:37:54

bosstanabe on Nostr: ...

นมดิบมีแบคทีเลียและเอนไซม์มากมายที่มนุษย์สามารถดื่มและนำสารอาหารไปใช้ได้เลย

การนำนมดิบไปให้ความร้อนหรือพาสเจอร์ไรส์ ทำให้สมดุลแบคทีเลียและเอนไซม์เสีย รวมถึงการทำโฮโมจีไนซ์หรือการนำนมที่ผ่านความร้อนมาแล้ว ไปเข้าเครื่องตีให้ไขมันแตกตัว เผื่อให้เนื้อนมเนียนไม่แยกชั้น เวลาวางบนชั้นวางแล้วน้ำนมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แต่การทำเช่นนี้ ทำให้โครงสร้างไขมันตามธรรมชาติผิดเพี้ยนไปจากเดิม

อะไรที่เสียสมดุลเดิมและมีโครงสร้างโมเลกุลที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม มันย่อมให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างเมื่อกินเข้าไป เราจึงเห็นคนจำนวนมากมีอาการแพ้นม โดยที่คิดว่าตัวเองแพ้มาตั้งแต่เกิด ทั้งที่ความเป็นจริง หากได้ลองกินนมดิบดูอาจไม่มีอาการแพ้เลยก็ได้

ตัวอย่างของสมดุลสารอาหารที่เพี้ยนคือ แลคโตส
ในนมดิบจะมี แลคโตส ที่อยู่คู่กับแลคเตส คอยย่อยกันและกัน แต่เมื่อนำไปผ่านความร้อน แลคเตสจะหายไปเพราะทนความร้อนได้ไม่มาก เหลือแต่แลคโตส เมื่อคนได้กินนมพาสเจอร์ไรส์ ก็ได้รับแลคโตสเข้าไป บางคนก็สามารถย่อยได้ บางคนก็ไม่สามารถย่อยได้ จึงเกิดอาหารแพ้นั่นเอง

ในยุคปัจจุบัน การจะหานมดิบดื่มเองค่อนข้างยาก และฟาร์มวัวนมเกือบทุกที่(เท่าที่ผมรู้จัก)ก็ไม่ได้ออกแบบการผลิตนมดิบเพื่อบริโภคโดยเฉพาะด้วย
แม้แต่ผู้ผลิตยังไม่รู้ถึงความแตกต่างของสารอาหารระหว่างนมดิบกับนมพาสเจอร์ไรซ์ด้วยซ้ำ

ทางเลือกหนึ่งที่จะบริโภคนมพาสเจอร์ไรส์โดยที่อาจสามารถเลี่ยงอาการแพ้ได้คือ นมหมักทั้งหลาย เช่น โยเกิร์ต, คีเฟอร์, กรีก โยเกิร์ต
การนำนมมาหมักเป็นการเติมเชื้อแบคทีเลียเข้าไป ย่อยสารหลายๆตัว ทำให้สมดุลเชื้อแบคทีเรียและสารอาหารกลับมาสมดุลใกล้เคียงกับนมดิบมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือแลคโตส
ยิ่งแบคทีเลียกินแลคโตสเยอะ จะมีรสชาติออกเปรี้ยว
เวลาเลือกซื้อนมหมัก ให้ดูที่ส่วนผสม ควรจะมีแค่นมกับเชื้อแบคทีเรีย ไม่ควรมีสารเติมแต่งอื่นๆ เช่น น้ำตาลเป็นต้น

ลิ้งอ้างอิง : https://youtu.be/oP4je-VjBmk?si=wc12eFJk38AQWzro

#siamstr
Author Public Key
npub1cgacw2yrqu7v222sq3q92sw8kc80gpftd620c65ynvx964dj6ras5dgp4s