bosstanabe on Nostr: ...
นมดิบมีแบคทีเลียและเอนไซม์มากมายที่มนุษย์สามารถดื่มและนำสารอาหารไปใช้ได้เลย
การนำนมดิบไปให้ความร้อนหรือพาสเจอร์ไรส์ ทำให้สมดุลแบคทีเลียและเอนไซม์เสีย รวมถึงการทำโฮโมจีไนซ์หรือการนำนมที่ผ่านความร้อนมาแล้ว ไปเข้าเครื่องตีให้ไขมันแตกตัว เผื่อให้เนื้อนมเนียนไม่แยกชั้น เวลาวางบนชั้นวางแล้วน้ำนมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แต่การทำเช่นนี้ ทำให้โครงสร้างไขมันตามธรรมชาติผิดเพี้ยนไปจากเดิม
อะไรที่เสียสมดุลเดิมและมีโครงสร้างโมเลกุลที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม มันย่อมให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างเมื่อกินเข้าไป เราจึงเห็นคนจำนวนมากมีอาการแพ้นม โดยที่คิดว่าตัวเองแพ้มาตั้งแต่เกิด ทั้งที่ความเป็นจริง หากได้ลองกินนมดิบดูอาจไม่มีอาการแพ้เลยก็ได้
ตัวอย่างของสมดุลสารอาหารที่เพี้ยนคือ แลคโตส
ในนมดิบจะมี แลคโตส ที่อยู่คู่กับแลคเตส คอยย่อยกันและกัน แต่เมื่อนำไปผ่านความร้อน แลคเตสจะหายไปเพราะทนความร้อนได้ไม่มาก เหลือแต่แลคโตส เมื่อคนได้กินนมพาสเจอร์ไรส์ ก็ได้รับแลคโตสเข้าไป บางคนก็สามารถย่อยได้ บางคนก็ไม่สามารถย่อยได้ จึงเกิดอาหารแพ้นั่นเอง
ในยุคปัจจุบัน การจะหานมดิบดื่มเองค่อนข้างยาก และฟาร์มวัวนมเกือบทุกที่(เท่าที่ผมรู้จัก)ก็ไม่ได้ออกแบบการผลิตนมดิบเพื่อบริโภคโดยเฉพาะด้วย
แม้แต่ผู้ผลิตยังไม่รู้ถึงความแตกต่างของสารอาหารระหว่างนมดิบกับนมพาสเจอร์ไรซ์ด้วยซ้ำ
ทางเลือกหนึ่งที่จะบริโภคนมพาสเจอร์ไรส์โดยที่อาจสามารถเลี่ยงอาการแพ้ได้คือ นมหมักทั้งหลาย เช่น โยเกิร์ต, คีเฟอร์, กรีก โยเกิร์ต
การนำนมมาหมักเป็นการเติมเชื้อแบคทีเลียเข้าไป ย่อยสารหลายๆตัว ทำให้สมดุลเชื้อแบคทีเรียและสารอาหารกลับมาสมดุลใกล้เคียงกับนมดิบมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือแลคโตส
ยิ่งแบคทีเลียกินแลคโตสเยอะ จะมีรสชาติออกเปรี้ยว
เวลาเลือกซื้อนมหมัก ให้ดูที่ส่วนผสม ควรจะมีแค่นมกับเชื้อแบคทีเรีย ไม่ควรมีสารเติมแต่งอื่นๆ เช่น น้ำตาลเป็นต้น
ลิ้งอ้างอิง :
https://youtu.be/oP4je-VjBmk?si=wc12eFJk38AQWzro#siamstr
Published at
2024-08-18 16:37:54Event JSON
{
"id": "23dc79001aa9ef8632d4140da5deedd830b1fae3b0bc3f0d0e46c3bea905e130",
"pubkey": "c23b872883073cc5295004405541c7b60ef4052b6e94fc6a849b0c5d55b2d0fb",
"created_at": 1723999074,
"kind": 1,
"tags": [
[
"r",
"https://youtu.be/oP4je-VjBmk?si=wc12eFJk38AQWzro"
],
[
"t",
"siamstr"
]
],
"content": "นมดิบมีแบคทีเลียและเอนไซม์มากมายที่มนุษย์สามารถดื่มและนำสารอาหารไปใช้ได้เลย\n\nการนำนมดิบไปให้ความร้อนหรือพาสเจอร์ไรส์ ทำให้สมดุลแบคทีเลียและเอนไซม์เสีย รวมถึงการทำโฮโมจีไนซ์หรือการนำนมที่ผ่านความร้อนมาแล้ว ไปเข้าเครื่องตีให้ไขมันแตกตัว เผื่อให้เนื้อนมเนียนไม่แยกชั้น เวลาวางบนชั้นวางแล้วน้ำนมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แต่การทำเช่นนี้ ทำให้โครงสร้างไขมันตามธรรมชาติผิดเพี้ยนไปจากเดิม\n\nอะไรที่เสียสมดุลเดิมและมีโครงสร้างโมเลกุลที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม มันย่อมให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างเมื่อกินเข้าไป เราจึงเห็นคนจำนวนมากมีอาการแพ้นม โดยที่คิดว่าตัวเองแพ้มาตั้งแต่เกิด ทั้งที่ความเป็นจริง หากได้ลองกินนมดิบดูอาจไม่มีอาการแพ้เลยก็ได้ \n\nตัวอย่างของสมดุลสารอาหารที่เพี้ยนคือ แลคโตส\nในนมดิบจะมี แลคโตส ที่อยู่คู่กับแลคเตส คอยย่อยกันและกัน แต่เมื่อนำไปผ่านความร้อน แลคเตสจะหายไปเพราะทนความร้อนได้ไม่มาก เหลือแต่แลคโตส เมื่อคนได้กินนมพาสเจอร์ไรส์ ก็ได้รับแลคโตสเข้าไป บางคนก็สามารถย่อยได้ บางคนก็ไม่สามารถย่อยได้ จึงเกิดอาหารแพ้นั่นเอง\n\nในยุคปัจจุบัน การจะหานมดิบดื่มเองค่อนข้างยาก และฟาร์มวัวนมเกือบทุกที่(เท่าที่ผมรู้จัก)ก็ไม่ได้ออกแบบการผลิตนมดิบเพื่อบริโภคโดยเฉพาะด้วย\nแม้แต่ผู้ผลิตยังไม่รู้ถึงความแตกต่างของสารอาหารระหว่างนมดิบกับนมพาสเจอร์ไรซ์ด้วยซ้ำ\n\nทางเลือกหนึ่งที่จะบริโภคนมพาสเจอร์ไรส์โดยที่อาจสามารถเลี่ยงอาการแพ้ได้คือ นมหมักทั้งหลาย เช่น โยเกิร์ต, คีเฟอร์, กรีก โยเกิร์ต \nการนำนมมาหมักเป็นการเติมเชื้อแบคทีเลียเข้าไป ย่อยสารหลายๆตัว ทำให้สมดุลเชื้อแบคทีเรียและสารอาหารกลับมาสมดุลใกล้เคียงกับนมดิบมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือแลคโตส\nยิ่งแบคทีเลียกินแลคโตสเยอะ จะมีรสชาติออกเปรี้ยว\nเวลาเลือกซื้อนมหมัก ให้ดูที่ส่วนผสม ควรจะมีแค่นมกับเชื้อแบคทีเรีย ไม่ควรมีสารเติมแต่งอื่นๆ เช่น น้ำตาลเป็นต้น\n\nลิ้งอ้างอิง : https://youtu.be/oP4je-VjBmk?si=wc12eFJk38AQWzro\n\n#siamstr",
"sig": "1679f6d319c05ae949b4826334e32feffc85b45fa0bd58e3856b936882d35e1e545ad0b138a9b3e54ea99cad5cc81f59c8e37f8133f585d96fe236541a9a297a"
}