bosstanabe on Nostr: ถ้าเงินมีจำกัด ...
ถ้าเงินมีจำกัด แล้วดอกเบี้ยมาจากไหน?
ถ้าทั้งโลกนี้มีเงินอยู่ 100 หน่วย และไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้
สมมติ ผมมีเงินอยู่ 10 หน่วย
คุณมี 0 หน่วยและอยากกู้เงินจากผม
ผมให้กู้ 10 หน่วย คิดดอกเบี้ย 1% หรือ 1 หน่วย
คุณต้องหาเงินมาคืนผมให้ได้ 100 หน่วย บวก ดอกเบี้ยอีก 1 หน่วย รวมเป็น 101 หน่วย
คำถาม : ดอกเบี้ยอีก 1 หน่วย คุณหามาจากไหน?
ตอบ : จากคนอื่นที่ไม่ใช่ผม
ถาม : แล้วคุณไปเอาเงิน 1 หน่วยจากคนอื่นมาได้ยังไง?
ตอบ : คุณก็ทำประโยชน์ให้คนอื่นจนเค้ายอมจ่ายเงินให้คุณ 1 หน่วย
เราจะเห็นว่า ในระบบที่เงินเพิ่มจำนวนไม่ได้ คุณต้องตัดสินใจรอบคอบมากๆก่อนที่จะยืมเงินใครและให้ใครยืมเงิน เพราะว่า ดอกเบี้ยที่คุณต้องหามาจ่ายคืน มีทางเดียวที่จะได้มาคือ จากคนอื่น คุณไม่สามารถเสกมันขึ้นมาได้
สิ่งนี้มันสำคัญมาก เพราะว่า เมื่อต้นทุนของดอกเบี้ยสูงมากขึ้น คุณจะต้องแน่ใจจริงๆว่า จะได้เงินคืนมาและจะหาเงินมาคืนได้
ถาม : แล้วคุณจะแน่ใจได้ยังไง?
ตอบ : ก็ต้องมีฝีมือ เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์มากพอในสิ่งที่คุณจะทำ
ณ ตอนนี้เรากำลังอยู่ในระบบที่สามารถเพิ่มจำนวนเงินขึ้นได้ไม่จำกัด
มันส่งผลกระทบลงมาเรื่อยๆจากธนาคารกลางมาสู่ระดับบุคคล
เมื่อมีคนบางคนในระบบสามารถหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยคืนได้ด้วยการเสกขึ้นมาใหม่ แทนที่จะมาจากคนอื่นในระบบ
มันเลยทำให้ ต้นทุนของดอกเบี้ยลดลง คนที่กู้ยืมเงินก็ลดความรับผิดชอบของตัวเองลงเรื่อยๆ และในที่สุดก็ลดการพัฒนาและสั่งสมความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของตัวเองลง
ผลกระทบนี้เราได้เห็นกันแล้วกับตาตัวเอง มันเป็นผลกระทบที่ไหลลงมาเรื่อยๆจากแหล่งผลิตเงิน สินค้าสมัยก่อนกับปัจจุบันเช่นตู้เย็น เครื่องล้างจาน รถยนตร์ เป็นต้น
เมื่อคุณภาพคนลดลง คุณภาพสินค้าก็ลดลงตามไปด้วย ผู้ผลิตให้ความสำคัญกับผลกำไรสูงสุดมากกว่าคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งาน
สิ่งเหล่านี้ถูกปกปิดด้วยกลยุทธ์การตลาดบังหน้าไว้ด้วยดาราและอินฟลูเอนเซอร์อินเทรนด์ในแต่ละยุคสมัย
เช่น แทนที่ตู้เย็นจะจุของได้เยอะและมีประสิทธิภาพมากขึ้น กลับชูจุดเด่นด้านรูปลักษณ์ภายนอก หรือแค่มีดาราคนนี้เป็นพรีเซนเตอร์ สิ่งของต่างๆมีฟังก์ชั่นเสริมมากมายที่ไม่จำเป็น เช่นเดียวกับผู้คนที่บริโภคสินค้าและบริการต่างๆที่ไม่ได้จำเป็นกับชีวิต แต่ถูกหลอกว่ามันจำเป็นต่อจิตใจ(ดีต่อใจ)
บิตคอยน์คือระบบการเงินใหม่ ที่เพิ่มจำนวนขึ้นได้ยากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่ง(ประมาณปี ค.ศ. 2140) มันจะไม่สามารถเพิ่มจำนวนขึ้นได้อีก
ถ้าคุณเอาตัวเองไปอยู่ในระบบที่เงินสร้างยาก คุณภาพชีวิตของคุณจะต้องถูกบังคับให้ดีขึ้น เพราะว่าคุณจะอยู่ในระบบที่ผู้คนรอบตัวคุณถูกบังคับให้พัฒนาและรักษาคุณภาพของตัวเองอยู่เสมอ
hard choices, easy life
easy choices, hard life
#siamstr
Published at
2024-04-21 08:45:59Event JSON
{
"id": "41dffca628053fedd1ec9aa66bd577d59594397280470c9f3fa780e24f311644",
"pubkey": "c23b872883073cc5295004405541c7b60ef4052b6e94fc6a849b0c5d55b2d0fb",
"created_at": 1713689159,
"kind": 1,
"tags": [
[
"t",
"siamstr"
]
],
"content": "ถ้าเงินมีจำกัด แล้วดอกเบี้ยมาจากไหน?\n\nถ้าทั้งโลกนี้มีเงินอยู่ 100 หน่วย และไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้\nสมมติ ผมมีเงินอยู่ 10 หน่วย\nคุณมี 0 หน่วยและอยากกู้เงินจากผม\nผมให้กู้ 10 หน่วย คิดดอกเบี้ย 1% หรือ 1 หน่วย\nคุณต้องหาเงินมาคืนผมให้ได้ 100 หน่วย บวก ดอกเบี้ยอีก 1 หน่วย รวมเป็น 101 หน่วย\nคำถาม : ดอกเบี้ยอีก 1 หน่วย คุณหามาจากไหน?\nตอบ : จากคนอื่นที่ไม่ใช่ผม\nถาม : แล้วคุณไปเอาเงิน 1 หน่วยจากคนอื่นมาได้ยังไง?\nตอบ : คุณก็ทำประโยชน์ให้คนอื่นจนเค้ายอมจ่ายเงินให้คุณ 1 หน่วย\n\nเราจะเห็นว่า ในระบบที่เงินเพิ่มจำนวนไม่ได้ คุณต้องตัดสินใจรอบคอบมากๆก่อนที่จะยืมเงินใครและให้ใครยืมเงิน เพราะว่า ดอกเบี้ยที่คุณต้องหามาจ่ายคืน มีทางเดียวที่จะได้มาคือ จากคนอื่น คุณไม่สามารถเสกมันขึ้นมาได้\n\nสิ่งนี้มันสำคัญมาก เพราะว่า เมื่อต้นทุนของดอกเบี้ยสูงมากขึ้น คุณจะต้องแน่ใจจริงๆว่า จะได้เงินคืนมาและจะหาเงินมาคืนได้\nถาม : แล้วคุณจะแน่ใจได้ยังไง?\nตอบ : ก็ต้องมีฝีมือ เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์มากพอในสิ่งที่คุณจะทำ\n\nณ ตอนนี้เรากำลังอยู่ในระบบที่สามารถเพิ่มจำนวนเงินขึ้นได้ไม่จำกัด\nมันส่งผลกระทบลงมาเรื่อยๆจากธนาคารกลางมาสู่ระดับบุคคล\nเมื่อมีคนบางคนในระบบสามารถหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยคืนได้ด้วยการเสกขึ้นมาใหม่ แทนที่จะมาจากคนอื่นในระบบ\nมันเลยทำให้ ต้นทุนของดอกเบี้ยลดลง คนที่กู้ยืมเงินก็ลดความรับผิดชอบของตัวเองลงเรื่อยๆ และในที่สุดก็ลดการพัฒนาและสั่งสมความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของตัวเองลง\nผลกระทบนี้เราได้เห็นกันแล้วกับตาตัวเอง มันเป็นผลกระทบที่ไหลลงมาเรื่อยๆจากแหล่งผลิตเงิน สินค้าสมัยก่อนกับปัจจุบันเช่นตู้เย็น เครื่องล้างจาน รถยนตร์ เป็นต้น\nเมื่อคุณภาพคนลดลง คุณภาพสินค้าก็ลดลงตามไปด้วย ผู้ผลิตให้ความสำคัญกับผลกำไรสูงสุดมากกว่าคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งาน\nสิ่งเหล่านี้ถูกปกปิดด้วยกลยุทธ์การตลาดบังหน้าไว้ด้วยดาราและอินฟลูเอนเซอร์อินเทรนด์ในแต่ละยุคสมัย\nเช่น แทนที่ตู้เย็นจะจุของได้เยอะและมีประสิทธิภาพมากขึ้น กลับชูจุดเด่นด้านรูปลักษณ์ภายนอก หรือแค่มีดาราคนนี้เป็นพรีเซนเตอร์ สิ่งของต่างๆมีฟังก์ชั่นเสริมมากมายที่ไม่จำเป็น เช่นเดียวกับผู้คนที่บริโภคสินค้าและบริการต่างๆที่ไม่ได้จำเป็นกับชีวิต แต่ถูกหลอกว่ามันจำเป็นต่อจิตใจ(ดีต่อใจ) \n\nบิตคอยน์คือระบบการเงินใหม่ ที่เพิ่มจำนวนขึ้นได้ยากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่ง(ประมาณปี ค.ศ. 2140) มันจะไม่สามารถเพิ่มจำนวนขึ้นได้อีก\nถ้าคุณเอาตัวเองไปอยู่ในระบบที่เงินสร้างยาก คุณภาพชีวิตของคุณจะต้องถูกบังคับให้ดีขึ้น เพราะว่าคุณจะอยู่ในระบบที่ผู้คนรอบตัวคุณถูกบังคับให้พัฒนาและรักษาคุณภาพของตัวเองอยู่เสมอ\n\nhard choices, easy life\neasy choices, hard life\n\n#siamstr",
"sig": "0022a9a2971fa25daab070f9c02b9e3dcdfc9db8561d922da0f2dd47124ee1e424b8b69fb6b9f75d1c3448525a30fd15d66dcc91bac16e117b1f25f55b433dca"
}