Why Nostr? What is Njump?
2024-10-11 08:21:41

pango on Nostr: The first 20 hours -- how to learn anything by Josh Kaufman | TEDxCSU 15.03.2013 # ...

The first 20 hours -- how to learn anything
by Josh Kaufman | TEDxCSU
15.03.2013

# Introduction
คุณ Josh เล่าว่าจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเขาเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนที่เขามีลูกสาวน้อง Lela ซึ่งการรับบทบาทเป็นพ่อและแม่ มันเป็นเรื่องที่เจ๋งสุดๆ แต่ก็ตามมาด้วยการเปลี่ยนแปลง การจัดลำดับความสำคัญในชีวิต และการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย เช่น การแต่งตัวให้ลูก ซึ่งเขายังทำได้ไม่ดีนัก

คุณ Josh และคุณ Kelsey ภรรยาของเขา ต่างก็ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัวและอยู่บ้านกันเป็นหลัก (work from home) เขาเป็นนักเขียนและภรรยาเป็นครูสอนคอร์สโยคะออนไลน์ ชีวิตของเขาทั้งสองคนนั้นยุ่งสุดๆ เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องจัดการให้เสร็จ ทั้งเรื่องงานและลูก หลายสัปดาห์ผ่านไป เขาเริ่มมีความคิดนึงเกิดขึ้นในหัว.. 'ชีวิตของเขาคงไม่มีเวลาว่างอีกแน่นอน' ซึ่งมันเหมือนจะจริงมากๆ ในวันนั้น

สิ่งนี้รบกวนจิตใจเขาอย่างมาก เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เป็นสิ่งที่เขาชอบมากกว่าสิ่งอื่นใด และเรียนรู้สิ่งต่างๆ อย่างต่อเนื่องทำให้เขาเติบโตและพัฒนาตัวเองต่อไปได้เรื่อยๆ

# The 10000 hour rule
เขาเริ่มเข้าไปห้องสมุด ร้านหนังสือ เพื่อค้นหาวิธีการที่เขาจะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้เร็วที่สุด และเพื่อที่จะตอบคำถามว่า 'ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะมีทักษะใหม่เกิดขึ้นได้' คำตอบคือ 10,000 ชั่วโมง หรือ กฎ 10,000 ชั่วโมง (The 10000 hour rule)! งั้นฉันคงไม่มีวันได้เรียนรู้อะไรใหม่อีกเลยแน่ๆ (เขาคิด)

10,000 ชั่วโมงนี่มันยาวนานมาก นานพอจะเป็น full-time job ได้เลยนะ พวกเราต่างเคยต้องเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในชีวิตกันใช่ไหม มันไม่เห็นต้องใช้เวลาขนาดนั้นเลย จริงๆ แล้วกฎ 10,000 ชั่วโมง มันออกมาจากงานวิจัยที่วัดประสิทธิภาพในระดับผู้เชี่ยวชาญ โดยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยรัฐฟลอลิด้า ชื่อคุณ K. Anders Ericsson. งานวิจัยนี้ทำในนักกีฬามืออาชีพ นักดนตรีระดับโลก ปรมาจารย์ด้านหมากรุก และเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งยิ่งใช้เวลาไปกับการเรียนรู้และฝึกฝนมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งทำสิ่งนั้นได้ดีขึ้นตาม และ 10,000 ชั่วโมงคือระยะเวลาเฉลี่ยที่คุณจะขึ้นเป็นสู่การเป็นระดับต้นๆ ของวงการนั้น

นั่นหมายความว่า..
ต้องใช้ 10,000 ชั่วโมงสู่การขึ้นเป็นระดับท็อป
ต้องใช้ 10,000 ชั่วโมงเพื่อที่จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ต้องใช้ 10,000 ชั่วโมงเพื่อที่จะเก่งในสักเรื่องนึง
และต้องใช้ถึง 10,000 ชั่วโมง เพื่อที่จะเรียนรู้เรื่องใดสักเรื่อง
มันไม่จริงเลยครับ!

# The learning curve
เขาเริ่มใช้เวลาที่ห้องสมุด CSU มากขึ้น เพื่อศึกษาว่าเพราะอะไร และค้นพบว่าในงานวิจัย ผู้เข้ารับการทดลองจะได้รับงานๆ นึง ซึ่งงานนั้นอาจจะต้องใช้ทักษะทางกายภาพหรือทางจิตใจ ผู้เข้ารับการทดลองส่วนใหญ่จะใช้เวลาค่อนข้างนานเนื่องจากนั่นคือสิ่งใหม่ในชีวิตพวกเขาและผลลัพธ์อาจจะไม่เป็นที่น่าพึงพอใจในช่วงแรก (กราฟ รูปที่ 1) แต่อย่างไรก็ตามการฝึกฝนตอนเริ่มต้นเป็นช่วงที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพอย่างมาก และผู้คนต่างจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดี แม้ว่าจะเพิ่งฝึกฝนไปได้เพียงระยะเวลาสั้น

ทีนี้ถ้าทักษะที่เราต้องการเป็นทักษะที่เราทำเพื่อตัวของพวกเราเอง เราก็ไม่สนใจว่ามันต้องใช้เวลาเท่าไหร่ แต่สิ่งที่เราสนใจคือเราทำมันได้ดีมากน้อยแค่ไหน (กราฟ รูปที่ 2) ตอนเริ่มแรกคุณอาจจะยังขาดคุณสมบัติอีกมากมาย แต่เมื่อคุณค่อยๆ เรียนรู้มันทีละนิด คุณจะเริ่มทำมันได้ดีและเร็วมาก จนถึงจุดหนึ่งที่เส้นกราฟจะเริ่มชะลอตัวหรือขยับช้าลง ซึ่งจุดนั้นการพัฒนาจะเริ่มยากขึ้นและใช้เวลาเพิ่มขึ้น

คำถามคือ 'เราต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ จากจุดเริ่มต้นที่เรายังไม่มีทักษะอะไร ไปจนถึงจุดนั้นที่เรากล่าวมาก่อนหน้า' คำตอบคือ 20 ชั่วโมงครับ! ทีนี้ล่ะ ไม่ว่าเราจะอยากเรียนภาษา วาดรูป ตัดต้นไม้ทำฟืน คุณเพียงแค่ใช้ 20 ชั่วโมงในการตั้งใจจดจ่ออยู่กับมัน แล้วคุณจะประหลาดใจว่ามันเป็นไปได้และคุณจะทำมันได้ดีด้วย (ประมาณ 45 นาทีต่อวัน ประมาณหนึ่งเดือน)

# Method
20 ชั่วโมง อาจจะดูเป็นตัวเลขที่ยากจะคิดคำนวณ แต่เขามีวิธีอันชาญฉลาด และเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด อีกทั้งคุณยังสามารถทำมันได้อีกด้วย นั่นคือการ 'แยกองค์ประกอบ' (deconstruct) ทักษะที่เราอยากเรียนรู้ออกเป็นส่วนเล็กๆ เพราะทักษะส่วนใหญ่เรามักคิดมันคือเส้นเชือกมัดใหญ่และเต็มไปด้วยสิ่งที่ต้องรู้แตกต่างกันมากมายมัดรวมกันอยู่ เมื่อค่อยๆ แบ่งส่วนย่อยออกมา เราจะเห็นส่วนที่เราต้องการมันจริงๆ และเริ่มฝึกฝนสิ่งนี้ก่อน ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เราได้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเราได้ในระยะเวลาอันสั้น

ขั้นตอนถัดไปคือ คุณต้องเรียนรู้มากพอที่จะตรวจความถูกต้องด้วยตนเอง (self-correct) สิ่งนี้จำเป็นต้องใช้ 3-5 แหล่งข้อมูล (หนังสือ DVD ฯลฯ) แต่ห้ามใช้มันเป็นข้ออ้างในการผลัดวันประกันพรุ่ง! และค่อยๆ ขจัดอุปสรรค (Remove barriers) ออกไป อะไรก็ตามที่ขัดขวางการเรียนรู้ของคุณ เช่น TV และ internet

เมื่อปฏิบัติตามนี้ คุณจะค่อยๆ ใช้เวลาอย่างน้อย 20 ชั่วโมงต่อจากนี้อย่างตั้งใจและจดจ่อ (Practice for 20 hours) จากนั้นคุณจะเริ่มเผชิญหน้ากับ frustration barrier ซึ่งเป็นความรู้สึกเบื่อหน่ายหรือโง่เขลาในช่วงหนึ่งของการเรียนรู้ แต่สิ่งเหล่านี้จะผ่านไป เมื่อคุณมุ่งหน้าเรียนรู้สิ่งใดๆ ติดต่อกันยาวนานอย่างน้อย 20 ชั่วโมง มันยาวมากพอที่คุณจะได้รับรางวัลจากสิ่งที่คุณทำ และนี่คือ 4 ขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณจะนำมันไปใช้เรียนรู้อะไรก็ได้

คุณ Josh ยกตัวอย่างการฝึกเล่น Ukulele ของเขาและเขานำมันมาเล่นโชว์บนเวทีด้วย ขั้นแรกคือเราต้องมี Ukulele สักเครื่อง เขาเริ่มต้นที่การติดตั้งสาย จูนเสียง และฝึกซ้อมมัน เขาเริ่มค้นหาเพลงและคอร์ดที่จะเล่นทางออนไลน์ และค้นพบว่าจำนวนคอร์ดนั้นมีมากมายหลายร้อยคอร์ด นั่นทำให้เขาเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา แต่แท้ที่จริงแล้ว ในเพลงหนึ่งเพลง คอร์ดมันถูกใช้ซ้ำไปซ้ำมา กลายเป็นว่าการเล่น Ukulele ก็เหมือนเขาแทบไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะเพลงส่วนใหญ่ใช้ประมาณ 4-5 คอร์ดเท่านั้นเอง

เขาเริ่มเล่นชุดเพลง medley จากเพลงป๊อปที่เขาเพิ่งเจอมา จากวงที่ชื่อว่า Axis of Awesome. (Whistles) ซึ่งเพลงทั้งหมดใช้เพียงแค่ 4 คอร์ด คือ G, D, Em and C (มักพบคอร์ดนี้ในทุกเพลงป๊อปด้วย) หลังเล่นเสร็จ เขายังกล่าวด้วยว่านี่คือการฝึกเล่นเพียง 20 ชั่วโมงของเขาเท่านั้น มันเจ๋งมากใช่ไหม

# Conclusion
ไม่ว่าคุณจะอยากเรียนรู้อะไรใหม่ก็ตาม ความรู้สึกไม่เก่ง ไม่ถนัด (intellectual) ในตอนต้นนั้นจะเป็นกำแพงสำคัญที่มีผลต่อจิตใจของคุณ มันทำให้คุณรู้สึกกลัว รู้สึกโง่เขลา รู้สึกกลัว และรู้สึกไม่ดี (emotional) ซึ่งภาวะทางจิตใจนั้นมีผลมากที่สุด แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณจงใช้เวลา 20 ชั่วโมงใส่ไปกับทุกเรื่อง ทุกทักษะที่คุณอยากเรียนรู้ จงออกไปและทำมัน ขอให้มีความสุขครับ :)

4 simple steps *ย้ำอีกครั้ง
1. แยกองค์ประกอบ (deconstruct)
2. ตรวจความถูกต้องด้วยตนเอง (self-correct)
3. ขจัดอุปสรรค (Remove barriers)
4. Practice for 20 hours

*Josh Kaufman is the author of the #1 international bestseller, 'The Personal MBA: Master the Art of Business', as well as the upcoming book 'The First 20 Hours: Mastering the Toughest Part of Learning Anything.' Josh specializes in teaching people from all walks of life how to master practical knowledge and skills. In his talk, he shares how having his first child inspired him to approach learning in a whole new way.

#siamstr


https://youtu.be/5MgBikgcWnY
Author Public Key
npub1hwaqxl6lh5mf5r5gly5jpjh0xfucc4ltrl7pclxqzdrfxv7a2ekqsmns92