ครั้งล่าสุดที่ฟาสยาว 70 กว่าชม ไปกินของหนักเลยท้องเสีย
ได้บทเรียน ครั้งนี้เลยกินของอ่อนๆ ช่วยได้เยอะเลย
ความรู้สึกระหว่างที่ฟาสคือ
วันแรก หิวทุกครั้งที่ได้กลิ่นอาหาร ความอยากยังมีเต็ม วันที่สองเริ่มลดลง วันที่สามไม่หิวเลย แม้จะนั่งดูคนทำอาหารก็ไม่ค่อยอยากแล้ว
ระหว่างที่ฟาสจะคอยจิบน้ำผสมดอกเกลือตลอดวัน เพื่อไม่ให้ขาดแร่ธาตุ
วันที่สามเริ่มมีอาการหน้ามือตอนที่ลึกจากท่านอนไวๆ เริ่มรู้สึกว่าระดับน้ำตาลในเลือดกับความดันน่าจะต่ำลง เวลาทำกิจกรรมอะไรต้องค่อยๆทำ
จุดประสงค์ของการทำฟาสยาวครั้งนี้ คือ การทำให้เกิดการรีไซเคิลเซลล์เก่าๆที่เสื่อมสภาพแล้วในร่างกายหรือ Autophagy และ ดึงไขมันส่วนเกินมาใช้ ให้ได้มากที่สุด
(Autophagy ช่วยให้เกิดการขจัดการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ด้วยนะครับ มันดีมากที่ร่างกายได้เคลียของเสียบ้าง)
เคยอ่านเจอมาว่า ร่างกายจะเก็บสารพิษหรือสิ่งแปลกปลอมที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้ ไว้ในเซลล์ไขมัน
การที่้เรา ทำให้เกิดสภาวะ คีโตสิส ร่างกายใช้พลังงานหลักเป็นไขมันที่ดึงมาจากเซลล์ไขมัน
สารพิษเหล่านั้นจะกระจายออกมาด้วย
ผลที่ได้คือ ผมมีผื่นแดง ขึ้นที่บริเวณหน้าอกและคอ
ซึ่งเป็นจุดเดียวกับระบบทางเดินหายใจ ที่ผมเองรู้สึกว่ามันทำงานไม่ค่อยดีมาระยะหนึ่งแล้ว(สังเกตได้จากการมีเสมหะอยู่บ่อยๆ) หวังว่าการฟื้นฟูครั้งนี้จะช่วยฮีลระบบทางเดินหายใจให้ดีขึ้นได้ ต้องคอยติดตามอาการต่อไป
ทำไมต้องมาทำฟาสตอนนี้?
อีกเหตุผลคือ มันตรงกับวันเกิดผมพอดีครับ ผมเข้าวัยเลข 3 แล้ว!
วัยที่ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว และเริ่มมีความรับผิดชอบมากขึ้น
ผมจะต้องเจอความท้าทายใหม่ๆอีกมากๆๆกว่าช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
มันจะยากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นผมเลยอยากเตรียมร่างกายให้พร้อมปะทะกับทุกแรงกดดันที่จะถาโถมเข้ามา
ผมพยายามดูแลสุขภาพ ไม่ใช่เพื่อให้แข็งแรง แต่เพื่อที่จะไม่เจ็บป่วยง่ายๆเมื่อเจอสภาวะแวดล้อมที่โหดร้าย(ขึ้นทุกวันๆ)
แค่นั้นเองครับ ผมไม่ได้จะเป็นยอดมนุษย์
ผมแค่อยากอายุยืนในแบบ Anti-fragile
(ถ้าคุณเข้าใจบิตคอยน์ คุณน่าจะเข้าใจความหมายของคำนี้นะครับ 😊)
การดูแลสุขภาพที่ยั่งยืนคือเรื่องของวินัย
ถ้าเรารู้ว่าอะไรที่เรารับเข้ามาในร่างกายมีผลดีผลเสียยังไง เราจะหาสมดุลกับการใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นครับ
สุขสันต์วันเกิดให้ตัวผมเอง ขอให้วันนี้มีร่างกายและจิตใจที่มั่นคงและเข้มแข็งขึ้นกว่าเมื่อวานครับ 🥩🤙🏻
#Siamstr
