สวัสดีตอนเที่ยง น้องวัวได้รวบรวมโน๊ตที่ท่านอาจจะพลาดไป ลองไปชมกันเลย!
#IFFTalk ep 124:
Fat cell เซลล์ไขมัน
การเปลี่ยนแปลงลักษณะของเซลล์ไขมัน
ไขมันเก็บสะสมอยู่ในเซลล์ (Adipocyte)
ตำแหน่ง
1. Subcutaneous fat ใต้ผิวหนัง
ex เหนียง แก้ม พุง หน้าอก ท้องแขน
2. Visceral fat ในช่องท้อง
ex พุง ดื่มแอล (อ้วนลงพุง)
Adipocyte
(เกิดจาก cell ทั่วไป สะสม droplets ของไขมัน > ฟีบและเต่งได้ ขึ้นกับปริมาณ จำนวนไขมันที่มี ทุกคนมีจำนวน fat cell จำกัด ขึ้นกับกรรมพันธุ์)
ประเภท Adipocyte/fat cell
1. Brown fat cell พบที่คอ บ่า ไหล่ มีตั้งแต่เกิด พบมากตอนเราเป็นเด็ก มีเองโดยธรรมชาติ สร้างเพิ่มไม่ได้* ยิ่งเราอายุมากขึ้น จำนวน brown cell จะลดลงเรื่อยๆ
2. Beige fat cell (ลูกครึ่งระหว่าง Brown+White) เซลล์ไขมันที่ดี เปลี่ยนรูปร่างมาจาก white fat cell เราสร้างเพิ่มได้
3. White fat cell มีทั่วร่างกาย 80-90% ของจำนวน fat cell ทั้งหมด มีเองโดยธรรมชาติ และขึ้นกับพฤติกรรมกับการกิน ที่มีผลทำให้เซลล์เต่งขึ้นหรือแฟ่บลง
การดูดไขมัน คือ การดูดเซลล์ไขมันออกไปด้วยทั้งเซลล์ แต่ร่างกายสร้างเซลล์ไขมันกลับมาได้อีก หากเราไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ลักษณะเซลล์ (ใต้กล้องจุลทรรศ์)
Brown fat cell: เซลล์แน่น (dense) พบก้อนเล็กๆ พบ Mitochondria เยอะ
Beige fat cell: ไม่ dense เท่า brown cell พบ Mitochondria กลางๆ
White fat cell: เซลล์อ้วนๆ เต่งๆ ตรงกลางมีช่องว่าง คือ ไขมัน พบ Mitochondria น้อย
- Brown (stock + burn*)
เอาไว้ทำความร้อน/heat (สร้าง ATP) เด็กขี้ร้อน ไม่ค่อยหนาว (พบตอนเราเป็นเด็ก)
- Beige (stock + burn)
คือ สิ่งที่เราต้องการ*
- White (stock*)
เรากำจัด White fat cell ให้เป็น 0% ไม่ได้* ยังไงเราต้องมี ไม่ว่าจะมาก/น้อย มีจำนวนเท่าเดิมเสมอ พบเต่งหรือฟีบ มีหน้าที่เก็บ lipid droplet (fat) เท่านั้น ซึ่งต่อไปสามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็น TG เข้ากระบวนการ Gluconeogenesis/ choles ผลิต Hormone
คือ สิ่งที่ทำให้เราอ้วน
หากต้องการให้เซลล์แฟบ/ฟีบลง เราต้องทำ IF*
สิ่งที่เราต้องการ
1. ปรับ White > Beige fat cell ให้มากที่สุด
2. รักษา Beige และ Brown fat cell ที่มีอยู่ให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
วิธีเพิ่ม Beige fat cell
- Cold exposure (เจอความเย็น)
- Exercise: Cold/Heat therapy > Heat ทำให้เกิด Autophagy
- IF: เกิด Autophagy
- Food: Natural/Real food ลดของแปรรูปและน้ำตาล
- Sunlight
- Grounding
# สรุป คือ ลดความเครียด เกิด Autophagy เพื่อสุดท้ายเพื่อ 'ลดการอักเสบ' **
Hot/Cold therapy
Hot: Sauna การไหลเวียนโลหิต flow ดี สูบฉีดแรงขึ้น เมื่อมีสารอาหารและ O2 ที่เพียงพอ ทำให้เซลล์มีเสบียงเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงจาก White เป็น Beige (Mito แบ่งตัวได้เยอะขึ้น)
Cold: ว่ายน้ำ แช่น้ำแข็ง
Food
การกินอาหารรสเผ็ด เพิ่มความร้อนให้กับร่างกายจากภายใน เผ็ด = การ burn จริงๆ ไม่ใช่รสชาติ เพราะลิ้นเราไม่มีต่อมรับรสเผ็ด กินอาหารมี Omega (O-3 : O-6 ratio* เหมาะสม) เราต้องการ omega 3 มากกว่า omega 6 (ในอาหารแปรรูป พบ O-6 มากกว่า) ex ปลาน้ำจืดที่เลี้ยงพบ O-6 สูง (ปลาตามธรรมชาติพบน้อยกว่า)
# ธรรมชาติ คือ 'ง่าย' และกินให้ 'หลากหลาย' นะคะ
#siamstr
ที่มา:
https://www.youtube.com/watch?v=gZsqgjY_by0&t=19s
GM #siamstr วันหยุดทำไรกันครับ?
จากคลิปนี้ที่คุณ CK พูดถึงทุนจีนที่จะเข้ามาทำลายบ้านเรา โดยบอกว่ามันจะมาฆ่า SME ไทย ประเทศไทยกำลังทำอะไรกันอยู่ในเชิงทำไมถึงไม่กีดกันประเทศจีน คุณ CK ยกตัวอย่างประเทศจีนและเวียดนามที่มีการกีดกันการค้าจากภายนอกและให้คนในประเทศเขาสร้างนวัตกรรมเพื่อมาใช้ทดแทนกัน อย่างเช่น Facebook Instagram จีนก็มี WeChat เป็นต้น
ซึ่งในความคิดของผมแล้วมันมีอีกประเด็นหนึ่งที่เราควรจะคำนึงถึงนั่นก็คือ Human Ware
Human คือแนวคิดที่ผมได้ยินครั้งแรกจากเฮียวิทย์ เป็นแนวคิดที่วิเคราะห์ว่าคนแต่ละชาตินั้นมีการคิดการอ่านอย่างไร ตัวอย่างเช่นคนเยอรมันเป็นคนที่ชอบจดบันทึกเป็นคนที่มีความคิดอาจเป็นระบบ คิดระบบให้แล้วปรับคนให้เข้ากับระบบ ในขณะที่อิตาลีเป็นชาติที่ให้ความสำคัญกับคน ครอบครัว อย่างที่เราจะเห็นในแก๊งมาเฟียที่อยู่กันเป็นครอบครัว ยกตัวอย่างฟุตบอลอิตาลีที่จะดูเหนื่อยๆช้าๆ แต่เขาก็ชนะ เพราะเขาทำความเข้าใจคนแล้วถึงค่อยปรับระบบให้เข้ากับคนที่มี (นึกง่ายๆก็อัลเช่จาก Real Madrid ที่เป็นคนอิตาลีกับ Klopp ที่เป็นคนเยอรมัน)
หากพูดถึง Human ware ของคนไทย ก็จะคล้ายกับคนอิตาลี ทำอะไรวินาทีสุดท้าย ให้ความสำคัญกับครอบครัวเพื่อนฝูง ละเมียดละไมกับอาหารการกิน ฯลฯ
และการทำอะไรในวินาทีสุดท้าย นั่นหมายความว่าเขาต้องมีแรงกระตุ้น ซึ่งนี่เป็นจุดที่ทำให้ต่างจากจีนหรือเวียดนาม ที่การใช้นโยบายภาครัฐในการกีดกันทางการค้าจะทำให้รายเล็กสร้างนวัตกรรมได้ แต่คนไทยไม่ได้เป็นแบบนั้น คนไทยแล้วต้องมีอะไรจี้ตูดอย่างเช่น ทุนจีนเป็นต้น ถ้าไม่มี Deadline เราก็จะไม่ทำอะไร ถ้าไม่มีโควิดคนส่วนใหญ่คงไม่ใช้พร้อมเพย์ ถ้าบริษัทไม่ไล่พนักงานออกเราคงไม่เห็นฟรีแลนซ์ และถ้าไม่มีทุนจีนมาจี้ตูดแล้วก็คงไม่ปรับตัว
ในวันที่ดูเหมือนไม่มีทางออกแล้วมืดแปดด้าน ทุนจีนก็มี AI ก็มา เราจะออกจากตรงนี้ได้ยังไง? นั่นคือความสามารถพิเศษของคนไทยอีก 1 อย่าง นั่นก็คือการเอาตัวรอดนั่นเอง ถ้ามืดแปดด้านแล้วจะหาทางที่ 9 ได้เสมอ นี่แหละคือสัญชาตญาณการเอาตัวรอดที่ทำให้เราอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้
เมื่อเรารู้ถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของคนแบบชาติเราแล้ว ถึงเวลาหรือยังที่เราจะปรับปรุงและพัฒนาระบบนี้ให้มันดีขึ้นสักที
Focus → Fight → Win #siamstr
https://youtu.be/ABTrnjcRbQs?si=kF6mjI_MfzCUxhlA
## ที่จอดรถแบบค้างคืน สำหรับคนไปงาน TBC 2024
ผมเป็นคนนึงที่จองที่พักที่โรงแรม Lumen Udomsuk แต่พอได้รู้ข่าวจากเพจ RS ว่าที่จอดรถมีน้อยเหลือเกิน เลยลองโทรไปถามที่ รร. ได้ความว่า มีที่จอดไม่เยอะมาก แต่ถ้าผมมาแต่เช้าก็อาจจะยังว่างอยู่เพราะแขกที่พักส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ (นึกในใจตอนแรกกะไปวัดดวง แต่พอเอ็มทักมาบอกว่าทีมงาน RS น่าจะไปก่อนวันงานด้วย ส่วนผมที่ไปจากฉะเชิงเทราดูแล้วไม่น่ารอด 555) ผมเลยเริ่มหาที่จอดรถแบบที่จอดแบบค้างคืนได้ด้วย ตามนี้ครับ
เริ่มต้นที่ รร. Lumen ก่อน ใครอยู่ ตจว. ไม่ค่อยได้เข้ากรุงเหมือนผม สามารถกด google มาตาม map ได้เลยพอเลี้ยวเข้า ซ.สุขุมวิท 103 ทางเข้าจะอยู่ติด SCB เลยครับ (รูปใน Map ยังไม่ update นะครับ)
กลับมาที่เรื่องที่จอดรถแบบจอดค้างคืนได้ ผมหามาได้ 3 ที่
1. โรงแรม Golden pearl bangkok มีที่จอดประมาณ 50-70 ที่ ราคาที่จอด 150 บาทต่อ 24 ชม. จ่ายเงินที่ป้อม รปภ.ได้เลย อยู่ซ.สุขุมวิท 101 เดินไป True digital park ได้ภายใน 5 นาที หากใครของเยอะก็ไปเอาของลงที่ Lumen ก่อน แล้วก็วนกลับมาจอดที่นี่แล้วค่อยเดินไปงานก็ได้
2. ลานจอดรถ ซ.สุขุมวิท 101 อยู่เลยโรง golden มานิดเดียว ที่จอดน่าจะมีเยอะอยู่เพราะเป็นลานกว้าง ราคา 200 บาทต่อ 24 ชม. จ่ายเงินที่ป้อม รปภ. ได้เลย (คุณแอนที่เป็นผู้ดูแลฝากบอกว่าชวนเพื่อนมาจอดเยอะนะคะ 555) เดินไป True digital park ได้ภายใน 6 นาที
3. อยู่ซ.สุขุมวิท 103(ซ.เดียวกับ Lumen นั่นแหละ) ขับตรงเข้าไปเรื่อยอยู่ตรงอุดมสุข ซ.11(ข้อเสียคือไกลจาก true digital พอสมควรเลย) ราคาประมาณ 1xx บาท (พนง. ที่ Lumen บอกมาแต่ผมลืมจำราคาเป๊ะๆไม่ได้ต้องขออภัยด้วยครับ)
สำหรับผมตัวเลือกที่ 1 และ 2 ดูสะดวกที่สุดสำหรับจอดแบบค้างคืน ส่วนตัวเลือกที่ 3 ที่ดูไกลหน่อยแต่ก็สามารถนั่งวินมอไซออกมาที่ปากซอยได้ครับเผื่อใครสะดวกตัวเลือกนี้
หวังว่า note นี้จะมีประโยชน์กับทุกคน แล้วเจอกันที่งาน TBC2024 ครับ^^
#siamstr #TBC2024
หมาผมเล่นนะครับมันไม่กัด.. กดแล้วมันจะเก่า
https://relay.rushmi0.win
#siamstr
"ไทบ้าน International"
นี่คือคำนิยามที่ผมจะมอบให้กับน้องมิน buriram boy
ซึ่ง concept ของมินมันเหมือนกับ วงหมอรำ
"พาราไดซ์บางกอกหมอลำอินเตอร์เนชันแนล"
นั่นคือการนำของที่ "ไทบ้าน" มาปัดฝุ่น แล้ว dressing ใหม่
ให้มันมีความ "inter"
Value in your brain
- ลายเส้นบนภาพวาดที่อยู่บนกระป๋องของเบียร์ buriram boy นั้นเป็นลายไทย fusion ผสมกลิ่นอายของดนตรีตะวันตกยุค 70's มันเป็น modern art ที่วาดด้วย pen pad ยี่ห้อ vertex จากเยอรมันนี มันเป็นผลงานศิลปะที่หลุดมาจากยุครุ่งเรืองหลังสงครามโลกครั้ง 2 หรือที่เราเรียกติดปากว่า "city pop"
ซึ่งทุกกระป๋องของ buriram boy นั้น มีราคาถึง 5,000 บาท
E-sarn just a Park Soi
- ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาไปไกล การค้าก้าวไกลขึ้น software และ platform ต่างๆ เข้ามาช่วยให้ชีวิตมนุษย์สะดวกสบาย และได้ผลักดันการค้าจากแดนไกลให้มาขายใกล้ชิดติดจมูกเราได้อย่างสบายๆ ขนาดผัก ผลไม้ จากประเทศจีน ยังมาขายที่ตลาดคลองเตยได้เลย เราจึงรู้ว่า จีน เหมือนกับอยู่แค่ปากซอย แล้วทำไมน้องมินจะทำให้ product จากจังหวัดบุรีรัมย์ จะมาอยู่แค่ปาดซอย กทม บ้างไม่ได้?
The new move
- แม่ของมิน เป็นคนที่มี know how ในการผลิต "เหล้าโทดอกอัญชัน" มาเป็นเวลานาน แม่เขาขายอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆของเขา เหล้าโทดอกอัญชันนี้เป็นที่นิยมชมชอบของเหล่าวัยรุ่ยวีรบุรุษทางหลวงยิ่งนัก รสชาติหอมหวานนิดหน่อย อร่อยทานง่าย และความพิเศษของช่างชุ่ยง่านนี้คือ พวกเราจะได้ยลโฉมเหล้าโทดอกอัญชันที่มาในขวดใส สีฟ้าสวย พร้อม re-design ฉลากใหม่ โดยใส่ concept ข้างในยังเหมือนเดิม คือการ จับ local มาทำเป็น global พร้อมสนนราคาเพียงขวดละ 100 บาท เท่านั้น
นี่คือคุณค่าที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นโดยแท้จริง
เจอกันในงานช่างชุ่ย
#ขี้ไม่แตกแจกทอง
#siamstr
ประวัติศาสตร์ของระบบการเงินดิจิตอลของแทร่
ที่กำลังอุบัติขึ้นอย่างกระจายศูนย์ เพื่อมอบความรู้ใหม่ให้แก่ผู้คนทั่วโลกได้ศึกษาและเข้าใจ ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ
#bitcoin #diploma #siamstr
#siamstr