Hipknox on Nostr: ใช่มะ ;) ปล. ...
ใช่มะ ;)
ปล. คำอธิบายนี้ไม่อิงตามหลักของพจนานุกรมใด ๆ แค่อยากบอกเฉย ๆ
คือเราเอาคำว่า “เข้าใจ” มาเติมคำนำหน้าว่า “ถ้า” ที่มีความหมายเป็น เงื่อนไข (เหมือน if/else ในการโปรแกรม) พอรวมกันเป็นคำว่า “ถ้า+เข้าใจ” มันเลยเป็นเงื่อนไข 2 ตัวเลือก ระหว่างสิ่งที่ตรงข้ามกัน ระหว่าง “เข้าใจ (true) ” กับ “ไม่เข้าใจ (false)” แล้วใช้ “จะ” เพื่อเป็นการเน้นย้ำผลลัพธ์ของคำว่า “เข้าใจ“ อีกทีว่าจะให้ผลลัพธ์จากเงื่อนไงยังไงบ้าง
ดังนั้นมันเลยมีความหมายจากการย่อเป็นคำพูดสั้น ๆ ของ ”ถ้าเข้าใจ จะเข้าใจ“ ว่า
[ถ้าหากว่าคุณเข้าใจ คุณจะเริ่มเข้าใจมันมากขึ้น], แต่ถ้าหากคุณไม่เข้าใจ คุณก็จะไม่มีวันเริ่มเข้าใจมัน
งง กว่าเดิมมั้ยนะ, ภาษาเวลาเอามาย่อให้สั้น ๆ โดยที่ไม่มีบริบท เวลาต้องตีความแต่ละคนจะตีความไม่เหมือนกัน สงสัยได้กลับไป Long-Form แบบเดิมดีกว่า 555
ในบริบทนี้คำว่า “เข้าใจ” เป็นคำเชิงบวก ให้ผลลัพธ์ที่เพิ่มขึ้น ส่วน “ไม่เข้าใจ“ เป็นคำเชิงลบ ให้ผลลัพธ์ที่เท่าเดิมอยู่กับที่
เช่น
บอกเล่า
”ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมถึงมีคนถือบิตคอยน์“
ก็คือผมไม่อยากจะเข้าใจมันนั่นแหละ
”ผมเข้าใจแล้ว ทำไมบิตคอยน์ถึงมีแค่ 21 ล้านหน่วย“
ก็คือเข้าใจแล้วว่าการมีซัพพลายจำกัดดียังไง แต่ถ้าเรียนรู้เพิ่มก็จะเข้าใจต่อไปอีกว่าทำไมมันถึงต้องเป็นแค่ 21 ล้านหน่วยไม่มากไม่น้อยกว่านี้
“ผมเข้าใจแล้ว ทำไมบิตคอยน์ถึงไม่เหมาะกับผม”
ก็คือเข้าใจจากการได้ศึกษามันแล้วว่า บิตคอยน์มันจะทำลายมูลค่าของทรัพย์สินประเภทอื่น ๆ ที่เขามีในหน่วยของเฟียต ถ้าหากว่าบิตคอยน์มันประสบความสำเร็จ เขาถึงรู้ดีว่าจะต้องต่อต้านมัน
บอกเล่า แต่ระวังการกลับความหมาย
“ผมเข้าใจครับ / แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้เข้าใจ”
“ครูครับ ผมไม่เข้าใจบทเรียนบทนี้ / เข้าใจ แต่ยังเข้าใจไม่ทั้งหมด แต่ใช้การสื่อสารว่าไม่เข้าใจ เพื่อที่จะให้ครูอธิบายให้เข้าใจมากขึ้น”
นั่นแหละ ทำไมประโยคคำพูดสั้น ๆ ถึงสามารถทำคนให้ทะเละกันได้, พวกที่ชอบตัดเอาแค่ Quote สั้น ๆ มาแปะก็ด้วย
Published at
2024-04-10 10:18:47Event JSON
{
"id": "e58f42698c69556984ba5fc0c82f76e2e86b15778b3b8ca6dbb8824675d4d9e3",
"pubkey": "0bd1f20c47a4f87d232cfdc70415710a29cb8ee08c10e96c87d880fb3cbb8bc2",
"created_at": 1712744327,
"kind": 1,
"tags": [
[
"e",
"7a62d32dd622dfb329ab6de8d11cb1e68154fcff277d41a3bb88516225d3a965",
"",
"root"
],
[
"e",
"dc94cfd2d02c58aae9b5dc80bbfb0989e25c5c008cb4db065a758761c123e038",
"wss://nostr-01.yakihonne.com/",
"reply"
],
[
"p",
"03742c205cb6c8d86031c93bc4a9b3d18484c32c86563fc0e218910a2df9aa5d"
],
[
"p",
"0bd1f20c47a4f87d232cfdc70415710a29cb8ee08c10e96c87d880fb3cbb8bc2"
]
],
"content": "ใช่มะ ;)\n\nปล. คำอธิบายนี้ไม่อิงตามหลักของพจนานุกรมใด ๆ แค่อยากบอกเฉย ๆ\n\nคือเราเอาคำว่า “เข้าใจ” มาเติมคำนำหน้าว่า “ถ้า” ที่มีความหมายเป็น เงื่อนไข (เหมือน if/else ในการโปรแกรม) พอรวมกันเป็นคำว่า “ถ้า+เข้าใจ” มันเลยเป็นเงื่อนไข 2 ตัวเลือก ระหว่างสิ่งที่ตรงข้ามกัน ระหว่าง “เข้าใจ (true) ” กับ “ไม่เข้าใจ (false)” แล้วใช้ “จะ” เพื่อเป็นการเน้นย้ำผลลัพธ์ของคำว่า “เข้าใจ“ อีกทีว่าจะให้ผลลัพธ์จากเงื่อนไงยังไงบ้าง\n\nดังนั้นมันเลยมีความหมายจากการย่อเป็นคำพูดสั้น ๆ ของ ”ถ้าเข้าใจ จะเข้าใจ“ ว่า \n\n[ถ้าหากว่าคุณเข้าใจ คุณจะเริ่มเข้าใจมันมากขึ้น], แต่ถ้าหากคุณไม่เข้าใจ คุณก็จะไม่มีวันเริ่มเข้าใจมัน\n\nงง กว่าเดิมมั้ยนะ, ภาษาเวลาเอามาย่อให้สั้น ๆ โดยที่ไม่มีบริบท เวลาต้องตีความแต่ละคนจะตีความไม่เหมือนกัน สงสัยได้กลับไป Long-Form แบบเดิมดีกว่า 555\n\nในบริบทนี้คำว่า “เข้าใจ” เป็นคำเชิงบวก ให้ผลลัพธ์ที่เพิ่มขึ้น ส่วน “ไม่เข้าใจ“ เป็นคำเชิงลบ ให้ผลลัพธ์ที่เท่าเดิมอยู่กับที่\n\nเช่น \n\nบอกเล่า\n”ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมถึงมีคนถือบิตคอยน์“\n\nก็คือผมไม่อยากจะเข้าใจมันนั่นแหละ\n\n”ผมเข้าใจแล้ว ทำไมบิตคอยน์ถึงมีแค่ 21 ล้านหน่วย“\n\nก็คือเข้าใจแล้วว่าการมีซัพพลายจำกัดดียังไง แต่ถ้าเรียนรู้เพิ่มก็จะเข้าใจต่อไปอีกว่าทำไมมันถึงต้องเป็นแค่ 21 ล้านหน่วยไม่มากไม่น้อยกว่านี้\n\n“ผมเข้าใจแล้ว ทำไมบิตคอยน์ถึงไม่เหมาะกับผม”\n\nก็คือเข้าใจจากการได้ศึกษามันแล้วว่า บิตคอยน์มันจะทำลายมูลค่าของทรัพย์สินประเภทอื่น ๆ ที่เขามีในหน่วยของเฟียต ถ้าหากว่าบิตคอยน์มันประสบความสำเร็จ เขาถึงรู้ดีว่าจะต้องต่อต้านมัน\n\nบอกเล่า แต่ระวังการกลับความหมาย\n“ผมเข้าใจครับ / แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้เข้าใจ”\n“ครูครับ ผมไม่เข้าใจบทเรียนบทนี้ / เข้าใจ แต่ยังเข้าใจไม่ทั้งหมด แต่ใช้การสื่อสารว่าไม่เข้าใจ เพื่อที่จะให้ครูอธิบายให้เข้าใจมากขึ้น”\n\nนั่นแหละ ทำไมประโยคคำพูดสั้น ๆ ถึงสามารถทำคนให้ทะเละกันได้, พวกที่ชอบตัดเอาแค่ Quote สั้น ๆ มาแปะก็ด้วย",
"sig": "f7a504ce42b7d2f250b37bdf07f2f4f1cee2d3317700079e12d7185c6432ac4b59b65ea4597af48e30e293d6ce464748f081379b1a270af50216d685269a49e3"
}