#เขียนไว้เมื่อนานมาแล้ว 3 Jan 2022
"ทำไมราคาบิตคอยน์ร่วงพ่อถึงยังยิ้มได้ล่ะฮะ กำไรพ่อหายไปเยอะเลยไม่ใช่หรอฮะ?"
"หากราคาไม่ลงมาแบบนี้.. เงินที่พ่อมีอยู่คงจะซื้อเพิ่มได้ไม่มากน่ะสิลูก"
"พ่อจะซื้อเพิ่มทำไมล่ะฮะ? เรามีเยอะแล้วไม่ใช่หรอ หนูอยากได้เครื่องเล่น VR พ่อเอาเงินนี้ไปซื้อเครื่อง VR ได้มั๊ยฮะ?"
"คนที่อยากได้คือหนู ไม่ใช่พ่อ.. แบ่งเงินค่าขนมมาออมไว้เยอะๆ สิ สักวันหนูก็จะซื้อได้เอง.. และที่พ่อซื้อบิตคอยน์ ก็ไม่ใช่เพื่อตัวพ่อเอง.. แต่พ่อทำเพื่อหนูนะ"
"หนูไม่เข้าใจฮะ"
"หนูเห็นต้นมะขามต้นใหญ่ๆ ตรงสวนหน้าบ้านเราไหม?
คนที่ปลูกต้นมะขามนั่นไม่ใช่พ่อหรอกนะ ..คุณปู่ของลูกปลูกเอาไว้ตั้งแต่ที่พ่อยังแค่ 2-3 ขวบอยู่เลย แต่คนที่ได้อาศัยร่มเงาของมันในวันนี้คือพวกเรา.. คือหนูไง"
"ทำไมปู่ต้องทำเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ประโยชน์ด้วยล่ะฮะ? กว่ามันจะโตขนาดนี้ กว่าจะออกผลให้เก็บกินได้.."
"ก็เพราะมันต้องใช้เวลายังไงล่ะ.. ปู่ของหนูเข้าใจเรื่องนั้นดี เมื่อสังคมเมืองเจริญขึ้น ปู่คิดว่าผู้คนจะทำให้เกิดสิ่งปลูกสร้างมากมาย ต้นไม้ที่เคยให้ร่มเงาจะเริ่มหายไป.. และปู่ไม่ต้องการให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นกับเรา"
"แล้วต้นมะขามมันเกี่ยวอะไรกับบิตคอยน์ยังไงฮะ? หนูก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี"
"บิตคอยน์ก็เหมือนต้นมะขามที่จะคอยช่วยบดบังแสงแดดให้เรา แต่มันก็ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบมะขาม บางคนอาจเลือกมะม่วง บางคนก็ปลูกต้นหูกระจง.. แต่นั่นไม่สำคัญหรอกลูก..
ในตอนนี้เงินของพวกเรากำลังเสื่อมค่าลงทุกวันๆ เหมือนโลกที่ค่อยๆ ร้อนขึ้นๆ วันที่โลกร้อนมากๆ เราจะต้องการต้นไม้ใหญ่.. แต่การจะมีบิตคอยน์ขนาดเท่าต้นมะขาม..
ต้นบิตคอยน์ที่ใหญ่พอจะให้ร่มเงากับเราได้.. เราต้องการเวลา"
"หนูไม่ค่อยเข้าใจเรื่องเงินเสื่อมค่าอะไรนั่นเลยฮะ.. แต่เรื่องที่เราต้องการเวลาเนี่ย.. หมายถึงเวลาในการหาเงินมาซื้อบิตคอยน์หรอฮะ?"
"ไม่ใช่แบบนั้นหรอกลูก.. พ่อหมายถึง.. เวลาที่คนจะเริ่มเห็นว่าเงินของตัวเองเสื่อมค่าลง คนส่วนใหญ่จะเริ่มไม่ไว้ใจให้ใครช่วยดูแลเงินของพวกเขาอีกต่อไป..
เวลาที่คนรุ่นเดียวกับหนูจะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ และเห็นตรงกันว่าบิตคอยน์เป็นเสมือนร่มเงาของพวกเขา พ่อเชื่อว่าลูกจะเข้าใจสิ่งที่พ่อพูดในวันนี้เมื่อลูกโตขึ้นกว่านี้..
เมื่อถึงวันที่หลานของพ่อลืมตามาดูโลก.. ลูกก็จะเข้าใจมันได้เอง"
"งั้นเราเอารถไปขายกันไหมฮะพ่อ? เราจะได้มีเงินมาซื้อบิตคอยน์เยอะๆ ต้นบิตคอยน์ของเราจะได้โตไวไวยังไงล่ะฮะ"
"ลูกลองคิดดูนะ.. ถ้าปู่ของลูกขายบ้าน ขายรถ เอาไปซื้อต้นมะขามมาปลูกเต็มไปหมด ปู่ก็คงไม่มีที่ซุกหัวนอน ไม่มีรถไปทำงาน ไม่มีรายได้มาเลี้ยงพ่อ เลี้ยงครอบครัว
และถ้าต้นมะขามของปู่ไม่ยอมโต.. ปู่จะไม่เหลืออะไรเลย.. ไม่มีทางได้บ้านกับรถคืนมา มันคงไม่คุ้มที่จะทำแบบนั้นจริงไหม?
เพราะอนาคตไม่จำเป็นต้องออกมาเป็นอย่างที่เราคาดหวังเสมอไปหรอกนะลูก"
"เข้าใจยากจังเลยฮะพ่อ.. แปลว่าต้นมะขามก็ตายได้ใช่ไหมฮะ? หนูหมายถึง.. บิตคอยน์อาจจะไม่เป็นแบบที่เราคิดน่ะฮะ"
"ใช่.. ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้น, ตั้งอยู่ และมีวันดับไป ไม่มีสิ่งใดที่จะอยู่จีรังยั่งยืนหรอกลูก..
เราเป็นนกน้อยก็ควรทำรังแต่พอตัว วันนึงถ้ามันล้มเหลว เราก็ต้องไม่ตาย เราลงทุนอะไร ก็อย่าให้ตัวเองต้องเดือดร้อนในภายหลัง"
"เรื่องสำคัญ คือ ลูกต้องรู้วิธีปลูกต้นมะขาม ปลูกยังไงให้โต ให้มันออกดอกออกผลได้
ถ้าลูกมีความเข้าใจเรื่องนั้น โอกาสที่ลูกจะทำสำเร็จก็มีมากขึ้น ลูกต้องศึกษาสิ่งที่ลูกจะลงทุนนะ"
"หนูจะปลูกสัก 4-5 ต้น พอมันโตขึ้นมาสักหน่อย หนูจะมันล้อมไปขายได้ไหมฮะ เราจะมีเงินใช้มากขึ้นด้วยนะฮะ"
"ทำสิ่งที่หนูอยากทำ.. แล้วเรียนรู้เอาจากสิ่งที่เกิดขึ้น จากผลลัพธ์ของมัน.. ประสบการณ์ของลูกจะช่วยตอบคำถามนี้ได้ดีกว่าพ่อ.."
"โอเคฮะ.. เอ่อ.. พ่อฮะ เราจะรู้ได้ยังไงว่าบิตคอยน์จะเป็นต้นไม่ใหญ่ให้เราได้จริงๆ ฮะพ่อ? ทำไมเราไม่เลือกอย่างอื่นล่ะฮะ?"
"ก็อย่างที่พ่อบอก.. บางคนอาจจะเลือกมะขาม.. บางคนเลือกมะม่วง.. มันไม่สำคัญหรอก ลูกแค่ต้องศึกษาด้วยตัวเอง ให้รู้ว่าอะไรจะเติบโตไปเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ อะไรที่จะไม่ถูกโค่นล้ม หรือไม่ใจเสาะตายไปก่อนง่ายๆ.. แล้วตัดสินใจเลือกด้วยตัวเอง..
ถ้าลูกใจร้อนก็ไปปลูกถั่วฝักยาว หรือแตงกวา แต่มันจะไม่อยู่ไปตลอดหรอกนะ.. มันก็แค่พืชฉาบฉวย"
"เอาเป็นว่า.. พ่อรู้แค่โลกของเราจะร้อนขึ้นไปเรื่อยๆ จากสิ่งที่มนุษย์กำลังทำ ..เงินก็เหมือนกัน เงินกระดาษจะเสื่อมค่าลงไปเรื่อยๆ นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอนไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้"
"ทำไมพ่อถึงมั่นใจขนาดนั้นล่ะฮะ?"
"ก็ดูราคาเนื้อหมู กับราคาน้ำมันตอนนี้สิ..."
"ผมพอจะเข้าใจแล้วฮะ.. งั้นเราซื้อกันเลยไหมฮะ? ราคาบิตคอยน์กำลังลงเลยนะฮะ ตอนนี้ไม่แพงฮะพ่อ"
"พ่อพึ่งบอกแท้ๆ ว่าอย่าทำอะไรให้ตัวเองเดือดร้อน.."
" ... "
#Siamstr