Why It broken 🥹quoting note16ea…zk60## What is Siamstr? Siamstr คืออะไร?
เมื่อ Nostr มันคือ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพียงหนึ่งเดียวที่มอบประสบการณ์แห่งอิสรภาพของการแสดงออกทางความคิด บนความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นเพียงหนึ่งเดียว ท่ามกลางแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่เต็มไปด้วยการเซ็นเซอร์ชิฟ และระบบหุ่นยนต์อัลกอริทึมค่อยควบคุมความประพฤติของผู้ที่ใช้งานอยู่เบื้องหลัง
สำหรับผู้ที่มองหาและแสวงหาความจริงจากคำโกหกทั้งปวง มันคือโลกของการสื่อสารที่สามารถแสดงออกทางความคิดความสงสัยได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ถ้าหากว่าคุณนั้นเคยตั้งขอสงสัยขึ้นภายในใจ คำถามที่มีอยู่มากมายภายในใจของคุณที่ไม่เคยได้เอื้อนเอ่ยคำถามเหล่านั้นกับใคร ๆ เพียงเพราะว่าคุณกำลังหวาดกลัวว่าคำถามเหล่านั้นจะทำให้คุณดูเป็นคนที่แปลกแยกจากสังคมที่คุณกำลังอยู่รวมกับพวกเขา
คำถามเช่นว่า ทำไมรัฐถึงต้องมีการพิมพ์เงิน ทำการมีเงินเฟ้อถึงเป็นสิ่งที่เป็นปกติ ทำไมรัฐถึงต้องเป็นผู้ออกกฎหมายมาควบคุมความประพฤติของผู้คน ทำไมพวกเราถึงต้องเข้ารับการศึกษาภาคบังคับ ทำไมพวกเราถึงพูดในสิ่งที่อยากพูดไม่ได้ อะไรคือคำโกหก อะไรคือความเป็นจริง
สิ่งเหล่านี้คุณสามารถถามคำถามกับมันได้บน Nostr ไม่ใช่ที่อื่น
แรกเริ่มเดิมที่ สำหรับหัวข้อการสนทนาใน “ภาษาไทย” สำหรับคนไทยบน Nostr ที่แทบจะไม่มีผู้ใช้งานที่เป็นชาวไทย และระบบของ Client ที่ยังไม่ได้มีฟังก์ชันต่าง ๆ สำหรับการใช้งานเทียบเท่ากับในปัจจุบันนี้ ในเวลานั้น Nostr ด้วยระบบที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มีอัลกอริทึมคอยจับคู่ให้กับผู้ใช้งานแต่ละคน หรือพวกที่อยู่ใน location ใกล้เคียงกันได้มาเจอกันอย่างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ การ notes ข้อความต่าง ๆ ที่ถ้าไม่ได้เป็นผู้ที่กำลัง follow ติดตามกัน หรือหา follow จากเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์ที่เป็นที่รู้จัก มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีใครคนอื่น ๆ จะมองเห็นการ notes ข้อความเหล่านั้นของเรา
### แฮชแท็ก Thainostr, Siamstr ถือกำเนิดขึ้น
เป็นเพราะใครสักคนหนึ่งในทีมงาน @Rightshift ที่เป็นคนริเริ่มการติดแฮชแท็คทั้งสองอันนี้ #Thainostr #Siamstr พวกเราเริ่ม notes ด้วยการติดแฮชแทคทั้งสองอันนี้ใน notes ของพวกเรา และมันทำให้พวกเราได้เชื่อมโยงเขาหากัน “สวัดดีครับ ผมมาใหม่” “Hi Nostr" ของเมื่อหลายเดือนก่อนที่ไม่มีใครมองเห็นเริ่มมีการปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น การต้อนรับจากผู้คนที่อยู่มาก่อน ทีมงานจาก @Rightshift พวกเราเริ่มคุยกัน zap ให้กัน แลกเปลี่ยนมุมมองของกันและกัน ผ่านแฮชแท็กทั้งสอง
ถึงแม้จะเริ่มมีการสนทนาเกิดขึ้นกันในกลุ่มคนที่ใช้แฮชแท็กภายใต้ภาษาไทยนี้ไม่กี่สิบคน พี่ @JakkGoodday ที่คอยทักทายตาม notes ของเพื่อน ๆ พี่ @Pong ที่เริ่ม notes เรื่องการลบแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เช่น facebook ที่สร้างแรงบรรดาลใจให้คนอื่น ๆ ตามไปลบมันออกไปจากมือถือกันบ้าง พี่ @Jingjo ที่คอยมากด Like และร่วมแจมการพูดคุยใน notes หัวข้อต่าง ๆ อาจารย์ @Piriya ที่คอยแชร์ notes ต่าง ๆ ของช่าวต่างชาติ หลังจากนั้นไม่กี่อาทิตย์ อีกหนึ่งแฮชแท็กที่ทรงคุณค่าที่นำพาให้พวกเรามารวมกลุ่มอยู่ด้วยกันมาขึ้นก็เกิดขึ้น
### Zapathon to Thailandzapathon
ในคอมมูนิตี้ของชาวต่างชาติ มีการสร้างแฮชแท็กอันหนึ่งขึ้นมาเพื่อใช้ในการทำกิจกรรม #Zapathon ที่จะเป็นการกำหนดเวลาที่คนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะทำการ notes โดยการติดแฮชแท็กนี้ โดยไม่ว่าจะเป็นการ notes ที่เป็นสาระ meme รูปภาพ หรืออะไรก็ได้ คนที่เข้าไปเห็น notes เหล่านั้นในเวลานั้นก็จะมีการ zap ส่ง sats ให้กันและกัน เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างความสัมพันธ์ให้กับผู้คนในคอมมูฯ และร้อยยิ้มความเฮฮาจาก notes ต่าง ๆ ที่ได้เห็น เป็นการจำลองคุณค่าของ V4V (Value for Value) และอีกทางหนึ่ง ผู้คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนสามารถเห็น notes ของกันและกันผ่านกิจกรรมนี้ มันสร้างการติดตามและก่อให้เกิดกลุ่มคนที่จะไปต่อยอดการสนทนาในหัวข้ออื่น ๆ หลังจากนั้น
ต้องขอบคุณ คุณ @U ที่นำเอากิจกรรมของแฮชแท็กนี้มานำเสนอในคอมมูฯของชาวไทย แฮชแท็ก #ThailandZapathon ที่จะมีการจัดกิจกรรม สาด zap เหมือนกับสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์ให้กับทุก ๆ คนที่เข้ารวมในกิจกรรมในทุก ๆ วันเสาร์เว้นเสาร์ ช่วงบ่ายสี่โมงถึงห้าโมงเย็น (เวลาไม่แน่นอน) ทุก ๆ คนที่ notes ด้วยแฮชแท็กนี้จะได้รับการ zap ด้วย sats กลับไปอย่างแน่นอน
จูงใจกันขาดนี้ใครละจะไม่เข้ารวม (แม้แต่พวก Introvert ที่ปกติไม่ค่อยจะสุงสิงกับใคร ๆ ก็อดใจไม่ไหวที่จะต้องการเข้าร่วมกิจกรรมนี้)
มันทำให้พวกเราที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ได้รู้จักกันและกันโดยผ่านกิจกรรมนี้ คุณลองนึกภาพดูสิ จะมีบิตคอยน์เนอร์สักกี่คนพวกที่หวงแหนบิตคอยน์ยิ่งกว่าชีวิต จะเอา sats มายิง zap เล่นให้กับคนอื่น ๆ ที่ไม่เคยรู้จักหน้าค่าตากันมาก่อน เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยจนกระทั้งเราได้เห็น notes รูป meme ข้อความขำขันตลกโปกฮา ไปจนถึง Long-Form บทความ ที่แต่ละคน notes มันขึ้นมาโดยที่ติดแฮชแท็ก #ThailandZapathon นี้เอาไว้
ถ้าหากว่าไม่มีกิจกรรมนี้เกิดขึ้น มันก็คงจะอีกนานเลย กว่าที่เราแต่ละคนจะได้เห็นการมีอยู่ของกันและกัน ขอบคุณจริง ๆ นะ สิ่งนี้มันทำให้พวกเราได้กลายมาเป็นเพื่อนกัน
### Long-Form Content Fever
ผมไม่รู้จริง ๆ ว่ามันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกที่ผมก็ notes บทความ Long-Form เรื่อง “Martyrs of Songkhon : มรณสักขีแห่งสองคอน“ จากการที่ได้ฟังสภายาส้ม EP.13 หัวข้อการสนทนาในรายการเรื่องที่เกี่ยวกับศาสนาไปแล้วในกิจกรรม #ThailanZapathon ครั้งที่ 2 และแน่นอนผมเป็นผู้ชนะที่ได้รับ zap มากที่สุดในกิจกรรมครั้งนั้น
หลังจากนั้น Long-Form Content that the way ก็แทบจะมีให้เสพกันในทุก ๆ วัน ผมบ้าง คนอื่น ๆ บ้าง คนที่เขียน Long-Form ได้มันที่สุดและยาวที่สุดคงหนี้ไม่พ้นพี่ตั้ม @Jakkgoodday ที่ทำให้พวกเราแทบไม่เงียบเหงากันเลยในเวลานั้น จริง ๆ มีอีกหลาย ๆคนเลยที่ notes บทความ Long-Form ดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นพี่จิงโจ้ @Jingjo กับการลง Long-Form แรกบน Client Yakihonne และ Habla (ที่เป็นการทดสอบการลงบทความก่อนการมาของ #FuckIMF หลังจากนั้น) พี่ป้ำ @Panai เจ้าของบทความใจฟูที่ช่วยฮิลใจทุกครั้งที่ได้อ่าน และเนื้อหาการเล่าเรื่องในแง่มุมของการดำเนินธุรกิจบน PoW ของครอบครัว คุณ @Rinna บทความ Long-Form ที่ใช้ภาษาในการเขียนได้น่าอ่านมาก ๆ และ ซีรีย์ #บันทึกคุณปู่ ที่นำเอาข้อความของคุณปู่ของเธอนำมา notes ให้กับพวกเราได้อ่านกัน
มันเป็นปรากฏการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการอัดอั้นในสิ่งที่ต้องการแสดงออกมาทางภาษา บทความลึก ๆ ที่มีความยาวที่ปกติแล้วเมื่อนำไปโพสลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ มันจะถูกลดทอนคุณค่าจากการเข้าถึง และถูกปิดกันการมองเห็น ความผิดเดียวของผู้ที่โพสข้อความยาว ๆ ก็คือ
“คุณคือต้นเหตุของการลดทนการสร้างผลกำไรของแพลตฟอร์ม จากการฉุดรั้งเวลาของสายตาผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ที่เขาอาจจะเอามันไปใช้เพื่อดูโฆษณาต่าง ๆ ที่มีการ Sponsor ให้กับแพลตฟอร์ม”
คุณลองนึกภาพดูสิ ใน Nostr ที่ไร้ซึ่งการปิดกันใด ๆ ใครใคร่เสพอะไรก็เสพ ใครใคร่ลงผลงานอะไรก็ปล่อยของกันได้เลยตามใจชอบ สำหรับพวกเราที่มีความนิยมความดิบความลึกของการเขียนหรือการเสพบทความทำไมจะไม่รู้สึกรักมัน
การลง notes บทความ Long-Form ที่ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีใครเข้ามาอ่าน ไม่ได้มีคนมากด Like ให้ ไม่ได้มีใครมา zap มันยังเป็นดัชนีชี้วัดที่แท้จริงว่าผลงานของเรามันอาจจะยังไม่เข้าตา มันยังไม่เป็นที่ถูกใจของใครคนอื่นๆ แต่มันก็ไม่ได้กำลังถูกลงทอนคุณค่าด้วยการปิดกันการมองเห็น เพียงแค่ว่าเราผิดที่เราลงข้อความยาว ๆ ที่ไปลดทอนผลกำไรของแพลตฟอร์ม
สำหรับ Nostr การลงบทความแล้วมันยังไม่ดีพอ หรือมันเป็นที่ยอมรับมันถูกพิสูจน์ได้ด้วยมนุษย์ด้วยกันเอง คุณค่าของมันที่ถึงแม้ว่าจะมีหรือไม่มีคนที่อ่านคุณค่าของมันก็ไม่ได้หายไป เราได้สร้าง Long-Form Content ตามที่ใจเราปรารถนาแล้ว
### Escape The Matrix, Exit The Matrix
กิจกรรมสุดเจ๋งของน้องเทนโด้ ที่ให้ผู้ที่รับฟังรายการสภายาส้ม (จำไม่ได้ว่า Ep. ที่เท่าไร ขออภัยด้วย) ให้ร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านการ notes ประสบการณ์ชีวิตในการเอาตัวเองออกจากโลก The Matrix โดยผู้ที่ชนะจะได้รับแก้วกาแฟสุดเฟี้ยวจากน้องเทนโด้ ที่มีลายสกรีนคำว่า ESCAPE THE MATRIX สีส้มติดอยู่ที่แก้วเป็นของรางวัลกิจกรรม
เริ่มเรื่อง จากในรายการสภายาส้ม เทนโด้พูดถึงหัวข้อของกลุ่มคนที่ค่อนข้างมีความใกล้เคียงกันกับแนวคิดของบิตคอยน์เนอร์ แต่กลับมีความสุดโต่งในการพยายามพาตัวเองออกจากระบบ (The Matrix) ด้วยวิธีการเสี่ยง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การเข้าไปทำธุรกิจขายตรง ธุรกิจสีเทา การลงทุน การเทรดฟอเร็กซ์ และอื่น ๆ การพยายามจะหนีออกจากระบบแย่ ๆ นี้ไปให้ได้เร็วที่สุด โดยไม่คำนึงว่าตัวเองอาจจะต้องเจอกับอันตรายอะไรบ้างจากการกระทำเหล่านั้น และมันคงจะดีถ้าหากว่าพวกเราจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือพวกเขาให้เข้ามารู้จักกับบิตคอยน์
มันเป็นอีกหนึ่งแฮชแท็กที่ยังช่วยสร้างกระแสความร้อนแรงของ Long-Form Content มี notes ต่าง ๆ มากมายของเพื่อน ๆ ในคอมมูฯชาวไทย ได้ช่วยกันส่งเรื่องของตัวเองผ่านประสบการณ์การออกจากโลก TheMatrix ในมุมมองของตนเองไม่ว่าจะเป็นบทความของคุณ @Pikanet เรื่อง “เมื่อผมตื่นรู้เรื่องรอบ ๆ ตัวมาขึ้นจากการศึกษาบิตคอยน์” ของคุณ @AdlerNS เรื่อง ”ทฤษฏีลำดับขั้นของมาสโลว์“ ที่พูดไปถึงปรัชญาทางศาสนา และ คนอื่น ๆ อีกหลายคนรวมถึงผมด้วยที่เข้ารวมกิจกรรมนี้ หากใครกำลังสนใจที่จะตามเข้าไปย้อนอ่านบทความ สามารถค้นหาได้จากแฮชแท็ก #EscapeTheMatrix และ #ExitTheMatrix
และจากกิจกรรม Long-Form Content เหล่านี้ มันทำให้พวกเราลบล้างความคิดที่ว่า ”คนไทย 8 บรรทัด“ อาจจะไม่ได้มีอยู่จริง ในความเป็นจริงแล้วที่พวกเราอ่านหนังสือกันน้อยลงในเวลานี้ มันอาจจะเป็นเพราะแพลตฟอร์มฯ หรือสื่อต่าง ๆ แม้แต่ช่องทางข่าวสารบ้านเมืองที่มักจะนำเสนอมุมมองที่ตื้นเขินจนใครหาย ๆ คน เลิกที่จะสนใจในความเป็นจริงอันลึกซึ้ง การ Low Time Preference ในการพิจาณาความเป็นจริงต่าง ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ตัว การคิดอย่างมี Critical Thinking จากข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้รับ มันทำให้พวกเรามีสกิลของการมีสมาธิจดจ่อกับตัวอักษรหลายหน้ากระดาษได้เป็นเวลานาน ๆ โดยที่ไม่ได้รู้สึกเบื่อ
เรากำลังสร้างอีกหนึ่ง PoW ให้กับตัวเองโดยที่เราไม่รู้ตัว ทั้งผู้ที่เขียน และผู้ที่อ่าน ประโยชน์ที่ได้รับที่สมควรค่าแก่การเป็น V4V มันมากพอที่คนที่ได้รับจะส่งต่อมอบคุณค่าเหล่านี้จากประสบการณ์ที่ได้รับ ส่งมันต่อ ๆ ไปให้กับผู้อื่น
Long-Form มันโคตรจะทรงพลังเลย
### เมื่อความหลากหลายมากขึ้น Market Share ก็จะถูกแบ่งไปให้กับความสนใจใหม่ ๆ
หลังจาก Long-Form Content Fever การเข้ามาของผู้คนที่เริ่มสนใจใน Nostr ผ่านการโปรโมทมันผ่านรายการ BitcoinTalk ของ RightShift จากการป้ายยาใน facebook - Siamese Bitcoiners ผ่านบทความของน้องหลาม @123 และจากคุณอาร์ม @Notoshi ที่คอยไลฟ์สตรีมวีดิโอสอนการใช้งาน Client ต่าง ๆ ของ Nostr ช่วยให้ผู้ที่เขามาใช้งานใหม่ ๆ สามารถที่จะเข้าใจการใช้งาน Client ต่าง ๆ การผูกกระเป๋า LN Wallet เพื่อการรับ zap ที่เป็นอีกหนึ่งจุดขายและแรงจูงใจให้กับคนหน้าใหม่ ๆ หลาย ๆ คนเข้ามาใช้งานกันอย่างสนุกสนานและไม่เบื่อไปกันไปก่อนจากการใช้งานที่ค่อนข้างจะต้องมีสกิลทางด้านเทคโนโลยีอยู่บ้าง เพราะมันไม่มีระบบอัลกอฯคอยช่วยเหลือ
และใช่ ก็เป็นพวกเรากันเองอีกนั้นแหละที่คอยช่วยซึ่งกันและกัน ค่อยเข้าไปสวัสดีและต้อนรับมือใหม่หลาย ๆ คนที่เริ่มจะเข้ามาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นพี่ตุ๊ก @Tukjedsadatik พี่หมู @เฮียหมู ผู้ที่เรียกเสียงฮาน้ำตาไหลอย่างคุณสมนึก @Somnuke และคนอื่น ๆ ที่ผมอาจจะกล่าวถึงได้ไม่หมด แต่ขอให้รู้ไว้ว่ามันคือพวกคุณ มันคือพวกเราที่ทำให้จำนวนของผู้ใช้งานคนไทยมันโตขึ้นจนแฮชแท็ก #Siamstr มันโตขึ้นจนแซงชาวต่างชาติประเทศอื่น ๆ ภาษาอื่น ๆ ที่ใช้บน Nostr
ในเวลานี้ต่อให้ไม่ได้ติดแฮชแท็ก #Siamstr เวลาที่ notes คุณลองเข้าไปใน Global ดูสิ ภาษาอะไรที่มักจะมีให้เห็นอยู่แทบตลอดเวลา ขึ้นแทรกอยู่กับภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาสากลของโลก ทั้ง ๆ ที่หลายเดือนก่อนเราแทบจะไม่เห็นกันเลย ภูมิใจสิวะ อยู่บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ถึงจะเป็นคนมีของก็ปล่อยมันออกมาไม่ได้แบบนี้นะเว้ย
และแน่นอนเมื่อมีผู้คนเพิ่มมากขึ้น ความหลากหลายก็มากขึ้น สิ่งที่เคยครองตลาด #Siamstr อย่าง Long-Form Content ก็เริ่มโดนแย่งส่วนแบ่งของ Market Share ความสนใจที่มีหลากหลายทำให้เวลาของสายตาถูกชิงส่วนแบ่งออกไปให้กับสิ่งอื่น ๆ ที่น่าสนใจ การ GM กันในตอนเช้า รูปภาพวิวสวย ๆ การคุยกันถึงเรื่องราวของการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเป็นกันเอง การ notes ข้อความข่าวสารจากภายนอก Nostr ข้อความ short-Content ต่าง ๆ ไปจนถึง +18 Content เป็นสิ่งที่ผู้เสพจะต้องเลือกที่จะเสพ เมื่อเวลาของแต่ละคนมีอยู่อย่างจำกัด
แต่พวกเราก็ยังได้เลือกมันว่าจะอ่าน Long-Form Content หรือเก็บไว้อ่านทีหลัง จะคุยเล่นกันแล้วออกไปใช้ชีวิตจริงทำอย่างอื่นภายนอก Nostr สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ได้มีใครมาค่อยบงการหรือบังคับเหมือน ๆ กับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เราจากมันมา หน้าฟีดที่เกิดจากการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้ โฆษณาที่แสดงโชว์เพื่อหลอกล่อใจให้เราใช้เงินซื้อในสิ่งที่ไม่จำเป็น ทุก ๆ สิ่งเราเลือกได้เอง Nostr มันเป็นแพลตฟอร์มอิสรภาพที่แท้จริง
สำหรับผู้เขียน Long-Form Content นี้ก็ไม่ใช้สิ่งที่เลวร้าย ถ้าเทียบกับว่า นี่คือการจำลองตลาดเสรีที่ในเวลานี้ Long-Form Content กำลังถูกแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดไป แต่ด้วย Network Effect ที่มาจากผู้ใช้งานใหม่ ๆ ที่กำลังเต็บโตขึนไปเรื่อย ๆ สิ่ง ๆ นี้จะค่อย ๆ ทดแทนส่วนแบ่งที่หายไป และอาจจะเปิดทางใหม่ ๆ ไอเดียใหม่ ๆ ทักษะการจูงใจใหม่ ๆ ที่จะใช้ในการดึงดูดผู้ใช้งานกลุ่มใหม่ ๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมกับ Long-Form Content ได้
### What is "Siamstr" ?
สิ่งที่เขียนทั้งมาทั้งหมด คงไม่อาจจะบรรยายความเป็น Siamstr ของพวกเราได้ทั้งหมดในทุก ๆ มิติ มันเป็นมุมมองแคบ ๆ แต่ฝ่ายเดียวของผมผู้เขียนที่ได้ใช้เวลาอยู่กับทุก ๆ คนในเวลาที่ผ่านมา มันไม่อาจจะเล่าได้ไม่ครบถึงทุก ๆ คนที่อยู่ด้วยกัน เรื่องราวทุก ๆ เรื่อง
ผมยึดถือหลักของการรับรู้ประสบการณ์ โดยที่ผู้ที่จะรับรู้กับประสบการณ์ต่าง ๆ ของเหตุการณ์นั้น ๆ จะเป็นของตัวปัจเจกเท่านั้นที่จะตีความความหมายของสิ่งต่าง ๆ ที่ได้ประสบพบเจอว่าอย่างไร
Siamstr สำหรับผมมันคือ “พลังของ User Network Effect ของชาวไทย บนความจริงเดียวของบิตคอยน์” พลังแห่งการทวีคูณเมื่อจำนวนถูกเพิ่มขึ้นจาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 จาก 4 เป็น 16 จาก 16 เป็น 256...65536...จนอาจเป็นอนันต์ ทุก ๆ ครั้งที่มีพวกเรา Siamstr เพิ่มมากขึ้น มันก็จะสร้างกลุ่มคนที่รับรู้และเข้าใจในบิตคอยน์เพิ่มมากขึ้น นอกจากประชากรบิตคอยน์ที่เพิ่มขึ้น คอมมูฯของพวกเรามันก็จะมี Value ที่ทวีเพิ่มมากขึ้น พลังงานและเวลาที่ต่างคนต่างก็เอาใส่ไว้ร่วมกันก็จะทวีมากขึ้น ความปลอดภัยจากการอยู่ร่วมกันก็จะทวีมากขึ้น บนพื้นฐานของความจริงเดียวของบิตคอยน์
จากการไม่เชื่อใจกัน พวกเราก็กลับมาเชื่อใจกัน เราเคยไว้ใจอะไรไม่ได้เลยเพราะว่าเราเคยอาศัยอยู่ในโลกที่มีแต่การโกหก อยู่กับพวกขี้ขโมยที่คอยปล้นพลังงานและวันเวลาของพวกเราไปอย่างหน้าด้าน ๆ ในโลกที่ไร้ซึ่งความหวังจากการมีชีวิตที่ไม่สามารถเก็บออมพลังงานเหลือใช้ของเราเพื่ออนาคตของเราเอาไว้ไม่ได้
แต่ความจริงเดียวของบิตคอยน์ ที่พวกเราทั้งหลายได้เข้ามามีส่วนร่วมในมัน Network Effect ที่เราช่วยกันสร้างบนมัน Siamstr ถ้าหากว่าบิตคอยน์มันคือการที่เราได้กลับไปเชื่อใจในอะไรสักอย่างหนึ่ง การมีความหวัง ในรูปแบบของปัจเจก Siamstr มันคือการที่เราได้กลับไปเชื่อใจในผู้คนที่เป็นเหมือน ๆ กับเรา ผู้คนที่มีความหวัง ในรูปแบบของการอยู่ร่วมกัน
ความแข็งแกร่งของระบบ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากการสมทานบิตคอยน์แบบปัจเจก แยกกันอยู่แบบตัวใครตัวมัน
แต่ความแข็งแกร่งของระบบ มันมาจากการสร้างคุณค่าขึ้นมาด้วยกันของชุมชน โดยที่ให้ User Network Effect มันขยายตัวอยู่บนความจริงเดียวคือ “บิตคอยน์” ไม่ใช้บนความจริงเดียวของระบบ "Fiat"
ดังนั้นคุณรู้กันแล้วนะ ว่าเรากำลังสู้อยู่กับอะไร? แล้วจะเอาชนะมันได้ยังไง? ทำไมถึงต้องทำให้ผู้คนเขาใจบิตคอยน์กันมากขึ้น?
และนี้แหละคือนิยามของ Siamstr ในความคิดเห็นของผม
I'm HIPKNOX.
ปล. อาจจะเรียบเรียงออกมาได้ไม่ค่อยดี เขียนทิ้งเอาไว้หลังไลฟ์เมื่อคืนจบ แล้วก็อย่างที่รู้ ๆ กัน ผมก็เมาเหมือน ๆ กับหลาย ๆ คนที่ได้ดูไลฟ์เมื่อคืนนั่นแหละ เดี๋ยวต้องตามเก็บย้อนหลัง 555
ปล.2 กด note อีกรอบ รอบแรกเมนชั่นถึงคนที่ใส่ @ ไว้ใน note แล้วมัน note ไม่ไป ถ้ามันขึ้นซ้ำขออภัยด้วยครับ
#Siamstr
#SiamstrOG
#WhatisSiamstr
goodbye primal