ท่ามกลางกระแสสังคมที่เชี่ยวกรากไปด้วยพืชเชิงเดี่ยว และเฟื่องฟูไปด้วยสารเคมี ในยุคสมัยที่ผู้คนยังไม่เข้าถึงข้อมูลข่าวสารเหมือนดังสมัยนี้
ปลูกต้นไม้แล้วจะกินอะไร
กว่าต้นไม้จะโตกว่าจะได้ตัดขาย
ปลูกอย่างอื่นได้ขายแล้วป่านนี้
ตัดหญ้าทั้งปีเลยทำไมไม่ฉีดยาฆ่าหญ้า
ไม่แปลกหรอกที่สมัยนั้นผู้คนจะมองเราว่าผิดเพี้ยนแปลกแยกจากคนอื่นไป
แต่ในยุคสมัยนี้ที่เราสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว แต่ก็ยังน่าแปลกใจที่ผู้คนส่วนใหญ่ในภาคเกษตรกรรมยังคงตกอยู่ในสายธารแห่งพืชเชิงเดี่ยวและสารเคมี
#วนเกษตร คืออะไร ?
#เกษตรกรรมธรรมชาติ คืออะไร ?
#ป่าสามอย่างประโยชน์สี่อย่าง คืออะไร ?
#ป่าเจ็ดระดับ คืออะไร ?
#เกษตรเชิงนิเวศ คืออะไร ?
นั่นนะสิ ?
ในป่าไม่ได้มีแค่ต้นไม้
ใต้ต้นไม้ก็ไม่ได้มีแค่ผืนดิน
พืชพันธุ์มากมายสรรพสัตว์หลากหลาย
ต่างพึ่งพาอาศัยกันจนเป็นระะบบนิเวศป่า
พืชที่ปลูกร่วมกับสวนป่าได้มีมากมายหลายชนิด สัตว์ที่เลี้ยงร่วมสวนป่าได้ก็มีมากมายหลายชนิด
ไฉนเลยเมื่อมนุษย์รู้จักการเพาะปลูก รู้จักการปศุสัตว์ อิสรภาพในการใช้ชีวิตของมนุษย์ กลับเริ่มขาดหายไป
ไถแล้วไถอีก (ไถพรวนดิน
ปลูกแล้วปลูกอีก
ใส่ปุ๋ยแล้วใส่ปุ๋ยอีก
ฉีดยาฆ่าหญ้าแล้วฉีดยาฆ่าหญ้าอีก
ฉีดยาฆ่าแมลงแล้วฉีดยาฆ่าแมลงอีก
ถ้าเข้าใจหลักเกษตรกรรมธรรมชาติ พืชมากมายหลายชนิด ปลูกร่วมสวนป่าได้ และปลูกเพียงครั้งเดียว น้ำไม่ต้องรด ปุ๋ยไม่ต้องใส่ การไถพรวนก็ไม่จำเป็น แต่เก็บกินเก็บขายได้จนหลานของหลานบวช
การเลี้ยงปศุสัตว์ในสวนป่าแบบธรรมชาติ ก็เช่นเดียวกัน หากเราเข้าใจหลักเกษตรกรรมธรรมชาติ
เมื่อเริ่มเพาะปลูกจงเพาะปลูกด้วยหลักเกษตรกรรมธรรมชาติ เมื่อเริ่มเลี้ยงปศุสัตว์จงเลี้ยงด้วยหลักเกษตรกรรมธรรมชาติ
แล้วเราจะมีเวลาไปทำอย่างอื่น เราจะมีเวลาไปสร้างสรรค์สิ่งอื่นๆ และเราก็จะมีเวลาไปนอนเกาไข่เพิ่มขึ้น…..
#กวีนอนนา ผู้ไม่หิวแสงแต่ชอบ
แสดงกล้ามดาก
#siamstr
พืชพันธุ์บางชนิดกว่าจะผลิดอกออกผล อาจใช้เวลา 5 ปีบ้าง 7 ปีบ้าง 10 ปีบ้าง บางชนิดผลิดอกออกผลได้จนอายุเป็นร้อยๆปี ปลูกครั้งเดียวเก็บเกี่ยวดอกผลได้จนหลานของหลานบวช
อาจช้าหน่อยในการสร้างการปลูกการดูแลในช่วงเริ่มต้น แต่ยั่งยืน……