Hipknox on Nostr: ### ...
### ใครถามนะว่าทำไมต้องบิตคอยน์ทำไมไม่เป็นคริปโต?
พวกเขามักจะบอกว่าโปรเจคเหรียญคริปโตของพวกเขา มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อที่จะเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่จะถูกนำมาใช้ภายในระบบนิเวศทางการเงินของพวกเขา เขามักจะใส่ฟังก์ชันนั่นนี่เพื่อให้มันเป็นมากกว่าการเป็นแค่เงิน “สมาร์ตคอนแทรค“ ฟังก์ชันที่ใช้ในการโปรแกรมคำสั่งกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ในลงไปในการทำธุรกรรม เช่น สัญญาต่าง ๆ ที่สามารถดำเนินการโดยที่ไม่ต้องผ่านตัวกลาง
มันฟังดูดีเลยทีเดียวที่เราสามารถตัดตัวกลางตัดคนกลางอย่างมนุษย์ที่มีความไบแอสที่มีแนวโน้มที่จะโน้มเอียงไปตามผลประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อต้องเป็นตัวกลางในการตัดสินอะไรบางอย่าง
มันทำให้เราลืมไปว่าเบื้องหลังการโปรแกรมมิ่งตัวของสมาร์ตคอนแทรค ก็มาจากกลุ่มคนที่เป็นเจ้าของโปรเจคที่พัฒนามันขึ้นมา พวกเขาอาจจะนำเอา white paper หรือ road map ของโปรเจคของพวกเขามาเปิดเผยเพื่อความน่าเชื่อถือว่าพวกเขาไม่ได้ใส่กลไกลอะไรที่แอบแฝงเอาไว้ แต่คุณไม่มีทางรู้หรอก เมื่อคุณเริ่มไว้ใจพวกเขาไปแล้วเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อคุณมีผลประโยชน์จากผลของกำไรจากการมีส่วนร่วมกับตัวโปรเจคไปแล้วคุณก็จะละเลยการระวังตัวของคุณไป
และใช่ เมื่อโปรเจคมันเติบโตและมีมูลค่าเกินกว่าความเป็นจริง มันเป็นเรื่องที่ทำใจได้ง่ายมาก ๆ ที่ผู้ที่เป็นเจ้าของโปรเจคคริปโตเหล่านั้นจะล้มเลิกการทำโปรเจคนั้นด้วยการ rug pull และหอบเอาเงินของผู้ที่ลงทุนหนีหายไป
จะเหนื่อยและเสียเวลาพัฒนาโปรเจคต่อไปให้โง่อยู่ทำไม ในเมื่อเชิดเงินแล้วชิ่งหนีไปมันสบายกว่ากันเยอะเลย
มันต่างอะไรจาก exit plan ในวงการธุรกิจทั่ว ๆ ไป การตั้งธุรกิจขึ้นมาด้วยเงินทุนจำนวนหนึ่ง ปั้นบริษัท ทำการตลาด ชักจูงให้คนมาลงทุนในบริษัท นำเข้าตลาดหลักทรัพย์ ออกหุ้นกู้ เมื่อบริษัทมีมูลค่าที่เพิ่มมากขึ้นจากการที่มีเงินของนักลงทุนคนอื่น ๆ ถมใส่เข้ามา มากพอที่เจ้าของกิจการได้เล็งเอาไว้ตั้งแต่แรก พวกเขาก็ขายบริษัทนั้นให้กับคนอื่นเพื่อที่จะ exit ออกไป
กลับไปที่จุดประสงค์แรก “การเป็นเงินในระบบนิเวศของโปรเจค” จากสิ่งที่จะถูกใช้เพื่อเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน เป็นสกุลเงินหนึ่งสำหรับโลกเสมือน เมื่อโปรเจคมันถูกพัฒนาจนสามารถมีโปรดักต่าง ๆ ในโลกจำลองนั้น เช่น สินค้ารูปภาพดิจิตอล NFT ต่าง ๆ ที่จะต้องใช้เหรียญดิจิตอลของโปรเจคนั้น ๆ ในการทำธุรกรรมซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยน
ในที่แรกมันก็ตั้งใจว่าจะเป็นสกุลเงินสกุลหนึ่งของโลกดิจิตอล แต่ในตอนนี้มันไม่ต่างจากสินค้าชนิดหนึ่งที่เอาไว้ทำกำไรเป็นสกุลเงินอื่น ๆ เป็นเงินดอลลาร์ หรือเงินบาทไทย แล้วไหนล่ะ? ที่ว่าจะเป็นสกุลเงินภายในระบบนิเวศ
พวกเขารู้ว่าซัพพลายของดอลลาร์นั้นมีอยู่อย่างไม่จำกัด ดังนั้นพวกเขาจึงกำหนดซัพพลายเหรียญของพวกเขาให้มีจำนวน ๆ หนึ่งในช่วงแรกเริ่ม และเมื่อมีนักลงทุนเข้ามาจับจองเหรียญของพวกเขา เมื่อมันเริ่มมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้น พวกเขารู้ว่าสินค้าถ้ามีปริมาณที่ลดลงอย่างฉับพลัน มันจะเกิดการขาดแคลนจากความต้องการที่สูงขึ้นซึ่งจะส่งผลให้สินค้ามีราคาที่เพิ่มสูงขึ้น
ดังนั้นพวกเขาจึงใช้วิธีการลดซัพพลายของเหรียญอย่างฉับพลัน ด้วยระบบที่เรียกว่าการ burn supply หรือการเผาเหรียญออกไปจำนวนหนึ่ง เพื่อให้เหรียญที่เป็นของเจ้าของโปรเจคมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นหน่วยของดอลลาร์ ส่วนนักลงทุนคนอื่น ๆ เมื่อเห็นว่าการเผาเหรียญนั้นช่วยให้เหรียญที่พวกเขาถืออยู่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ต่างก็ออกมาสนับสนุนเจ้าของโปรเจค และพร้อมจะปกป้องพวกเขาจากผู้ที่เห็นต่าง
ทั้ง ๆ ที่สิ่งนี้มันคือการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินของตัวโปรเจคเหรียญไปจากสิ่งที่ถูกกำหนดมาตั้งแต่แรก
คุณเชื่อถือนักพัฒนา หรือเจ้าของโปรเจคที่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างนโยบายของโปรเจคเหรียญได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ?
มันจะต่างอะไรกับการที่คุณก็อยู่ในโลกของเฟียตที่มันเลวร้ายอย่างในทุกวันนี้อยู่แล้ว เมื่อกลไกการควบคุมเงินมันอยู่ในมือของคนเพียงไม่กี่กลุ่มที่สามารถปรับเปลี่ยนอะไร ๆ ได้ตามใจชอบ คุณยังต้องการที่จะอยู่ในโลกจำลองที่กำลังเลียนแบบโลกของระบบเฟียตในชีวิตจริงอยู่อีกเหรอ?
พวกเขาสร้างโปรเจคเหรียญที่บอกว่ามันจะดีกว่าระบบการเงินในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยี ๆ ใหม่ แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่พวกเขาต้องการมันคือผลของกำไรในรูปของเงินเฟียต พวกเขาจะต่างอะไรจากคนที่พวกเขากำลังกล่าวอ้างถึง
สุดท้ายแล้วพวกเขาก็เป็นแค่คนกลุ่มหนึ่ง ที่พยายามจะเอาชีวิตรอดและมีชีวิตอยู่อย่างมั่งคั่งในโลกของเฟียต
พวกเขาหนีจากความเจ็บปวดของการถูกผู้ที่ควบคุมกลไกของระบบเฟียตแย่งชิงเอาการเก็บออม เอาความมั่งคั่งไปจากชีวิตของพวกเขา โดยที่พวกเขาก็กำลังหนีมันด้วยการเอาเปรียบน้ำพักน้ำแรงของผู้อื่นที่ก็เจ็บปวดด้วยเหมือนกัน ไม่ได้กำลังเจ็บปวดน้อยไปกว่าพวกเขาเลย
พวกเขาก็แค่สร้างโปรเจคเหรียญโปรเจคหนึ่งขึ้นมาเพื่อที่จะหาทาง exit ออกไปจากระบบ ๆ นี้มันก็แค่นั้น พวกเขาไม่ได้จะมาเปลี่ยนแปลงอะไรโลกใบนี้หรอก
การจะเปลี่ยนแปลงอะไรที่มันยิ่งใหญ่ได้ มันจะไม่เกิดขึ้นกับกลุ่มคนเพียงกลุ่มหนึ่ง หรือโปรเจคเล็ก ๆ โปรเจคเพียงหนึ่ง แต่มันจะต้องมาจากการที่มนุษย์พร้อมใจกันที่จะเปลี่ยนแปลงมันทั้งระบบ
และนั่นแหละ
นั่นคือสิ่งที่บิตคอยน์กำลังทำ การให้ผู้คนได้มีส่วนร่วมในการช่วยเปลี่ยนแปลงระบบที่กำลังล้มเหลวระบบนี้ สร้างผลประโยชน์ที่มีร่วมกันคือการได้ exit ออกไปจากระบบ ๆ นี้ด้วยกันทั้งหมด ไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่ง
พวกเขาอาจจะอยู่กับความฝันลม ๆ แร้ง ๆ ว่ากำลังจะยิ่งใหญ่ และกำลังจะเปลี่ยนแปลงโลกด้วยน้ำมือของพวกเขา ผ่านเทคโนโลยีที่พวกเขามี
พวกเราจะทำในสิ่งที่คนตัวเล็ก ๆ จะทำได้ สิ่งที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่และไม่ได้วิเศษวิโสอะไร สิ่งที่พวกเราจะต้องทำก็แค่การประกาศการรับรู้ออกไปถึงการมีอยู่ของบิตคอยน์ให้ผู้คนอีกมากมายได้รับรู้ แล้วหลักจากนั้นโลกมันจะเป็นไปแบบไหน ก็แค่รอให้กาลเวลามันเฉลยผลลัพธ์ออกมา
Why bitcoin? Now u know, but u don't care because u love to sucking people in the fiat money system, Be Like The Big Brother.
#Siamstr
#SiamstrOG
Published at
2024-02-02 07:17:28Event JSON
{
"id": "44592d03dfca84d56ff878683cbf533ead03e4f1d5c83086122e8a3f111491bc",
"pubkey": "0bd1f20c47a4f87d232cfdc70415710a29cb8ee08c10e96c87d880fb3cbb8bc2",
"created_at": 1706858248,
"kind": 1,
"tags": [
[
"t",
"##"
],
[
"t",
"Siamstr"
],
[
"t",
"SiamstrOG"
]
],
"content": "### ใครถามนะว่าทำไมต้องบิตคอยน์ทำไมไม่เป็นคริปโต?\n\nพวกเขามักจะบอกว่าโปรเจคเหรียญคริปโตของพวกเขา มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อที่จะเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่จะถูกนำมาใช้ภายในระบบนิเวศทางการเงินของพวกเขา เขามักจะใส่ฟังก์ชันนั่นนี่เพื่อให้มันเป็นมากกว่าการเป็นแค่เงิน “สมาร์ตคอนแทรค“ ฟังก์ชันที่ใช้ในการโปรแกรมคำสั่งกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ในลงไปในการทำธุรกรรม เช่น สัญญาต่าง ๆ ที่สามารถดำเนินการโดยที่ไม่ต้องผ่านตัวกลาง\n\nมันฟังดูดีเลยทีเดียวที่เราสามารถตัดตัวกลางตัดคนกลางอย่างมนุษย์ที่มีความไบแอสที่มีแนวโน้มที่จะโน้มเอียงไปตามผลประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อต้องเป็นตัวกลางในการตัดสินอะไรบางอย่าง\n\nมันทำให้เราลืมไปว่าเบื้องหลังการโปรแกรมมิ่งตัวของสมาร์ตคอนแทรค ก็มาจากกลุ่มคนที่เป็นเจ้าของโปรเจคที่พัฒนามันขึ้นมา พวกเขาอาจจะนำเอา white paper หรือ road map ของโปรเจคของพวกเขามาเปิดเผยเพื่อความน่าเชื่อถือว่าพวกเขาไม่ได้ใส่กลไกลอะไรที่แอบแฝงเอาไว้ แต่คุณไม่มีทางรู้หรอก เมื่อคุณเริ่มไว้ใจพวกเขาไปแล้วเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อคุณมีผลประโยชน์จากผลของกำไรจากการมีส่วนร่วมกับตัวโปรเจคไปแล้วคุณก็จะละเลยการระวังตัวของคุณไป\n\nและใช่ เมื่อโปรเจคมันเติบโตและมีมูลค่าเกินกว่าความเป็นจริง มันเป็นเรื่องที่ทำใจได้ง่ายมาก ๆ ที่ผู้ที่เป็นเจ้าของโปรเจคคริปโตเหล่านั้นจะล้มเลิกการทำโปรเจคนั้นด้วยการ rug pull และหอบเอาเงินของผู้ที่ลงทุนหนีหายไป\n\nจะเหนื่อยและเสียเวลาพัฒนาโปรเจคต่อไปให้โง่อยู่ทำไม ในเมื่อเชิดเงินแล้วชิ่งหนีไปมันสบายกว่ากันเยอะเลย\n\nมันต่างอะไรจาก exit plan ในวงการธุรกิจทั่ว ๆ ไป การตั้งธุรกิจขึ้นมาด้วยเงินทุนจำนวนหนึ่ง ปั้นบริษัท ทำการตลาด ชักจูงให้คนมาลงทุนในบริษัท นำเข้าตลาดหลักทรัพย์ ออกหุ้นกู้ เมื่อบริษัทมีมูลค่าที่เพิ่มมากขึ้นจากการที่มีเงินของนักลงทุนคนอื่น ๆ ถมใส่เข้ามา มากพอที่เจ้าของกิจการได้เล็งเอาไว้ตั้งแต่แรก พวกเขาก็ขายบริษัทนั้นให้กับคนอื่นเพื่อที่จะ exit ออกไป\n\nกลับไปที่จุดประสงค์แรก “การเป็นเงินในระบบนิเวศของโปรเจค” จากสิ่งที่จะถูกใช้เพื่อเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน เป็นสกุลเงินหนึ่งสำหรับโลกเสมือน เมื่อโปรเจคมันถูกพัฒนาจนสามารถมีโปรดักต่าง ๆ ในโลกจำลองนั้น เช่น สินค้ารูปภาพดิจิตอล NFT ต่าง ๆ ที่จะต้องใช้เหรียญดิจิตอลของโปรเจคนั้น ๆ ในการทำธุรกรรมซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยน\n\nในที่แรกมันก็ตั้งใจว่าจะเป็นสกุลเงินสกุลหนึ่งของโลกดิจิตอล แต่ในตอนนี้มันไม่ต่างจากสินค้าชนิดหนึ่งที่เอาไว้ทำกำไรเป็นสกุลเงินอื่น ๆ เป็นเงินดอลลาร์ หรือเงินบาทไทย แล้วไหนล่ะ? ที่ว่าจะเป็นสกุลเงินภายในระบบนิเวศ\n\nพวกเขารู้ว่าซัพพลายของดอลลาร์นั้นมีอยู่อย่างไม่จำกัด ดังนั้นพวกเขาจึงกำหนดซัพพลายเหรียญของพวกเขาให้มีจำนวน ๆ หนึ่งในช่วงแรกเริ่ม และเมื่อมีนักลงทุนเข้ามาจับจองเหรียญของพวกเขา เมื่อมันเริ่มมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้น พวกเขารู้ว่าสินค้าถ้ามีปริมาณที่ลดลงอย่างฉับพลัน มันจะเกิดการขาดแคลนจากความต้องการที่สูงขึ้นซึ่งจะส่งผลให้สินค้ามีราคาที่เพิ่มสูงขึ้น \n\nดังนั้นพวกเขาจึงใช้วิธีการลดซัพพลายของเหรียญอย่างฉับพลัน ด้วยระบบที่เรียกว่าการ burn supply หรือการเผาเหรียญออกไปจำนวนหนึ่ง เพื่อให้เหรียญที่เป็นของเจ้าของโปรเจคมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นหน่วยของดอลลาร์ ส่วนนักลงทุนคนอื่น ๆ เมื่อเห็นว่าการเผาเหรียญนั้นช่วยให้เหรียญที่พวกเขาถืออยู่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ต่างก็ออกมาสนับสนุนเจ้าของโปรเจค และพร้อมจะปกป้องพวกเขาจากผู้ที่เห็นต่าง \n\nทั้ง ๆ ที่สิ่งนี้มันคือการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินของตัวโปรเจคเหรียญไปจากสิ่งที่ถูกกำหนดมาตั้งแต่แรก\n\nคุณเชื่อถือนักพัฒนา หรือเจ้าของโปรเจคที่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างนโยบายของโปรเจคเหรียญได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ?\n\nมันจะต่างอะไรกับการที่คุณก็อยู่ในโลกของเฟียตที่มันเลวร้ายอย่างในทุกวันนี้อยู่แล้ว เมื่อกลไกการควบคุมเงินมันอยู่ในมือของคนเพียงไม่กี่กลุ่มที่สามารถปรับเปลี่ยนอะไร ๆ ได้ตามใจชอบ คุณยังต้องการที่จะอยู่ในโลกจำลองที่กำลังเลียนแบบโลกของระบบเฟียตในชีวิตจริงอยู่อีกเหรอ?\n\nพวกเขาสร้างโปรเจคเหรียญที่บอกว่ามันจะดีกว่าระบบการเงินในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยี ๆ ใหม่ แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่พวกเขาต้องการมันคือผลของกำไรในรูปของเงินเฟียต พวกเขาจะต่างอะไรจากคนที่พวกเขากำลังกล่าวอ้างถึง\n\nสุดท้ายแล้วพวกเขาก็เป็นแค่คนกลุ่มหนึ่ง ที่พยายามจะเอาชีวิตรอดและมีชีวิตอยู่อย่างมั่งคั่งในโลกของเฟียต \n\nพวกเขาหนีจากความเจ็บปวดของการถูกผู้ที่ควบคุมกลไกของระบบเฟียตแย่งชิงเอาการเก็บออม เอาความมั่งคั่งไปจากชีวิตของพวกเขา โดยที่พวกเขาก็กำลังหนีมันด้วยการเอาเปรียบน้ำพักน้ำแรงของผู้อื่นที่ก็เจ็บปวดด้วยเหมือนกัน ไม่ได้กำลังเจ็บปวดน้อยไปกว่าพวกเขาเลย\n\nพวกเขาก็แค่สร้างโปรเจคเหรียญโปรเจคหนึ่งขึ้นมาเพื่อที่จะหาทาง exit ออกไปจากระบบ ๆ นี้มันก็แค่นั้น พวกเขาไม่ได้จะมาเปลี่ยนแปลงอะไรโลกใบนี้หรอก\n\nการจะเปลี่ยนแปลงอะไรที่มันยิ่งใหญ่ได้ มันจะไม่เกิดขึ้นกับกลุ่มคนเพียงกลุ่มหนึ่ง หรือโปรเจคเล็ก ๆ โปรเจคเพียงหนึ่ง แต่มันจะต้องมาจากการที่มนุษย์พร้อมใจกันที่จะเปลี่ยนแปลงมันทั้งระบบ\n\nและนั่นแหละ\n\nนั่นคือสิ่งที่บิตคอยน์กำลังทำ การให้ผู้คนได้มีส่วนร่วมในการช่วยเปลี่ยนแปลงระบบที่กำลังล้มเหลวระบบนี้ สร้างผลประโยชน์ที่มีร่วมกันคือการได้ exit ออกไปจากระบบ ๆ นี้ด้วยกันทั้งหมด ไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่ง\n\nพวกเขาอาจจะอยู่กับความฝันลม ๆ แร้ง ๆ ว่ากำลังจะยิ่งใหญ่ และกำลังจะเปลี่ยนแปลงโลกด้วยน้ำมือของพวกเขา ผ่านเทคโนโลยีที่พวกเขามี\n\nพวกเราจะทำในสิ่งที่คนตัวเล็ก ๆ จะทำได้ สิ่งที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่และไม่ได้วิเศษวิโสอะไร สิ่งที่พวกเราจะต้องทำก็แค่การประกาศการรับรู้ออกไปถึงการมีอยู่ของบิตคอยน์ให้ผู้คนอีกมากมายได้รับรู้ แล้วหลักจากนั้นโลกมันจะเป็นไปแบบไหน ก็แค่รอให้กาลเวลามันเฉลยผลลัพธ์ออกมา\n\nWhy bitcoin? Now u know, but u don't care because u love to sucking people in the fiat money system, Be Like The Big Brother.\n\n#Siamstr \n#SiamstrOG ",
"sig": "1a1ea7659b0dd6f942e89320cf28e50cafad0527833ddb299dd689af3d19d629b35fa170ba7b37a39cb7cac7f6088adab18c562547e3660485524a26d3aa93a4"
}