LearnBN on Nostr: ระบบเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ ...
ระบบเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ peer-to-peer
ระบบเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ peer-to-peer นั้นจะช่วยให้เราสามารถชำระเงินผ่านทางออนไลน์ได้โดยตรงจากฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายหนึ่งโดยไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่างพวกสถาบันการเงิน โดยใช้ digital signature เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหานี้ แต่มันจะไม่มีประโยชน์ใด ๆ เลยหากยังคงต้องอาศัยตัวกลางที่เชื่อถือได้มาแก้ปัญหา double spending เราขอเสนอวิธีแก้ปัญหา double spending โดยใช้เครือข่ายแบบ peer-to-peer ให้เครือข่ายคอยประทับเวลาธุรกรรมต่าง ๆ ในระบบและนำมาเรียงร้อยกันเป็นเส้นสายของ proof-of-work ที่ใช้ hash เพื่อสร้างธุรกรรมที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่ต้องทำ proof-of-work ใหม่ โดยให้เส้นสายที่ยาวที่สุดนั้น ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นลำดับของธุรกรรมที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่ามาจากกำลังประมวลผล CPU ที่มากที่สุด และตราบใดที่ nodes ส่วนใหญ่ไม่ได้ร่วมมือกันโจมตีเครือข่ายและยังคงควบคุมกำลังประมวลผลส่วนใหญ่ในระบบไว้ พวกเขาก็จะสร้างเส้นสายที่ยาวที่สุดและสามารถเอาชนะผู้ประสงค์ร้ายที่จะโจมตีระบบได้ ตัวเครือข่ายเองไม่ได้ต้องมีโครงสร้างอะไรที่ซับซ้อน ข้อมูลต่าง ๆ ในเครือข่ายจะถูกกระจายส่งต่อโดยไม่ต้องสนใจว่าผู้รับจะได้รับหรือไม่ และ nodes ต่าง ๆ เองก็สามารถที่จะออกจากเครือข่ายและกลับเข้าร่วมใหม่ได้ตามที่ต้องการ โดยยอมรับเส้น proof-of-work ที่ยาวที่สุด เป็นหลักฐานของสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่ node นั้น ๆ ไม่ได้อยู่ในเครือข่าย
#siamstr
/ปล. ถ้าใครอ่านแล้วคุ้นก็ใช่ครับ white paper นั้นแหละ ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะยังไม่เคยมีโอกาสได้อ่าน (9 หน้ามันก็ยาวอะเนอะ) เลยคิดว่าจะหั่นออกมาทีละส่วน เผื่อใครตามอ่านทุกวันสักสองอาทิตย์ก็เหมือนอ่าน white paper จบ/
Published at
2024-07-25 13:14:46Event JSON
{
"id": "608a75f122feff2284e64a0f798185775ec079f2b779a62c8f3855c337acaf8a",
"pubkey": "79008e781adec767cc8e239b533edcb19ea2e260f9281a9125e93425dfac9395",
"created_at": 1721913286,
"kind": 1,
"tags": [
[
"t",
"siamstr"
]
],
"content": "ระบบเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ peer-to-peer \n\nระบบเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ peer-to-peer นั้นจะช่วยให้เราสามารถชำระเงินผ่านทางออนไลน์ได้โดยตรงจากฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายหนึ่งโดยไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่างพวกสถาบันการเงิน โดยใช้ digital signature เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหานี้ แต่มันจะไม่มีประโยชน์ใด ๆ เลยหากยังคงต้องอาศัยตัวกลางที่เชื่อถือได้มาแก้ปัญหา double spending เราขอเสนอวิธีแก้ปัญหา double spending โดยใช้เครือข่ายแบบ peer-to-peer ให้เครือข่ายคอยประทับเวลาธุรกรรมต่าง ๆ ในระบบและนำมาเรียงร้อยกันเป็นเส้นสายของ proof-of-work ที่ใช้ hash เพื่อสร้างธุรกรรมที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่ต้องทำ proof-of-work ใหม่ โดยให้เส้นสายที่ยาวที่สุดนั้น ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นลำดับของธุรกรรมที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่ามาจากกำลังประมวลผล CPU ที่มากที่สุด และตราบใดที่ nodes ส่วนใหญ่ไม่ได้ร่วมมือกันโจมตีเครือข่ายและยังคงควบคุมกำลังประมวลผลส่วนใหญ่ในระบบไว้ พวกเขาก็จะสร้างเส้นสายที่ยาวที่สุดและสามารถเอาชนะผู้ประสงค์ร้ายที่จะโจมตีระบบได้ ตัวเครือข่ายเองไม่ได้ต้องมีโครงสร้างอะไรที่ซับซ้อน ข้อมูลต่าง ๆ ในเครือข่ายจะถูกกระจายส่งต่อโดยไม่ต้องสนใจว่าผู้รับจะได้รับหรือไม่ และ nodes ต่าง ๆ เองก็สามารถที่จะออกจากเครือข่ายและกลับเข้าร่วมใหม่ได้ตามที่ต้องการ โดยยอมรับเส้น proof-of-work ที่ยาวที่สุด เป็นหลักฐานของสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่ node นั้น ๆ ไม่ได้อยู่ในเครือข่าย\n\n#siamstr\n/ปล. ถ้าใครอ่านแล้วคุ้นก็ใช่ครับ white paper นั้นแหละ ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะยังไม่เคยมีโอกาสได้อ่าน (9 หน้ามันก็ยาวอะเนอะ) เลยคิดว่าจะหั่นออกมาทีละส่วน เผื่อใครตามอ่านทุกวันสักสองอาทิตย์ก็เหมือนอ่าน white paper จบ/",
"sig": "5cb5ca541c938309750152f4ac6beb6ccb21f647cc3d92fa6aa1cab9f967adc323caec73074d69e49468b3431275e166723f91cdab5d5ec87e843e8f44ef3e76"
}