Why Nostr? What is Njump?
2023-11-22 02:03:10

Note of Work on Nostr: เมื่อจารีตและประเพณีท้องถิ่น ...

เมื่อจารีตและประเพณีท้องถิ่น ต้องถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของผู้ซึ่งเรียกตนว่า "คนหัวก้าวหน้า" ด้วยคำว่า "งมงาย" บ้างล่ะ "ไร้สาระ" บ้างล่ะ แต่หากเรพิจารณาจารีตและวัฒนะรรมท้องถิ่นนั้นๆ หาใช่เพื่อความเชื่องมงายเพียงอย่างเดียว หากแต่แฝงไปซึ่งกุศโลบายต่างๆมากมายเกินกว่าที่จะสรุปอย่างมักง่ายว่าไร้ค่าได้ ประกอบกับช่วงนี้เป็น ช่วงประเพณีทอดกฐิน แอดจึงขอยกตัวอย่างประเพณีมาให้อ่านกัน

ประเพณีทอดกฐิน "กฐิน" หมายถึง "ไม้สะดึง หรือก็คือ ไม้ซึ่งมีไว้ขึงผ้าให้ตึง" เนื่องจากช่างที่เย็บผ้านั้นไม่ได้มีความชำนาญ ผ้ากฐินเกิดจากความร่วมมือของอุบาสก อุบาสิกาในสมัยนั้น ช่วยนั้นเย็บปักและนำไปถวายแก่พระภิกษุสงฆ์ในช่วงเวลาออกพรรษานั่นเอง

ในส่วนของประวัติความเป็นมา ขอเล่าโดยสังเขปว่า เมื่อสมัยพุทธกาล บรรดาพระภิกษุสงฆ์เดินทางไปยังเมืองสาวัตถีเพื่อพบกับพระพุทธเจ้าแต่ติดช่วงเข้าพรรษาจึงต้องหยุดจำพรรษาก่อน เมื่อผ่านพ้นไป 3 เดือนแล้ว ขณะนั้นฝนยังตกชุก พื้นดินยังเป็นหลุม เป็นโคลน ทำให้จีวรเปียกและมีโคลนเกาะ พระพุทธเจ้าเมื่อเห็นดังนั้นจึงไถ่ถามกลุ่มพระภิกษุกลุ่มดังกล่าว และอนุญาตให้มีการกรานกฐิน หรือ รับผ้านกฐินได้ ส่วนคนที่เริ่มถวายผ้ากฐินคนแรก คือนางวิสาขา จนเป็นประเพณีสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้

สำหรับประเพณีการทอดกฐินนั้น ได้รับเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่เมื่อศาสนาพุทธเข้ามาสู้อาณาจักรสุโขทัย โดยหลังจากถือศีลมาตลอดช่วงเข้าพรรษา ผู้คนจะร่วมกันถวายผ้ากฐิน และจัดงานเลี้ยง แสดงมหรสพ ร้องเล่นครื้นเครง นับเป็นงานบุญครั้งใหญ่ประจำปี และประเพณีนี้ก็กระจายสู่แต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศ แต่ละท้องถิ่นก็รายละเอียดทางประเพณีที่แตกต่างกันไปตามวัฒนธรรมนั้นๆ โดยมีจุดร่วมกันอย่างหนึ่ง ซึ่งคือ "การรวมใจของผู้คนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน"

เมื่อพิจารณาถึงประเพณีดังกล่าวแล้วจะแสดงให้เห็นว่า วัฒนธรรมและจารีตประเพณีท้องถิ่นนั้น มีจุดประสงค์ก็เพื่อความสามัคคี การรวมจิตใจของผู้คน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสถาบันท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่ง...มันเป็นศัตรูกับอำนาจรวมศูนย์อย่างสถาบันรัฐ หากผู้คนแต่ละท้องถิ่นต่างแข็งแกร่งและมีความคิดเป็นของตน แต่เราก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยระเบียบตามธรรมชาติ รัฐจะมีอำนาจควบคุมแทรกแซงได้อย่างไร จึงไม่แปลกใจหากกลุ่มคนซึ่งฝักใฝ่ในอำนาจรวมศูนย์ ฝันกลางวันถึงบรรชาแห่งสวรรค์เพียงหนึ่ง จะต้องการทำลายวัฒนธรรม จารีต ประเพณีท้องถิ่น เพื่อสถาบันท้องถิ่นที่อ่อนแอ เมื่อผู้คนไร้ซึ่งพลัง ซึ่งที่ยึดเหนี่ยวแล้ว รัฐจึงจะสามารถตั้งตนเป็นศาสดา และผูกขาดความงมงายไว้แต่เพียงผู้เดียวได้

มันไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นคนดีแค่ไหน แต่เมื่อการกระทำของคุณคือทำลายและกดขี่ทุกคน เพื่อให้ขึ้นเป็นผู้ชนะเพียงหนึ่งบนซากแห่งความสิ้นหวังและความล่มสลาย ผู้ชนะแบบนี้เราสามารถเรียกได้ว่าเป็น "คนดี" ได้หรือไม่? มาลองร่วมกันโหลตแบบประชาธิปไตยแบบที่พวกเขาเล่านั้นยึดเป็นสรณะกัน

GM #siamstr #siamstrog
Cancel Cultural of Marxism กับ ประเทศไทยที่กำลังเกิดขึ้น

ทฤษฎีของพรรคก้าวไกลที่พยายามทำลายสิ่งที่มีอยู่แล้วในอดีต

ผมเป็นคนนึงที่ไม่ค่อยเข้าใจทฤษฎีนี้สักเท่าไหร่ แต่เป็นทฤษฎีทางสังคมในรูปแบบการวิพากษ์เชิงวิเคราะห์ของเหล่าปัญญาชน ที่ใช้โจมตีฝ่ายอนุรักษ์นิยม

และคุณเชื่อไหมว่าในประเด็นนี้ทางสังคม ไอ้เรื่องพวกนี้ กลุ่มคนที่ตอบได้ดีกลับมิใช่ “สลิ่ม” ที่กล่าวว่าตัวเองเป็นพวกอนุรักษ์นิยม

แต่เป็น ”คนเสื้อแดงสายอนุรักษ์นิยม“ (ส่วนใหญ่ Pro-พรรคเพื่อไทย)

ผมมีเพื่อนในเฟสที่รู้จักกันตอนเข้าไปทำความเข้าใจ ทฤษฎีทางสังคมและมุมมองของฝ่ายขวาจัด ซึ่งมันสามารถตอบโจทย์ผมได้ค่อนข้างดี

ซึ่งทฤษฎีทางสังคมเหล่านี้เราจะหยิบยกเรื่องของวัฒนธรรมที่มีแต่ดั้งเดิม ของชุมชนท้องถิ่น ก่อนเรื่องราวของทุนนิยมและความยากจน

Cancel Cultural Maxism คือการปฏิวัติวัฒนธรรมโดยการแบ่งคนออกเป็นกลุ่มๆตามลำดับชนชั้น ซึ่งบทวิเคราะห์ให้เห็นถึงความไม่เป็นที่เป็นทาง ทางด้าน ชนชั้นวรรณะ และ ความเหลื่อมล้ำ ทฤษฎีนี้ถูกแพร่หลายจากการกระทำการเล็กๆ มีรูปแบบคล้ายทฤษฎีปฏิวัติของ Antonio Gramcsci ที่มองว่าการปฏิวัติทางสังคมแบบ Shock therapy นั้นไม่ได้ผล

สิ่งเหล่านี้มาพร้อมกับตั้งคำถามทางสังคม ที่ไปในทิศทางเดียวกัน

เช่น “แห่เทียนพรรษาใครได้บุญ” “แห่ไปแล้วคุณรู้ได้ยังไงใครจะได้บุญ”

หรือ แม้กระทั่งเทศกาล สงกานต์ ที่คนพวกนี้ก็จะเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ และมองตัวเองไปทาง individualism แบบจอมปลอม

อย่างเช่น พวกแกทำไมต้องสาดน้ำหน้าบ้านฉันด้วย ทำไมต้องทำให้คนอื่นเปียกไปด้วย

หรือ แม้แต่ทฤษฎีผีบุญในอดีตที่รัฐเข้าไปมีบทบาทในการทำลายวัฒนธรรมนี้ของคนในภาคอีสาน

พรรคก้าวไกลใช้ Interlectual ตามทฤษฎีของ Gramsci เพื่อทำลายความเชื่อเดิมๆ ของ คนในพื้นถิ่นอย่างย่อยยับ เพียงเพราะพวกเค้าใช้สิ่งที่พิสูจน์ได้มาครอบงำความเชื่อเดิมๆ ของคนในพื้นที่ ดังนั้นตัวทฤษฎีทางสังคมเมื่อถูกตีตก และ สังคมท้องถิ่นเมื่อไร้ซึ่งความเชื่อที่ถูกทำลายลงไป ก็พร้อมจะหันหน้าเข้า ศูนย์กลาง แห่งการดำรงอยู่

“รัฐบาลจะต้องเข้ามามีบทบาทในทุกเรื่อง”

การทำลายวรรณะทางสังคมหนึ่งสู่อีกสังคมนั้นเน้นไปที่การเข้าไปมีบทบาท ทำให้พวกเค้ากำชัยชนะในระบบรวมศูนย์ทางความเชื่อใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง และนำไปสู่การปฏิวัติที่ง่ายดายขึ้นยิ่งกว่าเดิม

“ความไม่รู้ทำให้คนมีศรัทธาในปัจเจกชนยิ่งกว่าเดิม”

สิ่งหนึ่งในตัว Nihilism ที่เฉพาะเจาะจงคือ ความรู้มีอยู่แล้ว เราแค่พบเจอนั้นต่างจาก Existentialism ที่มองว่าการค้นพบสิ่งใหม่ๆ นั้นเปรียบเสมือนมือที่มองไม่เห็น

เราค้นพบทฤษฎีผ่านปัจเจกชนเพื่อนำไปต่อยอดการให้ความหมายของความเป็นมนุษย์นั้นขึ้นอยู่กับปัจเจกเพื่อสร้างสังคม

ดังนั้นการกระทำดังกล่าวที่สอดคล้องกับความไม่รู้ในท้องถิ่น นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับศีลธรรมแต่มันเกิดค่านิยมตามธรรมชาติ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับความเจริญในสังคม แต่เกี่ยวกับค่านิยมร่วมของการพัฒนา

สิ่งเหล่านี้เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผลหนึ่งที่ตัวผม Anti-สลิ่ม ขั้นสุด เพราะพวกเค้าไม่สามารถตอบคำถามเรื่องค่านิยมของสังคมได้ดีเทียบเท่าคนในท้องถิ่น ซึ่งคำตอบของเค้านั้นใช้หลักและวิชาการเพื่อพิสูจน์ความจริงเพียงเพื่อค้นหาความถูกต้อง มากกว่า สิ่งที่เป็นอยู่และการสร้างสังคมที่มีค่านิยมร่วมกันของท้องถิ่นนั้นๆ

#siamstr
Author Public Key
npub1yyemsve4xsaqf9frhxukwhnp5k07x9sn9wph7yz2qvffaemtrvlqq3sngv