Hipknox on Nostr: ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ :) ...
ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ :)
ในมุมหนึ่ง การได้เริ่มในตลาดที่มีความผันผวนมาก ๆ อย่างช่วงขาขึ้นของราคา (ตอนที่เรายังไม่มีของ) หรือช่วงขาลงของราคา (หลังจากเรามีของไปแล้วแต่ยังไม่ได้ขาย) เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้ทดสอบจิตใจของตัวเอง ความคิดภายในหัว การตัดสินใจต่าง ๆ และอารมณ์ความรู้สึกได้ดีมาก ๆ เป็นการฝึกการรู้ตัวได้ดีเลยทีเดียวครับ
ในมุมหนึ่งมันทำให้เราได้เรียนรู้ตัวเราเองว่าเราเป็นคนแบบไหน คนที่มีจิตใจเข้มแข็งมาตลอด ปากบอกว่าไม่กลัวอะไรทั้งนั้นก็สั่นเทากันมาแล้ว
*ตอนยังไม่มีของ
1. เวลาที่ราคาของ ของที่จะซื้อเพื่อการเก็งกำไรมันนิ่ง ๆ side way เราจะไม่ค่อยสนใจมัน มันค่อยไม่น่าดึงดูด มองยังไงมันก็ดูไม่ค่อยจะมีอนาคตเลย แต่เราจะเปลี่ยนใจตอนที่มันเริ่มมีข่าว มีกระแส และราคาเริ่มที่จะวิ่ง
2. การที่ได้เห็นราคาที่มันขึ้นไปต่อหน้าต่อตา แต่เพราะว่ายังไม่ได้ทำการเข้าซื้อมาก่อนหน้านั้น (FOMO - Fear of Missing Out) (อาการกลัวการตกรถ) อาจจะทำให้ตัดสินใจผิดพลาด เช่น คิดไปเองว่าราคามันอาจจะขึ้นไปต่อ แต่หลังเข้าซื้อมันกลับไปอีกทาง คือมันลง
2.1 พอราคามันลง เราคิดว่าเราผิดทาง เราอาจจะขายมันไป แต่หลังจากขายราคามันอาจจะกลับขึ้นไป เราก็จะโทษตลาดว่ามันมีการปั่นราคา หลอกล่วง เป็นแชลูกโซ่ แล้วเราก็ออกจากตลาดไป
2.2 พอราคามันลง เราคิดว่าเราผิดทาง เราอาจจะขาย แต่ราคามันก็ลงจริง ๆ เราอาจจะคิดว่าเราก็เก่งเหมือนกันนิหว่า ไม่เป็นไรรอบหน้าเอาใหม่
2.3 พอราคามันลง เราคิดว่ามันอาจจะแค่ปรับฐานเพราะเราเข้าผิดจังหวะ เราจึงยังถือของเอาไว้ ถ้ามันกลับขึ้นไปเราก็ไม่ต้องค่อยซื้อ ๆ ขาย ๆ เข้า ๆ ออก ๆ หรือ ถ้าราคามันลง เราก็แค่ขาดทุนทางโอกาสและเวลา (เราอาจจะรอให้ราคามันกลับขึ้นไป / ถ้ามันยังอยู่ในเทรนล่ะนะ)
2.4 “เข้าซื้อแล้วกำไร” ถ้าหากว่าจะมีอะไรที่ทำให้เราหัวโตมากที่สุด ก็คงจะเป็นการเข้าในจังหวะที่ราคามันวิ่งไปต่อหลังการเข้าซื้อ ตัวเลขที่ +50% ถึง +100% ภายในวันเดียว สามารถที่จะทำให้คนที่ฉลาด กลายเป็นคนที่อีโก้เข้าครอบงำมาแล้ว
“เราก็เก่งเหมือนกันนิหว่า” “แม่นขนาดนี้ ไม้หน้า all in ไปเลยเถอะ” “เก่ง ๆ อย่างเรา ต้องกด leverage x 25 ไปสิ สิ้นปีนี้จะถอย super cars" และอื่น ๆ อีกมากมาย กำไรจะเป็นภาพสะทอนความโลภ อีโก้ การหลงตัวเอง การไม่มองความเป็นจริง กำไรจะเป็นสิ่งที่อันตรายยิ่งกว่าการขาดทุนซะอีก
จริง ๆ ยังมีอีกหลายแง่มุมเลยครับ นี่เป็นเพียงเศษชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของจิตวิทยาตลาดเท่านั้น
กว่าเราจะสามารถมีบิตคอยน์อยู่กับเราได้ปราการด่านแรกที่จะต้องผ่านก็คือ “กำแพงของราคา” เรามักจะคิดว่า “บิตคอยน์มันราคาแพงเกินไป / กว่าจะเก็บได้สัก 1 บิตคอยน์ต้องใช้เงินเท่าไรกัน? / เหรียญอื่น ๆ ราคาถูกกว่า ถ้าซื้ออาจจะกำไรได้มากกว่าเยอะ”
ผมใช้วิธีตัดปัญหาเรื่องทั้งหมดที่กล่าวมาข้างบนนั้น จากการมองอยู่แค่มูลค่าทางราคาของมันด้วยการ “เรียนรู้ความจริงว่า บิตคอยน์ มันเกิดมาเพื่ออะไร? มันเกิดมาแก้ปัญหาของอะไร?” หลังจากนั้นมูลค่าของบิตคอยน์ที่ผมเห็น มันไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขที่เทียบเคียงกับ BTC/USD หรือ BTC/THB
สำหรับตัวผมเอง มูลค่าของมันคือการเดิมพันกับอนาคตกาลที่จะมาถึง เป็นหลักประกันว่าถ้าเกิดว่าระบบเงินตราที่เราใช้กันอยู่นี้ล่มสลาย ตัวเลือกมันคงไม่ใช่สกุลเงินอื่น หรือ ทองคำ โลหะมีค่าที่เราเคยเลิกใช้มันไปแล้ว หรือถ้าหากวันหนึ่ง อย่างน้อยประชากรโลกจะให้การยอมรับบิตคอยน์ ให้ค่ามันเป็นสกุลเงินหนึ่งที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้าต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวาง อย่างน้อยผมก็มีบิตคอยน์จำนวนหนึ่ง ก่อนที่คนอื่น ๆ ที่ยังไม่มีมันจะเริ่มสนใจมัน
ถึงแม้ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นในชั่วชีวิตนี้ ผมก็ไม่เสียใจ ผมได้เลือกมันไปแล้ว :)
Published at
2023-12-04 04:04:55Event JSON
{
"id": "e6a2e6817a0e0bc73ce38feef09ccdbb9ad7bd355f12d19ad224ae417c6ec1ab",
"pubkey": "0bd1f20c47a4f87d232cfdc70415710a29cb8ee08c10e96c87d880fb3cbb8bc2",
"created_at": 1701662695,
"kind": 1,
"tags": [
[
"e",
"ef4e1f42439037f07a0ef5b5f2d2aede62e3bd51f96eae0498dca6339985b080",
"wss://relay.current.fyi/",
"root"
],
[
"p",
"12e3b7cea4dabfefa35908317519dc7d3136559bf399d21610e3b6f3c2ae8688"
]
],
"content": "ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ :)\n\nในมุมหนึ่ง การได้เริ่มในตลาดที่มีความผันผวนมาก ๆ อย่างช่วงขาขึ้นของราคา (ตอนที่เรายังไม่มีของ) หรือช่วงขาลงของราคา (หลังจากเรามีของไปแล้วแต่ยังไม่ได้ขาย) เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้ทดสอบจิตใจของตัวเอง ความคิดภายในหัว การตัดสินใจต่าง ๆ และอารมณ์ความรู้สึกได้ดีมาก ๆ เป็นการฝึกการรู้ตัวได้ดีเลยทีเดียวครับ\n\nในมุมหนึ่งมันทำให้เราได้เรียนรู้ตัวเราเองว่าเราเป็นคนแบบไหน คนที่มีจิตใจเข้มแข็งมาตลอด ปากบอกว่าไม่กลัวอะไรทั้งนั้นก็สั่นเทากันมาแล้ว \n\n*ตอนยังไม่มีของ\n\n1. เวลาที่ราคาของ ของที่จะซื้อเพื่อการเก็งกำไรมันนิ่ง ๆ side way เราจะไม่ค่อยสนใจมัน มันค่อยไม่น่าดึงดูด มองยังไงมันก็ดูไม่ค่อยจะมีอนาคตเลย แต่เราจะเปลี่ยนใจตอนที่มันเริ่มมีข่าว มีกระแส และราคาเริ่มที่จะวิ่ง\n\n2. การที่ได้เห็นราคาที่มันขึ้นไปต่อหน้าต่อตา แต่เพราะว่ายังไม่ได้ทำการเข้าซื้อมาก่อนหน้านั้น (FOMO - Fear of Missing Out) (อาการกลัวการตกรถ) อาจจะทำให้ตัดสินใจผิดพลาด เช่น คิดไปเองว่าราคามันอาจจะขึ้นไปต่อ แต่หลังเข้าซื้อมันกลับไปอีกทาง คือมันลง\n\n2.1 พอราคามันลง เราคิดว่าเราผิดทาง เราอาจจะขายมันไป แต่หลังจากขายราคามันอาจจะกลับขึ้นไป เราก็จะโทษตลาดว่ามันมีการปั่นราคา หลอกล่วง เป็นแชลูกโซ่ แล้วเราก็ออกจากตลาดไป\n\n2.2 พอราคามันลง เราคิดว่าเราผิดทาง เราอาจจะขาย แต่ราคามันก็ลงจริง ๆ เราอาจจะคิดว่าเราก็เก่งเหมือนกันนิหว่า ไม่เป็นไรรอบหน้าเอาใหม่\n\n2.3 พอราคามันลง เราคิดว่ามันอาจจะแค่ปรับฐานเพราะเราเข้าผิดจังหวะ เราจึงยังถือของเอาไว้ ถ้ามันกลับขึ้นไปเราก็ไม่ต้องค่อยซื้อ ๆ ขาย ๆ เข้า ๆ ออก ๆ หรือ ถ้าราคามันลง เราก็แค่ขาดทุนทางโอกาสและเวลา (เราอาจจะรอให้ราคามันกลับขึ้นไป / ถ้ามันยังอยู่ในเทรนล่ะนะ)\n\n2.4 “เข้าซื้อแล้วกำไร” ถ้าหากว่าจะมีอะไรที่ทำให้เราหัวโตมากที่สุด ก็คงจะเป็นการเข้าในจังหวะที่ราคามันวิ่งไปต่อหลังการเข้าซื้อ ตัวเลขที่ +50% ถึง +100% ภายในวันเดียว สามารถที่จะทำให้คนที่ฉลาด กลายเป็นคนที่อีโก้เข้าครอบงำมาแล้ว \n\n“เราก็เก่งเหมือนกันนิหว่า” “แม่นขนาดนี้ ไม้หน้า all in ไปเลยเถอะ” “เก่ง ๆ อย่างเรา ต้องกด leverage x 25 ไปสิ สิ้นปีนี้จะถอย super cars\" และอื่น ๆ อีกมากมาย กำไรจะเป็นภาพสะทอนความโลภ อีโก้ การหลงตัวเอง การไม่มองความเป็นจริง กำไรจะเป็นสิ่งที่อันตรายยิ่งกว่าการขาดทุนซะอีก\n\nจริง ๆ ยังมีอีกหลายแง่มุมเลยครับ นี่เป็นเพียงเศษชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของจิตวิทยาตลาดเท่านั้น\n\nกว่าเราจะสามารถมีบิตคอยน์อยู่กับเราได้ปราการด่านแรกที่จะต้องผ่านก็คือ “กำแพงของราคา” เรามักจะคิดว่า “บิตคอยน์มันราคาแพงเกินไป / กว่าจะเก็บได้สัก 1 บิตคอยน์ต้องใช้เงินเท่าไรกัน? / เหรียญอื่น ๆ ราคาถูกกว่า ถ้าซื้ออาจจะกำไรได้มากกว่าเยอะ”\n\nผมใช้วิธีตัดปัญหาเรื่องทั้งหมดที่กล่าวมาข้างบนนั้น จากการมองอยู่แค่มูลค่าทางราคาของมันด้วยการ “เรียนรู้ความจริงว่า บิตคอยน์ มันเกิดมาเพื่ออะไร? มันเกิดมาแก้ปัญหาของอะไร?” หลังจากนั้นมูลค่าของบิตคอยน์ที่ผมเห็น มันไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขที่เทียบเคียงกับ BTC/USD หรือ BTC/THB\n\nสำหรับตัวผมเอง มูลค่าของมันคือการเดิมพันกับอนาคตกาลที่จะมาถึง เป็นหลักประกันว่าถ้าเกิดว่าระบบเงินตราที่เราใช้กันอยู่นี้ล่มสลาย ตัวเลือกมันคงไม่ใช่สกุลเงินอื่น หรือ ทองคำ โลหะมีค่าที่เราเคยเลิกใช้มันไปแล้ว หรือถ้าหากวันหนึ่ง อย่างน้อยประชากรโลกจะให้การยอมรับบิตคอยน์ ให้ค่ามันเป็นสกุลเงินหนึ่งที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้าต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวาง อย่างน้อยผมก็มีบิตคอยน์จำนวนหนึ่ง ก่อนที่คนอื่น ๆ ที่ยังไม่มีมันจะเริ่มสนใจมัน\n\nถึงแม้ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นในชั่วชีวิตนี้ ผมก็ไม่เสียใจ ผมได้เลือกมันไปแล้ว :)",
"sig": "df89df2a54419ed60b023805d96d581eb9a8972f4600cabb75f396b8ec8e74db6335cdb1f46d73293816b11466b07bebc933c370b6da1f2e0fa9ebce3bb4771b"
}