Why Nostr? What is Njump?
2025-05-05 04:29:29

satuser on Nostr: 💬 : แนวคิดเรื่อง “Seed Packaging” ...

💬 : แนวคิดเรื่อง “Seed Packaging” ในชุมชน Bitcoin Developer

ในชุมชนพัฒนาบิทคอยน์มีการอภิปรายกันหลายแนวทางที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ seed phrase (วลีเมมโนนิก) ไม่ว่าจะเป็นการขยายความสามารถหรือใช้ในบทบาทอื่นๆ โดยมีการพูดถึงไอเดียต่างๆ ดังนี้

การอภิปรายในฟอรัม Mailing List และ BIP เกี่ยวกับ seed
• Penlock (บิตคอยน์-ดีฟ เมลลิ่งลิสต์) – โครงการ Penlock โดย Rama Gan นำเสนอวิธีการแบ่งวลี BIP39 เป็นหลายส่วน (secret splitting) โดยใช้กระดาษช่วยคำนวณ (paper-computer) แทนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยมีแนวคิดว่า สามารถแยกวลีออกเป็น เช่น 2-of-3 แชร์ ทำให้ต้องใช้แชร์ 2 ส่วนขึ้นไปจึงกู้คืน seed ได้ และแชร์แต่ละส่วนไม่เปิดเผยข้อมูล seed ทั้งหมด (ทำให้เป็นโซลูชัน trust-minimized inheritance)  ปัญหาหนึ่งที่ถูกชี้คือ ยังขาดมาตรฐานแบ่งส่วนวลีแบบไม่พึ่งพาเฉพาะอุปกรณ์ (wallet-agnostic) แก้ไขโดย Penlock ที่เข้ามาทำงานแบบอะนาล็อก ไม่ต้องป้อน seed ลงอุปกรณ์เพิ่มเติม 
• BIP-85 (Bitcoin Improvement Proposal #85) – เสนอโดย Ethan Kosakovsky เป็นแนวคิด “deterministic entropy” ที่ใช้ HD keychain หนึ่งชุดสร้างวลี seed ใหม่หลายชุด กล่าวคือ ใช้ seed หลักชุดเดียวเพื่อดึงค่าความสุ่มออกมาสร้างวลีย่อยต่างๆ ได้เป็นพัน (10,000) เมล็ด รองรับการสำรองหลายกระเป๋าจาก seed เดียว   โดยการอ้างอิงจากข่าว Optech #93 ระบุว่า BIP85 จะสร้าง super-keychain ที่มี child keys แปลงเป็นวลี seed หรือข้อมูลอื่น ๆ เพื่อใช้ใน recovery ของกระเป๋าต่างๆ 
• Codex32 (โพรโพสที่ถูกสรุปโดย Bitcoin Optech) – Russell O’Connor และ Andrew Poelstra เสนอร่าง BIP ใหม่ “Codex32” สำหรับเข้ารหัสสำรอง BIP32 seed โดยใช้ชุดอักขระแบบ bech32 แทน wordlist ปกติ และรองรับ Shamir secret sharing (เช่น 2-of-3) เช่นเดียวกับ SLIP39 แต่จุดเด่นคือออกแบบให้สามารถดำเนินการด้วยปากกา/กระดาษ เพื่อตรวจสอบ checksum ของแชร์ได้ง่าย (ในขณะที่ SLIP39 ต้องใช้คอมพิวเตอร์นำค่าแชร์มารวมใหม่จึงตรวจสอบได้)   ซึ่งหาก BIP นี้ถูกนำมาใช้ต่อ ก็จะช่วยให้กระเป๋าหลายเจ้าเพิ่มการรองรับ seed encoding แบบนี้ได้
• SLIP39 (SatoshiLabs) – แม้จะไม่ใช่ BIP ของ Bitcoin Core แต่ SLIP39 เป็นมาตรฐานสร้างแชร์แบบ Shamir ที่ SatoshiLabs (ผู้สร้าง Trezor) แนะนำตั้งแต่ปี 2017 สามารถแยก seed BIP39 ออกเป็นหลาย shares (เช่น 2-of-3) โดยที่แชร์ไม่ครบตาม threshold จะไม่สามารถเปิดเผย seed ใดๆ ได้  อย่างไรก็ตาม SLIP39 ต้องสร้างกระเป๋าใหม่ในรูปแบบ SLIP39 ไม่สามารถแปลงจาก BIP39 เดิมโดยตรง (และไม่ใช่มาตรฐานเปิดทั่วไปที่หลาย wallet รองรับโดยอัตโนมัติ) ซึ่ง Penlock ก็ถูกเสนอให้เป็นวิธีที่ “wallet-agnostic” กว่า 
• ฟีเจอร์และโพรเจกต์อื่นๆ – นอกจากข้างต้น ยังมีการพูดถึงไอเดียต่างๆ ใน community เช่น บน Bitcoin-Dev มีการทบทวน BIP-32, BIP-39 เช่น การใช้ derivation path ใหม่ๆ และมีการกล่าวถึงโพรเจกต์ด้าน seed packaging ใน wallet ค่ายต่างๆ (เช่น ไอเดียนำ BIP39 seed ไปใช้ใน Lightning หรือระบบอื่นๆ) แม้จะไม่เป็น BIP อย่างเป็นทางการ แต่องค์กรเช่น Bitcoin Core, Wallet APIs ก็มีการพัฒนาฟังก์ชันที่เกี่ยวกับ seed อย่างต่อเนื่อง (เช่น Coldcard รวมฟีเจอร์ Seed Vault) เพื่อรองรับไอเดียเหล่านี้

แนวคิด multi-seed, seed vault และการเข้ารหัส/ห่อหุ้ม seed
• Multi-Seed / แบ็กอัพหลายชั้น – แนวคิดการใช้ seed หลายชุดร่วมกัน (multiseed) เพื่อความปลอดภัยสูง เช่น SLIP39 (กล่าวไปแล้ว) และ BIP85 (deterministic entropy จาก HD keychain) ที่อนุญาตให้ใช้ seed หลักชุดเดียวสร้างเมล็ดย่อยหลายชุดได้ 
• Seed Vault (Coldcard) – Coldcard ฮาร์ดแวร์วอลเล็ตเพิ่มฟีเจอร์ “Seed Vault” ในเวอร์ชัน 5.2.0 ซึ่งอนุญาตเก็บ seed วลีหลายชุดไว้ในหน่วยความจำเข้ารหัสของเครื่อง (AES-256-CTR โดยใช้กุญแจจาก seed หลักของผู้ใช้)  เมื่อเปิดใช้งาน จะแสดงเมนู “Seed Vault” ให้ผู้ใช้บันทึก seed ใหม่ๆ (เช่น temporary seed จาก TRNG, การทอยเต๋า, หรือตัวเลขจาก BIP-85) เพื่อใช้งานหรือกู้คืนได้สะดวก   ตัวอย่างเช่น Coldcard สามารถเก็บ BIP-85 derived seeds หรือ BIP39 passphrases เป็น temporary secrets ได้ 
• Seed XOR (Coinkite) – เป็นวิธีใหม่ที่เสนอโดย Coinkite ให้แยก seed หนึ่งชุดออกเป็น N ชุดที่เป็นวลี BIP-39 ปกติแต่ใช้แนวทาง XOR บิตของค่า entropy เดิม (มีแต่ใน Coldcard) โดยต้องใช้ทุกส่วนครบ (N-of-N) ถึงจะกู้คืน seed ได้   ซึ่งให้ความสามารถ plausible deniability คือแต่ละส่วนดูเหมือนกระเป๋า Bitcoin ธรรมดา (สามารถโหลดลงวอลเล็ตแล้วใส่เงิน honeypot ให้คนโจมตีหลงเชื่อ)  ตัวอย่างสูตรคือ ถ้าเราแยก seed ออกเป็น 2 ส่วน แม้แต่ส่วนเดียวจะได้วลีเหมือน seed ของตนจริงๆ แต่ต้องมีทั้งสองส่วนจึงรวมกันคืน seed เดิมได้ 
• โซลูชันเก็บหลาย seed บนอุปกรณ์ – มีโครงการฮาร์ดแวร์/ซอฟต์แวร์ที่เน้นเก็บ seed หลายชุด เช่น Satochip SeedKeeper ซึ่งเป็นสมาร์ทการ์ดที่เก็บ seed phrases หลายรายการ (มากถึง 50 รายการ) ในชิปเซอร์กิตปลอดภัย (EAL6) พร้อม PIN ป้องกัน   อีกทั้งสามารถทำสำเนาและกระจายการ์ดหลายใบเพื่อตัวสำรองด้วยเช่นกัน (เหมาะกับใช้เป็นกลไกส่งต่อ seed ให้ลูกหลาน)  
• การเข้ารหัสและแนวคิดห่อหุ้ม seed – หลายแนวคิดผสมการเข้ารหัสเข้าไป เช่น Coldcard ใช้ AES เข้ารหัสข้อมูล seed ใน Seed Vault ด้วยกุญแจจาก seed หลัก  หรือเทคนิคอื่นๆ เช่น การรวม seed กับ passphrase (คีย์เสริม) เพื่อสร้าง wallet เฉพาะ (BIP39 passphrase), การใช้ Secret Sharing (SLIP39, Codex32) ก็ถือเป็นการกระจายความลับ โดยไม่มีการใช้ wordlist ธรรมดาเพียงอย่างเดียว จากฝั่ง BIP85 ก็มีการขยายเป็น “passwords” ซึ่งเป็น seed ในฟังก์ชันอื่นๆ เพื่อเก็บข้อมูลหลากหลายรูปแบบบน wallet  

การใช้งาน Seed นอกเหนือจากการเข้าถึงกระเป๋าเงิน
• การจัดการตัวตน (Identity Management) – เนื่องจาก BIP32/39 สามารถสร้างคีย์ได้เป็นเชน จึงนำไปใช้ในระบบระบุตัวตนแบบกระจายศูนย์ (DIDs) ได้ ตัวอย่างหนึ่งคือ Microsoft ION ซึ่งเป็น Layer-2 สำหรับ Decentralized Identifier บน Bitcoin ผู้ใช้สร้าง DID ของตนเองและเซ็นธุรกรรมรายการต่างๆ ด้วยกุญแจจาก wallet ของตน (กุญแจซึ่งได้มาจาก seed)  Bitcoin จึงถูกใช้เป็น ledger ตรวจสอบลำดับของการเปลี่ยนแปลง DID (โดยไม่ต้องมีตัวกลาง) 
• สมาร์ตคอนแทรกต์และบัญชี (Smart Contract / Account Access) – บนเครือข่ายสาขาของ Bitcoin (เช่น Stacks) ไอเดียใกล้เคียงคือใช้ BIP39 seed เป็นตัวสร้างบัญชีที่เรียกว่า address บนระบบนั้น เช่น Stacks blockchain ใช้ 24-word mnemonic ในการสร้าง account (private key/address)  ผู้ใช้เพียงแบ็กอัพ seed นี้ก็สามารถกู้คืนทั้งบัญชีและสิทธิ์ในการทำธุรกรรมสมาร์ตคอนแทรกต์ต่างๆ ใน Stacks ได้  ซึ่งแสดงให้เห็นว่า seed เดิมของ Bitcoin สามารถขยายขอบเขตไปใช้ควบคุมทรัพย์สินหรือการเข้าถึงฟังก์ชันบนสัญญาอัจฉริยะได้
• การให้สิทธิ์เข้าถึงระบบต่างๆ (Access Control) – แนวคิดล่าสุด เช่น Lightning LNURL-Auth (Login with Lightning) ใช้ seed วลีของ wallet เป็นต้นทางสร้างคีย์สุ่มสำหรับล็อกอินให้ผู้ใช้เข้าสู่เว็บไซต์โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน ระบบนี้เว็บไซต์จะส่ง challenge ให้เซ็นด้วยคีย์ที่สร้างจาก seed เดิม เมื่อเซ็นถูกต้องจะระบุตัวตนได้  ทำให้ seed กระเป๋า Bitcoin สามารถนำไปเป็นกุญแจพิสูจน์ตัวตนสำหรับบริการต่างๆ ได้ ซึ่งตอบโจทย์การบริหารตัวตนออนไลน์แบบไม่ต้องพึ่งระบบล็อกอินแบบเดิมๆ 

สรุป แนวคิด “seed packaging” ในชุมชนพัฒนาบิทคอยน์จึงครอบคลุมตั้งแต่การแบ่งส่วน (multi-seed/shares), การจัดเก็บหลาย seed อย่างปลอดภัย (vault, XOR), จนถึงการใช้งาน seed ในบทบาทใหม่ เช่น ระบบระบุตัวตนหรือสมาร์ตคอนแทรกต์ โครงการและข้อเสนอต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น BIP85, Codex32, SLIP39, ฟีเจอร์ Seed Vault และ Seed XOR ใน Coldcard รวมทั้งมาตรฐานหรือการประยุกต์ใช้ใหม่ๆ เหล่านี้ได้มีการอภิปรายบน GitHub, เมลลิ่งลิสต์ หรือใน BIP/SLIP ที่กล่าวไว้ข้างต้น (ดูแหล่งอ้างอิง) ซึ่งยังอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนา เพื่อต่อยอดความปลอดภัยและการใช้งานของวลีเมมโนนิกต่อไป    

อ้างอิง: เอกสารหลักในชุมชนพัฒนา เช่น ข้อความเสนอ Penlock บน Bitcoin-Dev  , บทความอธิบาย Codex32 ใน Optech Newsletter  , บทความอธิบาย SLIP39 ในบล็อกของ Trezor , บทความประกาศฟีเจอร์ Seed Vault ของ Coldcard  , เอกสาร SeedXOR ของ Coldcard  , เอกสาร Lightning Auth , เอกสาร Stacks Account  และ Bitcoin Magazine เรื่อง ION/DID  เป็นต้น ทั้งหมดถูกสรุปและเชื่อมโยงไว้ข้างต้น.

#bitcoin #seed #packaging #chatgptstr #deepresearch #siamstr #siamdev #bip #สามัคคีชุมนุม 🔬🌱📦🌳

source : https://chatgpt.com/share/68183e85-cdb0-8004-beb6-81e605eef561

Author Public Key
npub1e9vcz6204fft6jxvyf0edd3a54t8n9znz007h94mmwlkqlqeulzqfjj93f