อำนาจผ่านเครื่องมือ (instrumentarianism) กับคนคลั่งเกม
////
"อำนาจผ่านเครื่องมือ (อย่างอัลกอริทึม)" (insrumentarianism) เป็นอำนาจชนิดใหม่ในยุคดาต้านิยม (Dataism) ที่เข้ามาแผ่อิทธิพลครอบงำสังคมทางความคิด โดยที่ "อำนาจผ่านเครื่องมือ" ที่ว่านี้ ได้กลายเป็นอำนาจที่ทรงพลังที่สุดเหนือทุกสถาบันในสังคมนี้ไปแล้ว
มิหนำซ้ำมันยังเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการครอบงำทางการเมือง ครอบงำทางการตลาด และครอบงำทางพฤติกรรมของผู้คนด้วย
- เว็บพนันออนไลน์ คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดในการกระตุ้น-ครอบงำพฤติกรรมของผู้คนจาก "โลภะ"
- การเคลื่อนไหวเชิงไอโอ (information operation) ของพรรคการเมืองบางพรรคหรือสื่อเสี้ยมต่างๆ คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดในการกระตุ้น-ครอบงำพฤติกรรมของผู้คนจาก "โทสะ"
- เกมออนไลน์ คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดในการกระตุ้น-ครอบงำพฤติกรรมของผู้คนให้หมกมุ่นด้วย "โมหะ" ... ซึ่งบางครั้งมันได้ลุกลามบานปลาย จนผู้ติดเกม กลายเป็น ผู้ก่อเหตุ ในโลกจริง
เพราะเส้นแบ่งระหว่างโลกเกมกับโลกจริงมันเลือนหายไปแล้ว เมื่อผู้ติดเกมตกอยู่ภายใต้ "ลัทธิอำนาจผ่านเครื่องมือ" จนโงหัวไม่ขึ้น เพราะตัวตนของผู้นั้นตกเป็นทาสซอมบี้ ผ่านการครอบงำจากอัลกอริทึมอย่างเต็มตัว
.........
(1) คนร้ายมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ตอนยอมมอบตัว
เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในห้างสยามพารากอน ช่วงเย็นของวันที่ 3 ต.ค.2566 ผู้มาใช้บริการแตกตื่นกรีดร้องวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอด หลังจากได้ยินเสียงปืนหลายนัดในและหน้าห้องน้ำข้างร้านสินค้าแบรนด์เนม
ตำรวจหลายนายถึงที่หมายรวบรวมข้อมูลตำหนิรูปพรรณคนร้ายใช้อาวุธปืนสั้น สวมหมวกแก็ป รองเท้าผ้าใบสีดำ เสื้อสีดำ กางเกงขายาวสีน้ำตาล หลบหนีอยู่ในห้าง
มีผู้พบเห็นครั้งสุดท้ายอยู่บริเวณชั้น 3 ของห้าง และเดินไปทางร้านขายเฟอร์นิเจอร์
ร.ต.อ.ธัญอมร หนูนารถ รอง สวป.สน.ปทุมวัน เดินถือปืนยาวอย่างระมัดระวัง เดินตามทางเดินมองหาผู้ก่อเหตุ จนกระทั่งพบร้านขายเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง กระจกด้านหน้าแตก
" ผมเห็นกระจกร้านแตก จึงเอะใจว่าคนร้ายอยู่ในร้านนี้แน่ ๆ จึงค่อย ๆ มองเข้าไปเห็นตำหนิรูปพรรณคนร้ายยืนอยู่ด้านหลัง ตอนแรกเหมือนคนร้ายหันปืนมาจะสู้แต่เขาเห็นผมถือปืนยาว เขาหยุด ผมตะโกนบอกให้มอบตัวโยนปืนทิ้ง ยกมือขึ้น เดินหันหลังค่อย ๆ เดินถอยออกมาช้า ๆ " ร.ต.อ.ธัญอมร เล่า
ขณะเดียวกัน ส.ต.ท.กร ศรีพรหม และ ส.ต.ท.นันทนัช สุธรรม ผบ.หมู่ (ป.) สน.สำราญราษฎร์ เดินมาถึงหน้าร้าน ร.ต.อ.ธัญอมร บอกตำรวจทั้งสองนาย อย่าเพิ่งเข้าให้คนร้าย เดินถอยหลังออกมาแล้วสั่งให้คุกเข่านั่งลงยกมือขึ้น
จากนั้น ร.ต.อ.ธัญอมร ใช้เท้าถีบกระจกที่แตกอยู่แล้วและใช้ปากกระบอกปืนทิ่มกระจกที่แตก เดินเข้าไปพร้อมกับ ส.ต.ท.กร โดยให้ ส.ต.ท.กร ควบคุมผู้ก่อเหตุ ร.ต.อ.ธัญอมร คอยยืนคุ้มกันระวังให้ ขณะเดียวกัน ส.ต.ท.นันทนัช เข้ามาสนับสนุน ร.ต.อ.ธัญอมร บอกให้เดินไปเคลียร์อาวุธปืนสั้นของผู้ก่อเหตุที่โยนปืนทิ้งในร้านก่อนยอมมอบตัว
"ตอนจะเข้าไปควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ผู้กองเขาบอกให้ผู้ก่อเหตุยกมือคุกเข่า พอเขาทำตามที่บอก ตอนที่เข้าไปก็ตะโกนพูดบอกเขาให้ใจเย็น ๆ พอควบคุมตัวได้ตรวจค้นพบบัตรนักเรียนและบัตรประชาชน จึงเพิ่งรู้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนอายุ 14 ปี " ส.ต.ท.กร เล่า
ขอให้ขีดเส้นใต้ พฤติกรรมของคนร้ายก่อนยอมมอบตัว
"ตอนแรกคนร้ายหันปืนมาจะสู้ แต่พอเห็นตำรวจถือปืนยาว คนร้ายอาวุธปืนสู้ไม่ได้ จึงหยุด ยอมมอบตัว โยนปืนทิ้ง ยกมือขึ้น ทำตามคำสั่งของตำรวจทุกอย่าง แสดงว่าคนร้ายมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน"
อีกหนึ่งหลักฐาน ที่ตำรวจเชื่อว่า เด็กอายุ 14 ปีวางแผนเตรียมการมาก่อเหตุที่พารากอน
โดยผู้ก่อเหตุนำอาวุธปืน กระสุน แม็กกาซีน ใส่เป้ สะพายลงมาจากรถไฟฟ้า
ก่อนเข้าไปในห้องน้ำชั้น M
เปลี่ยนชุด สวมหมวก สวมถุงมือ ใส่หน้ากากอนามัย ปิดบังใบหน้า
หยิบปืนออกมาจากเป้ แล้วทิ้งเป้ เสื้อผ้าไว้ในห้องน้ำ
จากนั้น เดินออกจากห้องน้ำแล้วลงมือ ไล่ยิงตั้งแต่ชั้น M ไปยังชั้นอื่นๆ
......
(2) สองสาวน้อยกำพร้าแม่
เรื่องน่าเศร้าสำหรับชายไทยคนหนึ่งที่ "หนีตายที่พารากอน" เมื่อวานคือ เขาได้เจอสองสาวน้อยฝาแฝดนักท่องเที่ยวชาวจีนวัยประมาณหกขวบมาขอความช่วยเหลือเพราะแม่ของสองฝาแฝดโดนยิง แล้วพวกเขาหาแม่ไม่เจอ
หนุ่มไทยผู้มีน้ำใจคนนั้นได้พยายามช่วยทุกวิถีทางจนแบตมือถือเหลือแค่ 1%
"พี่คะ คุณแม่หนูจะตายมั้ยคะ" เด็กฝาแฝดถามเขาซื่อๆ
"แม่หนูแค่บาดเจ็บเท่านั้น พี่ว่าเดี๋ยวคงได้เจอกัน หนูรอหน่อยนะ" ชายหนุ่มปลอบเด็กฝาแฝด
สักพักชายหนุ่มได้เจอตำรวจ จึงได้ทราบความจริงว่าแม่ของเด็กฝาแฝดเสียชีวิตแล้ว ชายหนุ่มถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่รู้สึกสงสารน้องฝาแฝดสองคนนี้จับใจที่อยู่ดีๆคุณแม่ต้องมาเสียชีวิตในต่างแดนทั้งที่อุตส่าห์มาเที่ยวแท้ๆ
......
(3) Timeline ของผู้ล่า
ผู้ก่อเหตุหลงไหลการเป็น "นักล่า" ใช้นามแฝงว่า hunterz
มีข้อความสนทนาก่อนเกิดเหตุสลดของผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิงในห้างสยามพารากอน โดยผู้ก่อเหตุใช้นามแฝงว่า "hunterz" เข้าไปทักหาเพื่อนสมาชิกในกลุ่มโดยสอบถามว่า "You guys know Siam paragon" ตอน 15.25 น. และเพื่อนบางคนตอบกลับ ก่อนที่จะเกิดเหตุสลดทำให้มีผู้เสียชีวิต
เปิด Timeline ของมือปืนคนก่อเหตุ
15.35 น. เดินทางเข้าห้างสยามพารากอน ทาง bts link2
15.40 น. เดินบริเวณชั้น M สะพายกระเป๋าเป้เข้ามา
15.42 น. เดินเข้าห้องน้ำ ชั้น M ข้างร้านหลุยส์ (จุดเริ่มเกิดเหตุ)
16.10 น. เริ่มยิงในห้องน้ำ หน้าห้องน้ำ
16.11 น. เริ่มเดินกราดยิงบริเวณชั้น M
16.25 น. กราดยิงบริเวณชั้น 2
16.28 น. เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 3 กราดยิงต่อ
17.10 น. ถูกตำรวจควบคุมตัวบริเวณชั้น 3 ภายในร้านแห่งหนึ่ง
ข้างต้นคือ ช่วงเวลาหฤหรรษ์หนึ่งชั่วโมงเต็มสำหรับคนก่อเหตุ ที่ได้เล่ม "เกมนักล่า 3 มิติ" อย่างสะใจและสมจริงสุดๆ
.....
(4) The Dark Triad
ในทางจิตวิทยา The Dark Triad หมายถึงบุคลิกลักษณะนิสัย 3 อย่างที่ทำให้ผู้นั้นมักทำร้ายคนอื่น และสนใจแต่ประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่สนใจใครหรืออะไรทั้งสิ้น
บุคลิกลักษณะนิสัยอย่างที่หนึ่งคือ "แมกคิเวลเลียน" (Machivellianism) คือมีนิสัยชอบหลอกใช้คนอื่น เพื่อทำให้ตนเองมีอำนาจ
บุคลิกลักษณะนิสัยอย่างที่สองคือ "นาร์ซิสซิส" (Narcissism) คือมีนิสัยหลงตนเอง สนใจแต่ตนเองและชื่นชมตนเองมากเกินไป
บุคลิกลัษณะนิสัยอย่างที่สามคือ "ไซโคพาธี" (psychopathy) คือนิสัยหุนหันพลันแล่น และขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
หากใครก็ตามมีลักษณะนิสัย 3 แบบนี้ร่วมกันมากๆ จะทำให้คนผู้นั้นกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว ไม่รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา และขาดสำนักผิดชอบชั่วดี
ว่ากันว่าในคน 100 คนจะมีผู้มีอาการผิดปกติทางจิตอยู่ 1 คนหรือ 1% แต่ไม่ใช่ว่าคนที่มีความผิดปกติทางจิตทุกคนจะชอบใช้ความรุนแรง หรือเป็นอาชญากรเสมอไป ... ต้องเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยแบบที่สามหรือ "ไซโคพาธี" อยู่ก่อนถึงจะก่อความรุนแรงได้