DJ Tar on Nostr: แม่ค้าส้มตำในเมืองใหญ่~ Lucky Sperm Club ...
แม่ค้าส้มตำในเมืองใหญ่~
Lucky Sperm Club
- เจ๊บี ลูกแม่ค้าขายส้มตำที่เกิดในครอบครัวชนบทห่างไกลถิ่นทุรกันดารมีชื่อว่าหมู่บ้านห้วยไคร้ แม่ของเธอค้าขายส้มตำมาเป็นเวลานานโข ทุกคนในแถบนั้นจะรู้จักกันในนาม "ส้มตำป้าน้อย"
ระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.1 - ม.6 เจ๊บีก็เริ่มเริ่มรู้วิชาการตำส้มตำรสเด็ดจากแม่ของเธอ และแม่ของเธอก็พยายามคายตะขาบวิชาชีพแม่ค้าส้มตำให้เธอ
Finding Nemo
- ออกตามหาอนาคตสู่เชียงใหม่ ในตอนเป็นสาวน้อยนั้น เธอยังมองไม่เห็นคุณค่า proof of work ที่แม่เธอพยายามส่งต่อมาให้ การเป็นแม่ค้าส้มตำจึงไม่อยู่ในสายตาของเธอ
เธอจึงมุ่งหน้าหาอนาคตที่ดีกว่า และเป้าหมายก็คือ Nurse aid หลักสูตร 6 เดือน ค่าเทอม 20000 ที่สถาบันแห่งหนึ่ง ณ เชียงใหม่
หลังจากที่เธอเรียนจบ NA เธอก็ได้มุ่งหน้าเข้า กทม โดยปักหมุดหมายมาที่โรงพยาบาลชื่อดังแห่งนึงโดยยืมเงินญาติมาตั้งตัวมูลค่า 10,000 บาท
เมื่อเธอมาเริ่มต้นชีวิตที่โรงพยาบาลศัลยกรรมระดับพนะกาฬแห่งนี้ นี่คือชีวิตใหม่ของเธอเป็นชีวิตที่เธอโปรดปรานและปราถนา เธอทำงานอย่างขยันขันแข็งในสถานศัลยกรรมอันดับ 1 ของประเทศด้วยเงินเดือน 8500 บาท
ใช่ครับ! พวกมึงฟังกันไม่ผิดหรอก 8500 บาท ยังไม่หัก ปกส ส่งให้ที่บ้านเดือนละ 3000 กินข้าวกล่องละ 10 บาท วันนึงซื้อ 2 กล่อง หอพักเดือนละพันกว่าๆ
เธอหารายได้พิเศษโดยการรับจ้างแทนเวรคนอื่นตามวอร์ดต่างๆจะรู้จักเธอทุกคน เพราะทุกเทศกาลเธอจะไม่กลับบ้าน พนักงานยันฮีคนที่อยากกลับบ้านไปเที่ยววันหยุดสามารถเรียกใช้เธอได้เลย
Cape of good hope
- หลังจากนั้นไม่นานเธอเริ่มตระหนักได้ว่า เอ๊ะ! กูขยันขนาดนี้แต่เงินกูน้อยไปมั้ยนะ? เธอเลยตัดสินใจไปเรียนต่อเพื่ออัพเงินเดือน และแล้วเธอก็ปักหมุดไปที่
Practical Nurse มหาวิทยาลัยแห่งนึง ค่าเทอม 60000 เรียนหลักสูตรเสาร์อาทิตย์ เจ๊บีทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยควบคู่กัน
เธอกดบัตรกรุงศรี VISA เพื่อมาเรียน PN (เกิดหนี้แล้ว 1 ดอก) ไม่นานเธอก็จบมาแล้วก็เอาวุฒิมาเคลมที่โรงพยาบาลเพื่ออัพเงินเดือนตามที่เธอคาดหวัง
และใช่ครับ โรงพยาบาลห่านี่ไม่เพิ่มเงินให้!!!!!
New life
- เธอตัดสินใจออกจากโรงพยาบาลแห่งนั้นมาทำงานคลินิกเสริมความงาม เงินเดือน 18000 จึงทำให้เธอลืมตาอ้าปากได้บ้าง (เยอะเลยแหละ)
เธอเป็นคนที่สนใจในวัฒนธรรมเกาหลีเพราะชอบศิลปิน Astro กับ Kim Yugyeom วง Got 7
นี่จึงเป็นแรงขับเคลื่อนให้เธอเริ่มฝึกษาเกาหลีด้วยตนเองจนอ่านออกเขียนคล่อง แถมเข้าใจหลายๆวัฒนธรรมของสังคมเกาหลี ได้เป็นอย่างดี
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอก็มีอรรถรสในการรับชมซีรี่ย์เกาหลีมากขึ้นไปอีก เธออินแบบสุดๆ นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาจริงๆ
Culture Shock
- เรื่องตลกก็คือเธอโดนโกงเงินเป็นมูลค่า 550,000 โดยหัวหน้าของเธอเอง ณ คลินิกเสริมความงามที่เธอทำงานอยู่ เธอเสียรู้เนื่องจากติดกับดักของคำว่า "เงินต้องงอกเงิย"
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะผัวของหัวหน้าเธอก็เป็นตำรวจเช่นกัน เธอก็เลยตัดใจปล่อยเลยตามเลย นับว่าเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่สำหรับเธอ แต่ก็ต้องตัดใจ Move on
นี่อาจจะเป็น Part ที่ส้นตีนที่สุดในชีวิตของเธอ
The new rich
- ผมได้ Coach พื้นฐานความรู้ทางด้านการเงินให้เธอเสียใหม่ เธอก็แข็งแกร่งจนสามารถก้าวข้ามเหตุการณ์อันเลวร้ายได้ และบัดนี้เธอสามารถยืนด้วยขาของตัวเองได้
แถมมีทรัพย์สิน Back Up อยู่ครึ่งล้าน ก็ถือว่าเป็น Move ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
- ผมสอนให้เธอเรียนรู้การทำเบียร์พื้นฐาน จากนั้นเธอก็ได้ลองผิดลองถูกกับเบียร์มาหลายตัว แต่ก็ Fail ทั้งหมด ไม่ว่าจะเบียร์ลองกอง เบียร์เผือก เบียร์มะพร้าว เบียร์แตงโม
- ติดปีกให้เธอไปอีกโดยการที่เธอเรียนรู้การทำน้ำขาวจากคนเฒ่าคนแก่แถวบ้าน ด้วยความที่เธอติดวัฒนธรรมเกาหลี จากนั้นก็ศึกษาการทำ มักกอลลี เครื่องดื่ม
ต้นตำหรับจากเกาหลีได้สำเร็จ แต่ที่พิเศษกว่านั้นก็คือ เธอใช้ ข้าวเหนียวเขี้ยวงูของไทย!!! มา Adapt ใช้งานกับเครื่องดื่มของเธอ แบรนด์ว่า "ห้วยไคร้ซิตี้"
เป็นชื่อบ้านเกิดของเธอนั่นเอง เท่านั้นยังไม่พอล่าสุดนี้เธอได้ติดปีกให้กับตัวเองโดยการนำข้าวเหนียวสายพันธุ์พื้นเมือง คือ "ข้าวก่ำ" เป็นข้าวที่มีสีแดง
มาทำมักกอลลี จึงทำให้ได้มักกอลลีที่มีสีแดงเข้ม นับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดา นี่คือการ Break Through ทางด้านเครื่องดื่มร่วมสมัยอย่างแท้จริง
ในงานช่างชุ่ย 26 ตุลานี้ คุณจะได้พบกับเบียร์ตัวเด่นตัวดังของ Bumble Bee
1.Banana Stout
2.Hazelnut Stout
3.Coconut Sout
4.มักกอลลีข้าวเหนียวเขี้ยวงู
5.มักกอลลีข้าวก่ำ
และที่พิเศษสุดๆในงานนี้ก็คือ เจ๊บี ได้เปิด Station ส้มตำ ที่ส่งต่อสูตรมาจาก Proof Of Work มากกว่า 30 ปี จากแม่ของเธอ
โดยความพิเศษของส้มตำเธอนั้นจะใช้ปลาร้าปลากระดี่ผสม และไม่หวงมะนาว จนทำให้ส้มตำของเธอมีรสชาติเปรี้ยวนำเค็มตามหลบหวานไปไกลๆ
เผ็ดแซ่บซี๊ดชนิดที่ว่าเด็ดดวง เนื่องจากเธอจะใช้การผสมพริก 2 ชนิด
1.พริกสด ที่ให้กลิ่นฉุนและให้ความเผ็ดแบบแสบๆ
2.พริกแห้ง ที่ให้ความเผ็ดร้อนแบบ Spice
เรียกได้ว่าเด็ดกว่าทุกร้านที่คุณเคยกินมา หากคุณได้กินส้มตำเจ๊บี คุณจะลืมทุกร้านที่คุณคยกินมาใน กทม. ผมกล้าการันตีให้คุณเลย
ถ้าไม่เป็นไปอย่างที่ผมว่าคุณสามารถเอาตีนมาถีบหน้าผมได้เลย
#ช่างชุ่ย
#อาศรมดีเจต้า
#เหล้าเรื่องผี
#siamstr