TATUN on Nostr: ...
ทำไมรสหวานและรสเค็มถึงกระตุ้นความอยากอาหาร?
.
หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์ที่เมื่อกินของหวาน เช่น น้ำหวาน หรือ ของเค็ม เช่น ขนมขบเคี้ยว รู้สึกเหมือนถูกกระตุ้น รู้สึกเหมือนมีใครมาควบคุมมือของเรา รู้สึกปากของเราต้องเคี้ยวตลอดเวลา ความรู้สึกที่อยากจะกินต่อไปเรื่อยๆ ซองแล้วซองเล่า ขวดแล้วขวดเล่า ยากที่จะหยุดได้ นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลจากกระบวนการทางชีวภาพและสมองที่ตอบสนองต่อรสชาติเหล่านี้โดยตรง รสหวานและรสเค็มมีอิทธิพลอย่างมากต่อพฤติกรรมการบริโภคของมนุษย์
.
.
รสหวาน : แหล่งพลังงาน (พลังงานระยะสั้น)
.
รสหวานเกี่ยวข้องกับน้ำตาล ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย เมื่อเรากินของหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและมีพลังงาน ส่งผลให้สมองหลั่งสารโดปามีน (Dopamine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับความสุขและความอยาก
.
“วงจรติดน้ำตาล” (Sugar Addiction) มีอยู่จริง การบริโภคน้ำตาลสูงเป็นเวลานาน ทำให้ร่างกายต้องการน้ำตาลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลต่อความเสี่ยงของโรคอ้วน เบาหวาน และโรคหัวใจ
.
ขยายความ *วงจรติดน้ำตาล คือการที่สมองหลั่งโดปามีนเมื่อกินน้ำตาล ทำให้เรารู้สึกดีและอยากกินน้ำตาลมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดการติดน้ำตาล
.
.
รสเค็ม: ตัวกระตุ้นให้กินต่อเนื่อง
.
โซเดียมหรือเกลือเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายในการควบคุมความดันโลหิตและสมดุลของของเหลว แต่การบริโภคโซเดียมหรือเกลือมากเกินไป สามารถทำให้สมองปรับตัวและต้องการความเค็มเพิ่มขึ้นเพื่อให้รู้สึกพึงพอใจ
.
อาหารแปรรูป เช่น ขนมขบเคี้ยว, ฟาสต์ฟู้ด มีการออกแบบให้มีปริมาณเกลือที่พอดีกับการกระตุ้นความพึงพอใจในสมอง ทำให้ยิ่งกินยิ่งอยาก เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ
.
.
แล้วรสชาติอื่นๆล่ะ?
.
นอกจากรสหวานและรสเค็มแล้ว ยังมีรสชาติอื่นๆที่สามารถกระตุ้นให้เรารู้สึกอยากอาหารมากขึ้น เช่น ...
.
รสเผ็ด : การบริโภคอาหารรสเผ็ดสามารถกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งทำให้รู้สึกดีและต้องการกินต่อไป การกินเผ็ดบ่อยๆ อาจเพิ่มความอยากอาหารในระยะยาว
.
รสเปรี้ยว : รสเปรี้ยวสามารถกระตุ้นความอยากอาหารได้ โดยเฉพาะในเวลาที่ร่างกายต้องการความสดชื่น รสเปรี้ยวมีบทบาทในการกระตุ้นน้ำลายและระบบย่อยอาหาร
.
.
ลองเรียงลำดับจากความอยาก มากไปน้อย
.
1. รสหวาน : กระตุ้นโดปามีนและทำให้เกิดวงจรติดน้ำตาล
2. รสเค็ม : ทำให้เกิดความเคยชินและต้องการปริมาณเพิ่มขึ้น
3. รสเผ็ด : กระตุ้นสารเอ็นดอร์ฟิน ทำให้รู้สึกดี
4. รสเปรี้ยว : ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารแต่ไม่รุนแรงเท่ารสอื่น
.
.
รสหวานและรสเค็มมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการบริโภคของมนุษย์ ทำให้เกิดความอยากอาหารและเสี่ยงต่อภาวะสุขภาพหากบริโภคมากเกินไป การควบคุมปริมาณอาหารเหล่านี้อย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาสุขภาพในระยะยาว
.
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับรสชาติที่กระตุ้นความอยากจะช่วยให้เราควบคุมการบริโภคได้ดีขึ้น และสามารถเลือกอาหารที่เหมาะสมกับสุขภาพของตนเองได้
.
.
สวัสดี GM #Siamstr #Nostr
สุขภาพร่างกายของเรา เราต้องดูแลเอง
เพราะร่างกายของแต่ละคนนั้น แตกต่างกัน
Be Your Onw Doctor
Don't trust, must Verify .
Published at
2025-04-01 00:31:43Event JSON
{
"id": "32537af421b44e8e2b4c94263163b351d01961d8868a26e8043fbe94e8d5b454",
"pubkey": "88221570a20597582deda6a5d59a6834330345247e19947004f5de1382fdb654",
"created_at": 1743467503,
"kind": 1,
"tags": [
[
"t",
"Siamstr"
],
[
"t",
"Nostr"
]
],
"content": "ทำไมรสหวานและรสเค็มถึงกระตุ้นความอยากอาหาร?\n.\nหลายคนอาจเคยมีประสบการณ์ที่เมื่อกินของหวาน เช่น น้ำหวาน หรือ ของเค็ม เช่น ขนมขบเคี้ยว รู้สึกเหมือนถูกกระตุ้น รู้สึกเหมือนมีใครมาควบคุมมือของเรา รู้สึกปากของเราต้องเคี้ยวตลอดเวลา ความรู้สึกที่อยากจะกินต่อไปเรื่อยๆ ซองแล้วซองเล่า ขวดแล้วขวดเล่า ยากที่จะหยุดได้ นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลจากกระบวนการทางชีวภาพและสมองที่ตอบสนองต่อรสชาติเหล่านี้โดยตรง รสหวานและรสเค็มมีอิทธิพลอย่างมากต่อพฤติกรรมการบริโภคของมนุษย์\n.\n.\nรสหวาน : แหล่งพลังงาน (พลังงานระยะสั้น)\n.\nรสหวานเกี่ยวข้องกับน้ำตาล ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย เมื่อเรากินของหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและมีพลังงาน ส่งผลให้สมองหลั่งสารโดปามีน (Dopamine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับความสุขและความอยาก\n.\n“วงจรติดน้ำตาล” (Sugar Addiction) มีอยู่จริง การบริโภคน้ำตาลสูงเป็นเวลานาน ทำให้ร่างกายต้องการน้ำตาลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลต่อความเสี่ยงของโรคอ้วน เบาหวาน และโรคหัวใจ\n.\nขยายความ *วงจรติดน้ำตาล คือการที่สมองหลั่งโดปามีนเมื่อกินน้ำตาล ทำให้เรารู้สึกดีและอยากกินน้ำตาลมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดการติดน้ำตาล\n.\n.\nรสเค็ม: ตัวกระตุ้นให้กินต่อเนื่อง\n.\nโซเดียมหรือเกลือเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายในการควบคุมความดันโลหิตและสมดุลของของเหลว แต่การบริโภคโซเดียมหรือเกลือมากเกินไป สามารถทำให้สมองปรับตัวและต้องการความเค็มเพิ่มขึ้นเพื่อให้รู้สึกพึงพอใจ\n.\nอาหารแปรรูป เช่น ขนมขบเคี้ยว, ฟาสต์ฟู้ด มีการออกแบบให้มีปริมาณเกลือที่พอดีกับการกระตุ้นความพึงพอใจในสมอง ทำให้ยิ่งกินยิ่งอยาก เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ\n.\n.\nแล้วรสชาติอื่นๆล่ะ?\n.\nนอกจากรสหวานและรสเค็มแล้ว ยังมีรสชาติอื่นๆที่สามารถกระตุ้นให้เรารู้สึกอยากอาหารมากขึ้น เช่น ...\n.\nรสเผ็ด : การบริโภคอาหารรสเผ็ดสามารถกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งทำให้รู้สึกดีและต้องการกินต่อไป การกินเผ็ดบ่อยๆ อาจเพิ่มความอยากอาหารในระยะยาว\n.\nรสเปรี้ยว : รสเปรี้ยวสามารถกระตุ้นความอยากอาหารได้ โดยเฉพาะในเวลาที่ร่างกายต้องการความสดชื่น รสเปรี้ยวมีบทบาทในการกระตุ้นน้ำลายและระบบย่อยอาหาร\n.\n.\nลองเรียงลำดับจากความอยาก มากไปน้อย\n.\n1. รสหวาน : กระตุ้นโดปามีนและทำให้เกิดวงจรติดน้ำตาล\n2. รสเค็ม : ทำให้เกิดความเคยชินและต้องการปริมาณเพิ่มขึ้น\n3. รสเผ็ด : กระตุ้นสารเอ็นดอร์ฟิน ทำให้รู้สึกดี\n4. รสเปรี้ยว : ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารแต่ไม่รุนแรงเท่ารสอื่น\n.\n.\nรสหวานและรสเค็มมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการบริโภคของมนุษย์ ทำให้เกิดความอยากอาหารและเสี่ยงต่อภาวะสุขภาพหากบริโภคมากเกินไป การควบคุมปริมาณอาหารเหล่านี้อย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาสุขภาพในระยะยาว\n.\nการทำความเข้าใจเกี่ยวกับรสชาติที่กระตุ้นความอยากจะช่วยให้เราควบคุมการบริโภคได้ดีขึ้น และสามารถเลือกอาหารที่เหมาะสมกับสุขภาพของตนเองได้\n.\n.\nสวัสดี GM #Siamstr #Nostr \nสุขภาพร่างกายของเรา เราต้องดูแลเอง\nเพราะร่างกายของแต่ละคนนั้น แตกต่างกัน\nBe Your Onw Doctor\nDon't trust, must Verify .",
"sig": "28a9530781aecf4a2fbe5ad528375e6e3465684cff8fa6dcca1eb4badd6a3c1e6300d2c883ad5d8cd23047475b67e1634a3463b2410deff5fd0f20772a0f25cc"
}