LearnBN on Nostr: OP_CHECKTEMPLATEVERIFY (CTV) OP_CHECKTEMPLATEVERIFY (CTV) ...
OP_CHECKTEMPLATEVERIFY (CTV)
OP_CHECKTEMPLATEVERIFY (CTV) เป็นโอปโค้ดใหม่ที่ถูกเสนอขึ้น โดยรับค่าแฮชของข้อผูกมัดเป็นพารามิเตอร์ และกำหนดให้ธุรกรรมใด ๆ ที่ดำเนินการด้วยโอปโค้ดนี้ต้องมีชุดของเอาต์พุตที่ตรงกับข้อผูกมัดนั้น ด้วยสิ่งนี้เอง ทำให้สามารถสร้างที่อยู่ที่ระบุวิธีการใช้จ่ายเงินใด ๆ ที่ได้รับไปยังที่อยู่นั้นได้ ซึ่งเป็นการออกแบบที่รู้จักใน Bitcoin ว่าเป็นพันธสัญญา (covenant)
เดิมทีนำเสนอภายใต้ชื่อ OP_CHECKOUTPUTSHASHVERIFY (COSHV) ซึ่งข้อเสนอนี้มุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการสร้างธุรกรรมโดยใช้ congestion control (คล้าย ๆ กันกับที่ใช้คุมการไหลของ data packets ใน TCP ) ซึ่งผู้ใช้จ่ายเงินไปยังที่อยู่เดียวโดยใช้ CTV ซึ่งเมื่อได้รับการยืนยันในระดับที่เหมาะสมแล้ว จะทำให้ผู้รับหลายรายมั่นใจได้ว่าพวกเขาแต่ละคนจะได้รับเงิน กระบวนการสองขั้นตอนนี้น่าจะสามารถใช้ได้ทุกที่ ที่มีตัวเลือกการรวมการชำระเงิน (payment batching) โดยมีแนวโน้มว่าจะสามารถช่วยลดค่าธรรมเนียมได้มากกว่าการรวมการชำระเงิน
ข้อเสนอในเวอร์ชันต่อ ๆ มา มีการให้ความสำคัญกับสัญญาและพันธสัญญาอื่น ๆ ที่สามารถสร้างได้โดยใช้โอปโค้ดใหม่ เช่น ความสามารถในการสร้าง กระเป๋าสตางค์ (vaults) และธุรกรรม CoinJoin ในรูปแบบใหม่ที่อาจช่วยลดความซับซ้อนในการสร้างหรือลดค่าธรรมเนียมลงได้ นอกจากนี้ผู้เขียนท่านอื่น ๆ ได้กล่าวถึงว่าโอปโค้ดใหม่อาจใช้เพื่อให้ผู้ใช้สามารถรวมเงินทุนของตนเข้าด้วยกันใน UTXO เดียวได้อย่างน่าเชื่อถือและความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
การทำงานของ OP_CHECKTEMPLATEVERIFY
OP_CHECKTEMPLATEVERIFY ใช้โอปโค้ด OP_NOP4 (0xb3) เป็นการอัปเกรดซอฟต์ฟอร์ก
OP_CHECKTEMPLATEVERIFY ทำงานดังนี้:
- ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งองค์ประกอบบนสแต็ก ไม่งั้นจะไม่สามารถทำงานได้
- องค์ประกอบบนสแต็กต้องมีความยาว 32 ไบต์ หากไม่ใช่จะทำเป็น NOP (No Operation)
- DefaultCheckTemplateVerifyHash ของธุรกรรม ณ ดัชนีอินพุตปัจจุบันต้องเท่ากับองค์ประกอบบนสแต็ก หากไม่เท่ากันจะล้มเหลว
- DefaultCheckTemplateVerifyHash ผูกมัดกับ: เวอร์ชัน,ล็อกไทม์, แฮชของ ScriptSigs (ถ้ามี ScriptSigs ที่ไม่ใช่ค่า Null), จำนวนอินพุต, แฮชของลำดับ, จำนวนเอาต์พุต, แฮชของเอาต์พุต, ดัชนีอินพุตที่กำลังดำเนินการอยู่
กฎมาตรฐานที่แนะนำเพิ่มเติม:
ปฏิเสธข้อมูลที่ไม่ใช่ 32 ไบต์ เป็น SCRIPT_ERR_DISCOURAGE_UPGRADABLE_NOPS
detail มากกว่านี้:
https://github.com/bitcoin/bips/blob/master/bip-0119.mediawikiPublished at
2024-08-21 09:35:03Event JSON
{
"id": "0000076bdcab0ec5ed0ff30f9bd847d304f685960afc9cd44daea6714405c6f9",
"pubkey": "79008e781adec767cc8e239b533edcb19ea2e260f9281a9125e93425dfac9395",
"created_at": 1724232903,
"kind": 1,
"tags": [
[
"nonce",
"506534",
"21"
]
],
"content": "OP_CHECKTEMPLATEVERIFY (CTV) \n\nOP_CHECKTEMPLATEVERIFY (CTV) เป็นโอปโค้ดใหม่ที่ถูกเสนอขึ้น โดยรับค่าแฮชของข้อผูกมัดเป็นพารามิเตอร์ และกำหนดให้ธุรกรรมใด ๆ ที่ดำเนินการด้วยโอปโค้ดนี้ต้องมีชุดของเอาต์พุตที่ตรงกับข้อผูกมัดนั้น ด้วยสิ่งนี้เอง ทำให้สามารถสร้างที่อยู่ที่ระบุวิธีการใช้จ่ายเงินใด ๆ ที่ได้รับไปยังที่อยู่นั้นได้ ซึ่งเป็นการออกแบบที่รู้จักใน Bitcoin ว่าเป็นพันธสัญญา (covenant)\n\nเดิมทีนำเสนอภายใต้ชื่อ OP_CHECKOUTPUTSHASHVERIFY (COSHV) ซึ่งข้อเสนอนี้มุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการสร้างธุรกรรมโดยใช้ congestion control (คล้าย ๆ กันกับที่ใช้คุมการไหลของ data packets ใน TCP ) ซึ่งผู้ใช้จ่ายเงินไปยังที่อยู่เดียวโดยใช้ CTV ซึ่งเมื่อได้รับการยืนยันในระดับที่เหมาะสมแล้ว จะทำให้ผู้รับหลายรายมั่นใจได้ว่าพวกเขาแต่ละคนจะได้รับเงิน กระบวนการสองขั้นตอนนี้น่าจะสามารถใช้ได้ทุกที่ ที่มีตัวเลือกการรวมการชำระเงิน (payment batching) โดยมีแนวโน้มว่าจะสามารถช่วยลดค่าธรรมเนียมได้มากกว่าการรวมการชำระเงิน\n\nข้อเสนอในเวอร์ชันต่อ ๆ มา มีการให้ความสำคัญกับสัญญาและพันธสัญญาอื่น ๆ ที่สามารถสร้างได้โดยใช้โอปโค้ดใหม่ เช่น ความสามารถในการสร้าง กระเป๋าสตางค์ (vaults) และธุรกรรม CoinJoin ในรูปแบบใหม่ที่อาจช่วยลดความซับซ้อนในการสร้างหรือลดค่าธรรมเนียมลงได้ นอกจากนี้ผู้เขียนท่านอื่น ๆ ได้กล่าวถึงว่าโอปโค้ดใหม่อาจใช้เพื่อให้ผู้ใช้สามารถรวมเงินทุนของตนเข้าด้วยกันใน UTXO เดียวได้อย่างน่าเชื่อถือและความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น\n\nการทำงานของ OP_CHECKTEMPLATEVERIFY\n\nOP_CHECKTEMPLATEVERIFY ใช้โอปโค้ด OP_NOP4 (0xb3) เป็นการอัปเกรดซอฟต์ฟอร์ก\nOP_CHECKTEMPLATEVERIFY ทำงานดังนี้:\n - ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งองค์ประกอบบนสแต็ก ไม่งั้นจะไม่สามารถทำงานได้\n - องค์ประกอบบนสแต็กต้องมีความยาว 32 ไบต์ หากไม่ใช่จะทำเป็น NOP (No Operation)\n - DefaultCheckTemplateVerifyHash ของธุรกรรม ณ ดัชนีอินพุตปัจจุบันต้องเท่ากับองค์ประกอบบนสแต็ก หากไม่เท่ากันจะล้มเหลว\n - DefaultCheckTemplateVerifyHash ผูกมัดกับ: เวอร์ชัน,ล็อกไทม์, แฮชของ ScriptSigs (ถ้ามี ScriptSigs ที่ไม่ใช่ค่า Null), จำนวนอินพุต, แฮชของลำดับ, จำนวนเอาต์พุต, แฮชของเอาต์พุต, ดัชนีอินพุตที่กำลังดำเนินการอยู่\n\nกฎมาตรฐานที่แนะนำเพิ่มเติม:\nปฏิเสธข้อมูลที่ไม่ใช่ 32 ไบต์ เป็น SCRIPT_ERR_DISCOURAGE_UPGRADABLE_NOPS\n\ndetail มากกว่านี้: https://github.com/bitcoin/bips/blob/master/bip-0119.mediawiki\n",
"sig": "4697a95c21faf1d065554e2ccf5c06a1fd2bb7c498fc6ceac21a4f719bf757b932d24b2d6c7ce9bc8c324b6b1824666ca17e7323fbb721a42f665ecfbee95884"
}