MissPoriuz on Nostr: #PsychologyOfMoney #BookJourney 16.11.2024 ...
#PsychologyOfMoney
#BookJourney
16.11.2024
ช่วงนี้อ่านหนังสือเล่มนี้อยู่ ไอ้เราไม่เคยเข้าใจเทคนิคและการอธิบายกราฟทางการเงินหรอก แต่เข้าใจคำว่าจิตวิทยา
อ่านวันนี้ชอบบทที่ตั้งชื่อว่า “อิสรภาพ” มากๆ มันคือความสามารถในการควบคุมเวลาว่าเราอยากทำอะไรไม่อยากทำอะไร จะได้มีเวลาตัดสินใจอย่างเต็มที่ เช่น ถ้าเราควบคุมเวลาเราได้ เรามีเงินเก็บฉุกเฉิน เวลาเราไปทำงานที่ทำงาน เราจะไม่ต้องกังวลว่าหากทำไม่ถูกใจนายจ้าง แล้วเราต้องลาออก/ตกงาน เราจะเอาอะไรกินหลังจากนั้น มันมาควบคู่กับการคิดวางแผนในวันที่เราจะล้มเหลวหรือตกต่ำลงอย่างสุดขีด เป็นการมองอะไรๆ ในระยะยาว
นอกจากนี้ จากการอ่านวันนี้ มีอีกจุดที่น่าสนใจคือ การที่บริษัทไหนจะมีมูลค่าในระยะยาว ส่วนขับเคลื่อนองค์กรในช่วงปกติธรรมดา ยังสามารถทำงานที่ปกติได้ในเวลาที่ทุกคนกำลังบ้าคลั่ง (เรื่องการลงทุน) หรือก็คือมนุษย์ทำงาน พนักงานในองค์กรมีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะทำให้เกิดการทำงานในระยะยาว เนื่องจากระยะเวลาที่นานพอกับการสร้างมูลค่าแบบนี้ คือการทำให้เงินมันงอกเงยได้ ในฐานะที่ฉันเองก็ทำการตลาดให้แบรนด์ในช่วงเกิดใหม่ การปั้นแบรนด์ใหม่เสียเวลาเป็นอย่างมาก หลายทีต้องเสียเงินในการลงทุนสิ่งใหม่อีกหลายอย่าง กว่าคนจะรับรู้แบรนด์ ฯลฯ การเฟ้นหาตัวหุ้นส่วนก่อตั้งที่มีอะไรมาบ้าง เลยช่วยประหยัดต้นทุนเวลาเหล่านั้นได้ เพราะเหมือนไม่ได้เริ่มต้นจาก 0 หรือติดลบขนาดนั้น
ไม่ว่าอย่างไรก็ดี ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เน้นย้ำถึงความสามารถในการใจเย็นที่จะอดทนรอคอยในระยะยาว ในระหว่างที่หลายคนเองรอไม่ได้
ฉันเองก็เคยตั้งคำถามนะ การซื้อในกองทุนหรือสกุลเงินที่คนนั้นเขาว่าดี คนนี้เขาว่าแจ่ม แต่ไม่เคยมานั่งถามใจตัวเองว่า ทำไมเราจะต้องแลกมันมา หากเราไม่ได้ใช้ มันจะมีความจำเป็นอะไรขนาดนั้น เมื่อเร็วๆ นี้เหมือนเกิดการตกผลึกบางอย่าง ซึ่งหนังสือเล่มนี้ก็ได้เขียนถึงความสามารถในการตระหนักรู้ในตนเอง (Intrapersonal Intelligence) แม้ไม่ใช่ศัพท์คำนี้ แต่ฉันเข้าใจว่ามันคือสิ่งนี้การเข้าใจว่าตัวเองต้องการอะไร มีเป้าหมายอะไร และปรับเงินให้เข้าหาสิ่งนั้น
เช่น ถ้าคุณชอบญี่ปุ่นมาก อยากไปตามรอยซีรีส์เรื่องที่ชอบ คุณแค่แลกเงินเยน เพื่อไปเที่ยว เอาประสบการณ์ และเรียนรู้
ถ้าคุณชอบมากอีกระดับ อาจมองในเรื่องการไปทำงานที่นั่นด้วย แน่นอนว่าจำเป็นต้องแลกเงินสกุลนี้มากขึ้น เพราะค่าใช้จ่ายจะแพงกว่าตอนไปเที่ยว
ฉันยกตัวอย่างที่มันเรียบง่ายมากๆ เลย แถมไอ้เจ้าความต้องการ/เป้าหมาย เนี่ย เราสามารถปรับได้เรื่อยๆ รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน รายปี ราย 3 ปี เรียกว่ามัน Reframe ได้ ถ้าเรายืดหยุ่นพอ (Resilience) มันก็จะปรับไปตามจังหวะชีวิตของเรา
อ่านแค่ไม่กี่บทจบ เหมือนเห็นความต่อเนื่องของสิ่งที่ฉันมีความฝันอยากเห็น อยากเห็นประเทศไทยมีคนเก่งๆ ในสายอาชีพตัวเองประหนึ่งลิซ่าที่จริงจังจนติดระดับโลก มันกลับมาที่ความเรียบง่ายเล็กน้อยที่สามารถยืนระยะ ยืนหยัด ไม่ย่อท้อ การรักษาใจเอาไว้ไม่ให้ burn out ก็สำคัญใช่ย่อย ฉันอาจไม่ใช่คนที่ทำมันเองทั้งหมด แต่ฉันแค่อยากเห็นก่อนจะตายละมั้ง ตอกย้ำว่าสิ่งที่ฉันไปเรียนตอนนี้สำคัญแค่ไหน อย่างไรบ้าง
สัปดาห์หน้าจะเปิดเทอมที่รามฯ อีกแล้ว การได้คุยกับหนังสือที่เราสนใจในลักษณะนี้ก็ดีนะ เป็นการเติมแรงบันดาลใจนี่แหละ
.
#MissPorJourney
#siamstr #wherostr