Why Nostr? What is Njump?
2024-05-03 08:55:45

BeYourCyber on Nostr: ขอคุยเรื่องเงิน #fiat หน่อยนะ ...

ขอคุยเรื่องเงิน #fiat หน่อยนะ เป็นเทคนิค การใช้บัตรเครดิต เวลาไปต่างประเทศ หรือ ใช้สกุลต่างประเทศ online

1) ตอนนี้มีบัตรเครดิต Crypto ให้เราใช้แบบไม่มีค่าธรรมเนียมแล้วนะ ชื่อ Cypher ที่จริงบัตรพวกนี้มีมานานแล้วแต่ว่าส่วนใหญ่จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมทั้งรายเดือนหรือรายปี ​และเวลารูดโดนขาร์ทแพงด้วย
บัตรพวกนี้เรียกให้ถูกต้อง เรียกว่า debit card จะถูกต้องกว่า เพราะมันต้องเติมเงินเข้าไปก่อนถึงจะมีวงเงินให้ใช้งานได้
ข้อดีของบัตรนี้คือ
- Load เงินเข้าเป็น USDC ไม่เสีย fee เลย (จ่ายค่า gas ตอนสั่ง transfer ตาม onchain tx ทั่วไป)​
- ตัดบัตรเหมือนบัตร credit ในสกุล USD ไม่เสีย fee
- ตัดบัตรสกุลอื่น ไม่เสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม มีแค่อัตราการแปลงสกุลเงิน ตามปกติ ประมาณ 2.5% อันนี้เดี๋ยวอธิบายต่อทีหลัง
- ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
- กด ATM charge 1% แยกจากที่ bank charge อีกที

2) บัตรเครดิตไทย ปกติ
เหมาะสำหรับตัดค่าใช้จ่ายสกุลบาท เพราะไม่มีค่าธรรมเนียมแปลงเรท เว้น DCC fee 1% ที่เค้าจะเก็บแล้วโดนเบรคไปก่อน
เราจะโดนเก็บเงินเพิ่มอีก 1% (DCC fee) เมื่อเข้าข่ายครบ "ทุกข้อ" ตามนี้
- บัตรออกโดยธนาคาร หรือ สถาบันการเงินของไทย โดยมีรูปหน้าบัตรเป็น Visa หรีอ Master Card (ไม่สนใจว่าจะเป็น Debit หรือ Credit)
- รูดเป็นหน่วย "บาท"
- ผู้ให้บริการนั้นๆคือ ต่างชาติ (ไม่ได้จดบริษัท ในไทย) โดยไม่สนใจ ว่า online หรือ หน้าร้านก็ตาม นับหมด รวมทั้งไปกด ATM ที่ต่างประเทศ แต่เลือกให้ตัดเงินเป็น บาท ก็เข้าเงื่อนไขด้วย
แต่ตอนนี้โดน ธปท เบรคไว้ก่อน

3) บัตร travel card ต่างๆ
พวกนี้ก็เป็นบัตรเดบิตเช่นเดียวกันเพราะว่าเราต้องเติมเงินเข้าไปก่อน บางบัตรจำเป็นต้องซื้อสกุลเงินของประเทศนั้นๆเอาไว้ก่อนแต่บางบัตรก็ไม่ต้องเติมเป็นเงินบาทรอไว้ก็พอ
ข้อดีของบัตรพวกนี้ก็คือเราไม่ต้องเสีย ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน 2.5% แม้ว่าเราจะจ่ายค่าใช้จ่ายด้วย สกุลเงินท้องถิ่นของต่างประเทศนั้นๆก็ตาม

4) ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน 2.5%,DCC Rate
อัตราการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน 2.5% อันนี้ไม่ใช่ DCC Rate นะ มันคือ fee ส่วนเพิ่มสำหรับการบันทึกสกุลเงินต่างประเทศ เช่น เราใช้บัตรไทย ตัดค่าใช้จ่าย $2.99 หลังจากนั้น 2-3 วัน ธนาคารจะบันทึกยอดเงินบาทสุทธิ ตรงนี้แหล่ะ ที่โดนเพิ่ม 2.5% จากยอด แต่อีกกรณีนึงคือ ค่าใช้จ่าย $2.99 แต่เราให้หน้าเว็บแปลงเป็นบาทเลย คือ 115.06 บาท นี่คือเรทที่ โดน DCC rate มาแล้ว 4% จากปกติคูณค่าเงินจะต้องโดนเพียง 110.63 บาท แต่ข้อดีคือ เราจ่ายที่เลขนี้เลย ไม่ต้องไปลุ้นอีกทีหลังว่าจะจ่ายเรทไหนแน่​ และไม่มี 2.5% แล้ว และแบบนี้ไม่โดน DCC fee

สรุป
- ตัดบัตรค่าใช้จ่าย ที่เรียกเก็บเป็น USD ใช้ cypher ดีที่สุด ถ้าสกุลอื่น คิดว่าน่าจะพอกันคือเรียกเก็บการแปลงเรท 2.5% หรือเลือกใช้ Travel card เพื่อลด 2.5% นี้ลง
- ตัดบัตรค่าใช้จ่ายที่เป็นบาท จากผู้ให้บริการไทย ใช้บัตรไทยเลยถูกสุด ได้แต้ม ได้ benefit ตามหน้าบัตร
- ตัดบัตรค่าใช้จ่ายที่เป็นบาท จากผู้ให้บริการต่างประเทศ พยายามหาว่ามีให้เลือกสกุลเป็นสกุลอื่นหรือไม่ ถ้ามีก็ใช้สกุลนั้น บนบัตร cypher ถ้าไม่มีก็ใช้ cypher จะไม่โดน DCC Rate 1% เพิ่ม(ถ้า ธปท ไฟเขียวให้ชาร์ท)​
- พยายามเลือกสกุลท้องถิ่นเสมอ บางเว็บจะมีให้เลือก หรือการรูดบัตรเค้าจะให้เราเลือก เรา​ควรเลือกสกุลเงินท้องถิ่นของเค้าเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยง DCC Rate ที่แพงระยับเลย ยอมโดน 2.5% ดีกว่า
- ถ้าค่าใช้จ่ายต้องตัดสกุลท้องถิ่นและแปลงกลับเป็นบาทอีกที ใช้พวกบัตร travel card จ่าย เพราะไม่โดน 2.5%

ตอนนี้ก็ต้องนั่งคิด นั่งเปลี่ยนบัตรอยู่ ใบไหน เพมาะกับอะไร ยังไง ถึงจ่ายค่าธรรมเนียมแฝงน้อยที่สุด

ป.ล. ไม่คุยกันเรื่องภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มาจากการใช้บัตร cypher นะ เรื่องนี้ อีกยาวววว แต่ลองไปอ่านประมวลรัษฎากร​ มาตรา 41 น่าจะเข้าใจมากขึ้น

#siamstr #creditcards #debitcard #dccrate #dccfee #cypher
Author Public Key
npub13w8fn664l78a70gflcyxu66zxr0nyfaaxqtwz0an3vq3vjktgkxqt9fle3