“Think Again”
คือหนังสือที่ผมกลับมาอ่านอีกรอบ แล้วผมคิดว่ามันคือหนังสือที่ทำให้คนก้าวสู่ความอ่อนแอ และ ไร้เหตุผลที่สุด ควรค่าแก่การเผาทิ้ง ยิ่งได้รู้ว่าตัวคนเขียนมีแนวคิดหัวเอียงซ้ายยิ่งน่าหงุดหงิดใจ
เงิน 405 บาทที่ผมสูญเสียให้ Asia Books คือความผิดพลาดที่สุด
หนังสือพยายามหลอกล่อคุณผ่านเส้นกาลเวลา ในการตัดสินใจและการประมวลผลในกระบวรการคิดของคุณ ซึ่งเหตุผลในลักษณะนี้มันอาศัย factor หลายสิ่ง หรือ แม้แต่คุณอยู่ในสถาการณ์ที่ฉุกเฉิน
ผมยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้หากคุณทำงานในออฟฟิศแห่งหนึ่งที่กำลังมีไฟลุกไหม้อยู่ อย่างไม่รุนแรงมากนัก หากคุณก็จะพอมีสติในการประคับประคองช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน ให้หนีให้พ้นจากบริเวรพื้นที่สุ่มเสี่ยงอันตราย
แต่หากเกิดเหตุการณ์ไฟครอกรอบด้านจากที่ไฟฟ้ารัดวงจร การแก้ปัญหาที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ผ่านกระบวนการคิดที่ไวที่สุดคือการเอาตัวให้รอดจากเหตุการณ์นั้นๆ ก่อนที่จะช่วยเหลือผู้อื่น
นี่คือการแก้ปัญาด้วยสัญชาตญาณ
แต่หนังสือพยายามพาเราไปย้อนอดีตเพื่อต้องการบอกว่า “มึงอ่ะโง่” มึงต้องคิดใหม่ แล้ว มึงต้องวิ่งไปทำนู้นนี่ นั่นสี่ห้าอย่างแล้วมึงจะรอด
ซึ่งคนมันจะตายมันอาจจะเป็นกำหนดจากฟ้ามาก็ได้ทำยังไงมันก็ตาย
เหตุผลผู้เขียนเหมือนพยายามยัดเยียดให้คุณต้องฉลาดตลอดเวลา ผ่านกระบวนการคิด
แต่แน่นอนว่าในชีวิตจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย มันมีห้วงเวลา ความรู้ที่ได้รับ หรือ การแก้ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นแล้ว มิเช่นนั้นบ้านเราจะมีการซ้อมหนีไฟ การซ้อมฉุกเฉินเพื่อแจ้งเหตุโจรปล้นทำไม?
เพราะมันเป็นแค่ function เสริมเพื่อเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์สุ่ม หรือ เหตุการณ์มิคาดฝัน
เหตุการณ์กราดยิง พ่อแม่ลูกไปเที่ยวในห้างอย่างมีความสุข เค้าจะรู้ก่อนไหมว่าเค้าจะตาย และ การที่พยายามย้ำคิดย้ำทำเพื่อวิพากษ์อดีต มันควรย้อนไปถึงรากเง่าว่า เพราะพวกมึงเป็นอย่างนี้เลยต้องตาย?
มันไม่ใช่ไง เพราะเราไม่รู้ว่าเราไม่รู้มันเลยมีกระบวนการก้าวผ่าน หรือ ให้เราระวังเรื่องอนาคต ไม่ใช่ระวังเรื่องเสรีภาพในการคิด แต่ระมัดระวังเรื่องการกระทำการใดๆ และพร้อมที่จะผ่านความทุกข์ยากนั้นไปหากมีชีวิตอยู่
นี่คือหนังสือที่งี่เง่าที่สุดแห่งปีที่ผมได้อ่าน และเมื่อจบ 100 หน้า ผมบอกเลย ผมทนอ่านมันต่อไปไม่ไหวแล้ว กับแนวคิดงี่เง่าบัดซบ ยิ่งการอ้างสภาวะทางธุรกิจ หรือ กระทั่งเชียร์พวก socialism Democratic ยิ่งไปกันใหญ่
ไม่น่าคนอย่าง Bill Gate ถึงยกย่องมัน