quoting naddr1qv…f9zhในทุกวันนี้เราได้ยินข่าวสคราม มีมาตลอด ล่าสุด ยูเครน เพิ่งยิงขีปนาวุธใส่รัสเซียอีกครั้ง หรือจะเป็นสงครามปาเลสไตน์
คำถามคือสงครามต้องใช้เงินเเละประเทศที่ทำสงครามเอาเงินมาจากไหน สงครามยิ่งรบนาน ยิ่งใช้เงินมาก เเต่ปัจจุบันสงคราม รบกัน 3-4 ปี หรือ เป็น 10 ปี มาช่วยคิดหาคำตอบกัน
สรุป ไขความลับ “ประวัติศาสตร์สงคราม” ที่ไม่มีวันรู้จบ (ดร.วิทย์ x อ.พิริยะ x คุณเฟิร์น)
https://youtu.be/E4MuRL8R-3Y?si=aFNm5BQXBIHcKw7Q
คลิปนี้มีคำตอบเเน่นอนครับผม
เอาเงินจากไหนมาทำสงคราม
สมัยโบราณมนุษย์ใช้ เเค่ หอก ดาบ ในการทำสงคราม ซึ่งเป็นการทำสงครามที่มีต้นทุนไม่มาก เเต่หลังปฏิวัติอุตสาหกรรม ต้นทุนเริ่มเปลี่ยนไป
ยุคก่อนเป็นยุคในการเกณฑ์คนในการทำสงคราม หรือเรียกว่า conscription เเละการทำสงครามต้องใช้เงิน เเหล่งหาเงินคือ การยืมเงิน ออกพันธบัตร หรือ War Bond
เช่น ในสมัย รัสเซียกับญี่ปุ่น ทำสงคราม ญี่ปุ่นได้ทำ War Bond กับ ตระกูล Rothschild
หรืออีกวิธีการ คือ การขายทรัพย์สิน
เช่น สงคราม นโปเลียน ณ ตอนนั้น ฝรั่งเศส มีพื้นที่อยู่ที่ อเมริกา ประมาณ 15 รัฐ ได้ทำการขายให้ทางอมเริกา เป็นเงินจำนวน 15 ล้านเหรียญสหรัฐ
หรือเป็นการกู้เงินธนาคารในการทำสงคราม
สงครามเป็นข้ออ้างในการผลิตเงินมาโดยตลอด โดยรูปแบบของสงครามมี 2 แบบใหญ่ๆคือ
สงครามเเบบปกป้อง ประชาชนยอมที่จะรวมใจกันช่วยประเทศ เช่น ซื้อ War bond
สงครามเเบบรุกราน ประเภทนี้จะยากมากที่ประชาชนจะให้ความร่วมมือ ซึ่ง รัฐบาลจะต้องคิดวิธีการในการได้เงินมาทำสงคราม
สงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษเเละ War Bond
ณ ตอนนั้น อังกฤษช่วยทางฝรั่งเศส เเละ รัสเซีย ในการทำสงคราม กับเยอรมัน อย่างที่ทราบว่า สงครามต้องใช้เงิน รัฐบาลได้มีการออก War Bond เเต่ประชาชนไม่ให้ความสนใจเนื่องจากไปรุกรานประเทศอื่น ธนาคารจึงตั้งนอมินีขึ้นมาเเละออกข่าว ว่าขายดีมาก จนทำให้ประชาชนหลงเชื่อเเละเเห่ซื้อจนหมด
สงครามเริ่มมีต้นทุนที่เเพงขึ้นเริ่มจาก World war 1 เริ่มมีเครื่องจักร รถถัง ในการทำสงคราม เเต่ World war 2 นั้นถือว่าเป็นการรบที่มี เครื่องจักรเต็มตัว เช่น มีเครื่องบินรบเป็นต้น
เเต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 อมเริกาได้เป็นมหาอำนาจของโลก มีระบบการเงินใหม่ Bretton Woods system บังคับให้ทองคำทั้งหมดมารวมกันที่อเมริกา จุดนี้ถือว่าเป็นการเริ่มผลัดใบระบบการเงินจาก ระบบมาตรฐานทองคำ มาสู่ มาตรฐานดอลล่าร์ โดย 1 ดอลล่าร์ เท่ากับ 35 ทรอยออนซ์
เเละมีการกำหนดค่าเงินกับเงินดอลล่าร์
เช่น 1 ดอลล่าร์ เท่ากับ 2.5 ปอนด์ เป็นต้น
เมื่อใช้ระบบนี้มาเรื่อยๆ ฝรั่งเศสเริ่มเห็นถึงความไม่ชอบมาพากล ทางฝรั่งเศสได้ทำการขนเงินเพื่อที่จะเเลกทองคำกับอเมริกา เเต่ ทางอเมริกา ไม่มีทองคำที่จะคืนให้กับ ทางฝรั่งเศส
ในปี 1971 ตอนนั้น ประธานาธิบดี นิกสัน ได้ประกาศยกเลิกการอ้างอิงทองคำ เเละเข้าสู่ระบบการเงินใหม่ทันที โดยเอาทองคำออกจากระบบ หรือ nixon shock
เเละดอลล่าร์เป็นสกุลหลักของโลกเเล้ว เมื่อ มีการพิมพ์เงิน ทุกประเทศที่ถือดอลล่าร์ก็จะจนลง
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 บริษัทเอกชน เป็นผู้ผลิตอาวุธ ซึ่งทำให้สงครามมีผลกับโลกของเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทำให้การผลิตอาวุธเป็นสินค้าส่งออก
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เเม้โลกเริ่มใช้เงินดอลล่าร์เป็นฐานกันเเล้ว เเต่ยังยึดโยงกับ ทองคำอยู่ ทำให้ประชาชนยังมีส่วนได้ส่วนเสียกับสงครามอยู่ เเต่หลังจากยกเลิกมาตรฐานทองคำไป สงครามกลายเป็นสงครามตัวเเทน เป็นหน้าที่ของ Professional ในการทำสงคราม
รัฐบาลสามารถมีอำนาจพิมพ์เงินในการทำสงครามได้เลย โดยไม่ต้องขอเงินประชาชน มาในรูปแบบ เงินช่วยเหลือ ไปช่วยประเทศอื่นๆ ขอกันได้ง่ายๆ กู้กับ Lender last resort ได้เลย
ทำให้ความยึดโยงกับประชาชน น้อยลง เเต่มีสงครามตัวเเทนมากขึ้น
เช่น สงครามเวียดนาม สงครามอัฟกานิสถาน หรือเเม้กระทั่งสงคราม รัสเซีย ยูเครน
ส่วนปัจจัยที่ประชาชนสนใจสงครามน้อยลงเนื่องจาก เทคโนโลยีทหาร ที่เป็นเเบบ ไฮเทคมากขึ้น ใช้กำลังพลจำนวนน้อย
น้ำมันกับความต้องการดอลล่าร์ อีกช่วงที่เกิดขึ้น เนื่องจากโลกได้ค้นพบพลังงานที่ทั้งโลกนั้นขาดไม่ได้นั้นคือ น้ำมัน อเมริกานั้นมีความสนิทสนมกับทางกลุ่ม opac เเละขอให้ การซื้อขายน้ำมันต้องเเปลงเป็นดอลล่าร์ก่อนเท่านั้น
นี่ทำให้ความต้องการใช้ดอลล่าร์มีมากขึ้นอย่างชาญฉลาด
สภาพคล่องที่ไม่มีประสิทธืภาพจะนำมาสู่ความพังพินาศ Inflation is a nation buster
นักเศรษฐศาสตร์รู้อยู่เเล้วว่า อยากจะทำลายประเทศไหน ให้สร้างเงินเฟ้อ ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ สิ่งที่เเปลกเเละใหม่กว่าคือบอกว่า การมีเงินเฟ้ออ่อนๆเป็นสิ่งที่ดี
เเละส่วนของอุตสาหกรรมทางทหารนั้นถ้ามองจากงบประมาณ อาจจะไม่มาก เเต่จะซ่อนอยู่ที่อื่นๆ เช่น อยู่ในงานวิจัยต่างๆ เพราะรัฐบาลเป็นคนให้การสนับสนุน กับโครงการเหล่านี้ วิจัยอาหาร ยา เครื่องยนต์ เพราะลูกค้าคือรัฐบาล
อุตสาหรรมเกี่ยวกับ Military Industrail complex เติบโตอย่างมาก เช่น เหตุการณ์ไปรบที่อัฟกานิสถาน รัฐบาลไม่ได้ไปเองเเต่จ้าง บริษัทเอกชน outsource เป็นคนจัดการทั้งหมด การทหารแฝงอยู่ในธุรกิจเอกชนทั่วไป
ทำไมต้องทำสงครามเมื่ออเมริกามีอำนาจทางการทหาร ที่เเข็งเเกร่งอยู่เเล้ว
any spending is good spending goverment spending is war
อยากให้ตัวเลข GDP ดีขึ้นก็เเค่ทำสงคราม เบิกเงินช่วยเหลือ GDP ก็ดีตาม เเละด้วยความเป็นมนุษย์ อำนาจ มีเเล้วก็อยากจะมีเพิ่ม ไม่เคยพอ
ยิ่งพิมพ์เงินทำสงครามคนที่ถือเงิน US ก็ยิ่งเสียอำนาจการจับจ่ายใช้สอยเพราะทุกประเทศมี US เป็นเงินสำรอง ปล้นเงินจากเราได้ง่ายๆ
เเต่ Bitcoin มาเเก้ปัญหาเรื่องการพิมพ์เงินจากรัฐบาล เอาอำนาจการพิพ์เงินออกไป
เเละถ้ารัฐบาลจะทำสงครามก็ต้องมีส่วนร่วมกับประชาชน
สงครามจะเป็นเเบบสั้นลง เพราะต้นทุนสูงเหมือนสมัยก่อน
สรุปสุดท้าย โลกยังไงก็มีสงคราม เเต่การที่มีระบบการเงินที่เสกเงินได้ทำให้สงครามไม่มีวันจบ !