Chiepzz on Nostr: “Lower your time preference” ประโยคสั้นๆ ...
“Lower your time preference”
ประโยคสั้นๆ ที่โคตรลึกซึ้ง…แล้วกว่าจะเข้าใจมันก็ต้องใช้ความพยายามและเวลามากเช่นกัน
เท่าที่ผมเข้าใจ แนวคิด time preference มันคือการมองว่าคนคนหนึ่งให้ความสำคัญกับผลตอบแทนหรือความสุข “ระยะสั้น” มากกว่า “ระยะยาว” ขนาดไหน ยิ่งคุณให้ความสำคัญกับผลตอบแทนระยะสั้นมาก คุณก็ยิ่งมี time preference ที่สูง
ธรรมชาติของมนุษย์จะบีบให้ทุกคนมี time preference ที่เป็นบวกอยู่แล้ว ไม่มากก็น้อย เพราะพวกเรามี “เวลาที่จำกัด” เมื่อเรารู้อยู่แก่ใจว่าสักว่าเราต้องตาย มันง่ายกว่ามากกับชีวิตที่จะรีบกอบโกยความสุขระยะสั้นให้มากที่สุด เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าความตายของเราจะมาถึงวันไหน
แล้วทำไมต้อง lower our time preference?
คำตอบกวนๆ ก็คือ “ก็เพราะคุณอาจจะไม่ได้รีบตายขนาดนั้นไงครับ”…แต่ผมไม่ตอบกวนๆ หรอก ไหนๆ จะเขียนบทความแล้ว เรามาลองคิดเหตุผลดีๆ ข้ออื่นกันสักหน่อยดีกว่า
จากหนังสือ The Bitcoin Standard มนุษย์ที่มี time preference ที่ต่ำจะยอมอดทนเสียเวลาทำภารกิจที่ใช้เวลานานเพื่อประโยชน์ในอนาคตได้ และจะสามารถสั่งสมสินค้าประเภททุนมากขึ้น เมื่อมนุษย์เก็บออมจนมีเงินและทุนมากขึ้น ความมั่นคงในอนาคตจะยิ่งมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้ time preference ของมนุษย์คนนั้นต่ำลงไปอีก เป็นวงจรไปเรื่อยๆ
ดังนั้นในสังคมซึ่งประชากรมี time preference ต่ำ จะเกิดการสั่งสมสินค้าทุนมากขึ้น นำไปสู่การผลิตนวัตกรรมใหม่ ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมได้มากขึ้น ก่อเกิดเป็นกระบวนการก่อกำเนิดอารยธรรมต่อไป
ส่วนในระดับบุคคล ประโยชน์ของการมี time preference ที่ต่ำ คือการที่คุณจะเหลือ “เวลา” และ “พลังงาน” ของตัวเองมากขึ้นเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในแง่มุมอื่นของชีวิต เช่น หาความรู้ในเรื่องที่สนใจ ฝึกทักษะใหม่ๆ ค้นหาความสุขสงบทางใจ และพัฒนาความสัมพันธ์กับคนรอบตัว เป็นต้น ทุกอย่างในชีวิตล้วนต้องใช้เวลาและพลังงานหากคุณต้องการผลลัพธ์ที่น่าพอใจ เพราะโชคดีไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยและไม่ได้เกิดกับทุกคน
สุดท้ายนี้ time preference จะต่ำลงได้ ก็ต่อเมื่อมนุษย์รู้สึกว่าอนาคตมั่นคงมากขึ้นแล้ว วิธีการที่จะทำให้รู้สึกว่าอนาคตมั่นคงมากขึ้น ก็คือการลงทุนลงแรงเพื่อสร้างทุน และเก็บออมให้มากขึ้น
ดังคำกล่าวของพี่วิชิตในรายการหนุ่ยทอล์ก ช่องแบไต๋ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค 66 ว่า “ทำงาน ทำงาน ทำงานเยอะๆ แดกให้น้อย…เหลือเท่าไหร่ เก็บ BITCOIN” นั่นเอง
#siamstr
Published at
2023-12-11 05:58:30Event JSON
{
"id": "966cd87f0abe3bd0cebe59fcc7403b9e09708e986fc693246324e22160fa7147",
"pubkey": "cf8697e37d3014072431e62163f6cba07edfbf4b3528e26e87b243385efd0675",
"created_at": 1702274310,
"kind": 1,
"tags": [
[
"t",
"siamstr"
]
],
"content": "“Lower your time preference”\n\tประโยคสั้นๆ ที่โคตรลึกซึ้ง…แล้วกว่าจะเข้าใจมันก็ต้องใช้ความพยายามและเวลามากเช่นกัน\n\tเท่าที่ผมเข้าใจ แนวคิด time preference มันคือการมองว่าคนคนหนึ่งให้ความสำคัญกับผลตอบแทนหรือความสุข “ระยะสั้น” มากกว่า “ระยะยาว” ขนาดไหน ยิ่งคุณให้ความสำคัญกับผลตอบแทนระยะสั้นมาก คุณก็ยิ่งมี time preference ที่สูง\n\tธรรมชาติของมนุษย์จะบีบให้ทุกคนมี time preference ที่เป็นบวกอยู่แล้ว ไม่มากก็น้อย เพราะพวกเรามี “เวลาที่จำกัด” เมื่อเรารู้อยู่แก่ใจว่าสักว่าเราต้องตาย มันง่ายกว่ามากกับชีวิตที่จะรีบกอบโกยความสุขระยะสั้นให้มากที่สุด เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าความตายของเราจะมาถึงวันไหน \n\tแล้วทำไมต้อง lower our time preference?\n\tคำตอบกวนๆ ก็คือ “ก็เพราะคุณอาจจะไม่ได้รีบตายขนาดนั้นไงครับ”…แต่ผมไม่ตอบกวนๆ หรอก ไหนๆ จะเขียนบทความแล้ว เรามาลองคิดเหตุผลดีๆ ข้ออื่นกันสักหน่อยดีกว่า\n\tจากหนังสือ The Bitcoin Standard มนุษย์ที่มี time preference ที่ต่ำจะยอมอดทนเสียเวลาทำภารกิจที่ใช้เวลานานเพื่อประโยชน์ในอนาคตได้ และจะสามารถสั่งสมสินค้าประเภททุนมากขึ้น เมื่อมนุษย์เก็บออมจนมีเงินและทุนมากขึ้น ความมั่นคงในอนาคตจะยิ่งมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้ time preference ของมนุษย์คนนั้นต่ำลงไปอีก เป็นวงจรไปเรื่อยๆ\n\tดังนั้นในสังคมซึ่งประชากรมี time preference ต่ำ จะเกิดการสั่งสมสินค้าทุนมากขึ้น นำไปสู่การผลิตนวัตกรรมใหม่ ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมได้มากขึ้น ก่อเกิดเป็นกระบวนการก่อกำเนิดอารยธรรมต่อไป\n\tส่วนในระดับบุคคล ประโยชน์ของการมี time preference ที่ต่ำ คือการที่คุณจะเหลือ “เวลา” และ “พลังงาน” ของตัวเองมากขึ้นเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในแง่มุมอื่นของชีวิต เช่น หาความรู้ในเรื่องที่สนใจ ฝึกทักษะใหม่ๆ ค้นหาความสุขสงบทางใจ และพัฒนาความสัมพันธ์กับคนรอบตัว เป็นต้น ทุกอย่างในชีวิตล้วนต้องใช้เวลาและพลังงานหากคุณต้องการผลลัพธ์ที่น่าพอใจ เพราะโชคดีไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยและไม่ได้เกิดกับทุกคน\n\tสุดท้ายนี้ time preference จะต่ำลงได้ ก็ต่อเมื่อมนุษย์รู้สึกว่าอนาคตมั่นคงมากขึ้นแล้ว วิธีการที่จะทำให้รู้สึกว่าอนาคตมั่นคงมากขึ้น ก็คือการลงทุนลงแรงเพื่อสร้างทุน และเก็บออมให้มากขึ้น \n ดังคำกล่าวของพี่วิชิตในรายการหนุ่ยทอล์ก ช่องแบไต๋ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค 66 ว่า “ทำงาน ทำงาน ทำงานเยอะๆ แดกให้น้อย…เหลือเท่าไหร่ เก็บ BITCOIN” นั่นเอง\n#siamstr",
"sig": "ce104cc3accfbb64a15cd3c0053fbec473914a842dd3ac0d097b361da6d448460dbc216302d96f17c61f7c870d09f275a9e3d9043b12cd317cee1ad7c593410d"
}