journaling_our_journey on Nostr: คู่รักจำนวนมากมองว่า 1+1 = 2 ...
คู่รักจำนวนมากมองว่า 1+1 = 2 ไม่ใช่ 1+1 = 1
.
กล่าวคือ แม้พวกเขาจะเป็นแฟนกัน แต่พวกเขาไม่ต้องการให้ชีวิตของตัวเองและแฟน “หลอมรวมกันเป็นหนึ่ง”
.
พวกเขายังอยากที่จะมีชีวิตของตัวเองที่แยกต่างหากออกจากแฟน และพวกเขาก็อยากให้แฟนมีชีวิตของแฟนเองที่แยกต่างหากออกจากพวกเขา
.
เพียงแต่ว่า แม้ต่างคนจะต่างมีชีวิตของตัวเอง แต่พวกเขาก็จะมีช่วงเวลาที่มาอยู่ด้วยกัน มามีปฏิสัมพันธ์กัน มาทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันด้วย
.
มุมมองลักษณะนี้คือสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้พวกเขาหลีกเลี่ยงปัญหา “พึ่งพากันมากเกินไป” ที่เกิดขึ้นกับคู่รักจำนวนไม่น้อย
.
ปัญหา “พึ่งพากันมากเกินไป” เกิดขึ้นเวลาที่คู่รักไม่เพียงแค่คาดหวังให้แฟนเป็นเพียงแค่แฟนเท่านั้น แต่ยังคาดหวังให้แฟนเป็นเพื่อนสนิท เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นนักจิตวิทยา เป็นไกด์นำเที่ยว เป็นช่างประปา เป็นคนขับรถ และอื่นๆอีกด้วย
.
แน่นอนครับว่า แฟนแต่ละคนอาจจะ “รับบท” ได้หลายบทบาทก็จริง (เช่น เป็นทั้งแฟน เพื่อนสนิท และช่างประปา) แต่หากความคาดหวังมันอยู่ในระดับที่ “มากเกินไป” มันก็ยากจริงๆครับที่คนๆหนึ่งจะ “รับบท” ได้เยอะขนาดนั้น
.
มุมมอง 1+1 = 2 จึงเข้ามาช่วยป้องกันหรือลดทอนปัญหา “พึ่งพากันมากเกินไป” นี้ได้ เพราะถ้าทั้งเราและแฟนต่างก็มีชีวิต (และสังคม) เป็นของตัวเอง โอกาสที่เราและแฟนจะคาดหวังให้อีกฝ่าย “รับบท” เยอะๆก็จะน้อยลง
.
อย่างไรก็ตาม หากเรา “สุดโต่ง” กับมุมมอง 1+1 = 2 มากเกินไป มุมมองนี้ก็สามารถสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาในความสัมพันธ์ได้เหมือนกัน
.
ปัญหาใหม่นี้คือปัญหา “disconnect”
.
มันคือการที่ทั้งเราหรือแฟน (หรืออาจจะทั้งคู่) ต่างทุ่มเทเวลาให้กับชีวิต (และสังคม) ของตัวเองมากจนไม่มีเวลาเหลือ (หรือแทบจะไม่มีเวลาเหลือ) ให้กับกันและกันอีกต่อไป
.
มันสามารถทำให้ทั้งเราหรือแฟน (หรืออาจจะทั้งคู่) เกิดความคิดขึ้นมาในใจว่า “มีแฟนก็เหมือนไม่มี” ซึ่งอาจนำมาสู่การเลิกรากันในท้ายที่สุดได้
.
ด้วยเหตุนี้ แม้มุมมองต่อความรักแบบ 1+1 = 2 จะเป็นมุมมองที่ดีและสามารถแก้ไข (หรือลดทอน) ปัญหา “พึ่งพากันมากเกินไป” ได้ แต่หากคู่รักยึดมุมมองนี้แบบสุดโต่ง มันก็สามารถทำให้ความรัก “ถึงทางตัน” ได้เช่นกันครับ
#จิตวิทยา #siamstr
Published at
2025-03-12 01:17:08Event JSON
{
"id": "d2392e30788011663b85dcf3a064287076cb25e3b2ace5a3a9063ea380ac0f80",
"pubkey": "b6f9d31f224732a108e22eee19207431e343d514483e0f86aa7d4f7c8ab0904f",
"created_at": 1741742228,
"kind": 1,
"tags": [
[
"imeta",
"url https://image.nostr.build/d1ba51a64028b1aa528fc8c514fefdf23ae9336d3c521362c1112187a315efc3.jpg",
"m image/jpeg",
"x 905bccc05e58d16328e9ac291d400cab985eb7724f15f14da44f91745bf8b8d6",
"ox d1ba51a64028b1aa528fc8c514fefdf23ae9336d3c521362c1112187a315efc3",
"blurhash LkOykY8wtS?b~A-nS4W=o#RkfkS5",
"dim 940x788",
"thumb https://image.nostr.build/thumb/d1ba51a64028b1aa528fc8c514fefdf23ae9336d3c521362c1112187a315efc3.jpg"
],
[
"t",
"จิตวิทยา"
],
[
"t",
"siamstr"
]
],
"content": "https://image.nostr.build/d1ba51a64028b1aa528fc8c514fefdf23ae9336d3c521362c1112187a315efc3.jpg\n\nคู่รักจำนวนมากมองว่า 1+1 = 2 ไม่ใช่ 1+1 = 1\n.\nกล่าวคือ แม้พวกเขาจะเป็นแฟนกัน แต่พวกเขาไม่ต้องการให้ชีวิตของตัวเองและแฟน “หลอมรวมกันเป็นหนึ่ง” \n.\nพวกเขายังอยากที่จะมีชีวิตของตัวเองที่แยกต่างหากออกจากแฟน และพวกเขาก็อยากให้แฟนมีชีวิตของแฟนเองที่แยกต่างหากออกจากพวกเขา\n.\nเพียงแต่ว่า แม้ต่างคนจะต่างมีชีวิตของตัวเอง แต่พวกเขาก็จะมีช่วงเวลาที่มาอยู่ด้วยกัน มามีปฏิสัมพันธ์กัน มาทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันด้วย\n.\nมุมมองลักษณะนี้คือสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้พวกเขาหลีกเลี่ยงปัญหา “พึ่งพากันมากเกินไป” ที่เกิดขึ้นกับคู่รักจำนวนไม่น้อย\n.\nปัญหา “พึ่งพากันมากเกินไป” เกิดขึ้นเวลาที่คู่รักไม่เพียงแค่คาดหวังให้แฟนเป็นเพียงแค่แฟนเท่านั้น แต่ยังคาดหวังให้แฟนเป็นเพื่อนสนิท เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นนักจิตวิทยา เป็นไกด์นำเที่ยว เป็นช่างประปา เป็นคนขับรถ และอื่นๆอีกด้วย\n.\nแน่นอนครับว่า แฟนแต่ละคนอาจจะ “รับบท” ได้หลายบทบาทก็จริง (เช่น เป็นทั้งแฟน เพื่อนสนิท และช่างประปา) แต่หากความคาดหวังมันอยู่ในระดับที่ “มากเกินไป” มันก็ยากจริงๆครับที่คนๆหนึ่งจะ “รับบท” ได้เยอะขนาดนั้น\n.\nมุมมอง 1+1 = 2 จึงเข้ามาช่วยป้องกันหรือลดทอนปัญหา “พึ่งพากันมากเกินไป” นี้ได้ เพราะถ้าทั้งเราและแฟนต่างก็มีชีวิต (และสังคม) เป็นของตัวเอง โอกาสที่เราและแฟนจะคาดหวังให้อีกฝ่าย “รับบท” เยอะๆก็จะน้อยลง\n.\nอย่างไรก็ตาม หากเรา “สุดโต่ง” กับมุมมอง 1+1 = 2 มากเกินไป มุมมองนี้ก็สามารถสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาในความสัมพันธ์ได้เหมือนกัน\n.\nปัญหาใหม่นี้คือปัญหา “disconnect”\n.\nมันคือการที่ทั้งเราหรือแฟน (หรืออาจจะทั้งคู่) ต่างทุ่มเทเวลาให้กับชีวิต (และสังคม) ของตัวเองมากจนไม่มีเวลาเหลือ (หรือแทบจะไม่มีเวลาเหลือ) ให้กับกันและกันอีกต่อไป\n.\nมันสามารถทำให้ทั้งเราหรือแฟน (หรืออาจจะทั้งคู่) เกิดความคิดขึ้นมาในใจว่า “มีแฟนก็เหมือนไม่มี” ซึ่งอาจนำมาสู่การเลิกรากันในท้ายที่สุดได้\n.\nด้วยเหตุนี้ แม้มุมมองต่อความรักแบบ 1+1 = 2 จะเป็นมุมมองที่ดีและสามารถแก้ไข (หรือลดทอน) ปัญหา “พึ่งพากันมากเกินไป” ได้ แต่หากคู่รักยึดมุมมองนี้แบบสุดโต่ง มันก็สามารถทำให้ความรัก “ถึงทางตัน” ได้เช่นกันครับ\n\n#จิตวิทยา #siamstr",
"sig": "f0139a2135374176443f23b417c26d4cd975a3dd8d77db60dfee6d6824f668175cde42ca766bfa644cebd0307a2c84fd9664acebef1014028d5cc3ef25b63f50"
}