Blackjally on Nostr: GN 🌙 #siamstr เรื่องเล่าในวันนี้ ...
GN 🌙 #siamstr
เรื่องเล่าในวันนี้ เริ่มต้นด้วยผู้เขียน มีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งอายุ 60 ปีจะเกษียณอายุภายในเวลาสิ้นปีนี้ด้วยความที่ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา ลงทุนเวลาไปกับงานอย่างเต็มเวลา ทำให้ไม่มีเวลาไปบริหารจัดการเงินเก็บของเขา
เขาใช้ชีวิตแบบเก็บหอมรอมริบมาตลอดตามภาษาพนักงานเงินเดือน Baby Boomer GEN
ปัจจุบันพี่แกเพิ่งเริ่มที่พยายามขวนขวายนำเงินเก็บทั้งชีวิตมาลงทุนในที่ต่างๆ ทั้งหุ้นปันผล สลากออมสิน หรือแม้แต่ปล่อยกู้นอกระบบ
มีครั้งหนึ่งแกพูดกับตัวผู้เขียนว่าเบี้ยเกษียณจากบริษัทจำเป็นต้องเสียภาษี แกจึงหาทางที่จะลดหย่อนภาษีในส่วนนั้น
โดยวิธีการของพี่แกคือไปปรึกษาธนาคารแต่เรื่องราวกลับกลายเป็นว่าธนาคารแห่งนั้นได้เสนอให้พี่แกทำประกันกับทางธนาคารด้วยสัญญาส่งเบี้ยประกันในราคากว่า 100,000 บาทต่อปีเป็นระยะเวลา 5 ปีแล้วตามสัญญาระบุว่า เมื่ออายุครบ 99 ปีจะได้รับสินไหมคืนเป็นเงินจำนวน 650,000 บาท รวมเบี้ยทั้งหมดตลอดระยะเวลา เป็นเงินจำนวน 500,000 บาท โดยมีดอกเบี้ยเพียงแค่ 150,000 บาทต่อ 40 ปี
ที่ต้องการแค่ลดหย่อนภาษีลง 100,000 บาทแต่กลับต้องเสียเงินยอดรวมไปแล้วกว่า 500,000 บาทให้กับเงินที่แกไม่รู้ว่าจะได้ใช้หรือไม่ มันดูแปลกประหลาดและย้อนแย้ง
ราวกับพี่แกเป็นแกะตัวอ้วนพีที่พร้อมให้ดาสิงสาราสัตว์มากัดกินแย่งชิง...ก้อนเนื้อไขมันที่อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต...
จากที่พี่แกเล่ามาแกไม่ได้หวังว่าต้องการเงินมากมายอะไรแกเพียงหวังเพื่อไม่ให้เป็นภาระของลูกหลานในยามเกษียณ
แต่สิ่งที่แกต้องเจอกลับกลายเป็นว่าราวกลับถูกปล้นเงินเก็บครึ่งชีวิตของแกโดยที่ไม่รู้ประสีประสาเพื่อหวังจะได้ลดหย่อนภาษีจากเบี้ยเกษียณ
เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้นบ่อยครั้งพี่แกจะชอบพูดถึงว่าแกใส่เงินลงไปในหุ้นซึ่งให้กำไรเป็นเงินปันผลราวๆ 10-15% ต่อปี โดยที่แกก็ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับตลาดทุนเท่าไหร่นัก
เรื่องนี้ผู้เขียนขอออกตัวก่อนว่าตัวผู้เขียนเองก็ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับตลาดทุน
ผู้เขียนเพียงแต่ว่ามองเห็นตัวเลขเงินปันผลที่ค่อนข้างสูงแล้วอดจะเป็นห่วงพี่แกไม่ได้
ผู้เขียนเองก็ไม่มีความรู้เพียงพอที่จะไปช่วยเหลืออะไรพี่แกนัก ทำได้แค่เพียงรู้สึกว่าตนเองในอนาคตจะเป็นอย่างไร และรู้สึกเกลียดชังกับระบบการเงินในแบบปัจจุบันเป็นอย่างมาก
พี่แกทำผิดอะไรที่ตั้งใจทำงานอย่างหนักใส่เวลาไปกับสิ่งที่แกมีความเชี่ยวชาญ แต่ในบั้นปลายชีวิตกับไม่สามารถคาดหวังที่จะมีชีวิตแบบไม่ต้องกังวลตลอดจนชีวิตจบลงได้
แกไม่เคยคาดหวังที่จะร่ำรวยมากมายขอเพียงในบั้นปลายไม่ต้องอดมื้อกินมื้อไม่ต้องลำบากลูกหลานให้ต้องเจียดเงินอันน้อยนิดมาเป็นค่าเลี้ยงดูก็เพียงพอแล้ว
เรื่องนี้สอนอะไรกับเรา......?
สุดท้ายนี้ผู้เขียนต้องขออภัยหากข้อมูลผิดพลาดประการใดอาจมีใช้คำตกหล่นไปบ้างก็ขอให้เพื่อนๆเก็บไปเป็นประโยชน์ในการวางแผนชีวิตในวัยหลังเกษียณตั้งแต่เนิ่นๆนะครับ
Published at
2023-12-04 12:27:54Event JSON
{
"id": "598954892abe0f5bfd5587566b50d69384f7c213f16796ac3f26d9cfe92ea87e",
"pubkey": "993ad837a32830114be94d0e3578619371768ef8b141307ea485781b1ea70a16",
"created_at": 1701692874,
"kind": 1,
"tags": [
[
"t",
"siamstr"
],
[
"t",
"siamstr"
]
],
"content": "GN 🌙 #siamstr \nเรื่องเล่าในวันนี้ เริ่มต้นด้วยผู้เขียน มีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งอายุ 60 ปีจะเกษียณอายุภายในเวลาสิ้นปีนี้ด้วยความที่ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา ลงทุนเวลาไปกับงานอย่างเต็มเวลา ทำให้ไม่มีเวลาไปบริหารจัดการเงินเก็บของเขา\n\nเขาใช้ชีวิตแบบเก็บหอมรอมริบมาตลอดตามภาษาพนักงานเงินเดือน Baby Boomer GEN \n\nปัจจุบันพี่แกเพิ่งเริ่มที่พยายามขวนขวายนำเงินเก็บทั้งชีวิตมาลงทุนในที่ต่างๆ ทั้งหุ้นปันผล สลากออมสิน หรือแม้แต่ปล่อยกู้นอกระบบ\n\nมีครั้งหนึ่งแกพูดกับตัวผู้เขียนว่าเบี้ยเกษียณจากบริษัทจำเป็นต้องเสียภาษี แกจึงหาทางที่จะลดหย่อนภาษีในส่วนนั้น \n\nโดยวิธีการของพี่แกคือไปปรึกษาธนาคารแต่เรื่องราวกลับกลายเป็นว่าธนาคารแห่งนั้นได้เสนอให้พี่แกทำประกันกับทางธนาคารด้วยสัญญาส่งเบี้ยประกันในราคากว่า 100,000 บาทต่อปีเป็นระยะเวลา 5 ปีแล้วตามสัญญาระบุว่า เมื่ออายุครบ 99 ปีจะได้รับสินไหมคืนเป็นเงินจำนวน 650,000 บาท รวมเบี้ยทั้งหมดตลอดระยะเวลา เป็นเงินจำนวน 500,000 บาท โดยมีดอกเบี้ยเพียงแค่ 150,000 บาทต่อ 40 ปี\n\nที่ต้องการแค่ลดหย่อนภาษีลง 100,000 บาทแต่กลับต้องเสียเงินยอดรวมไปแล้วกว่า 500,000 บาทให้กับเงินที่แกไม่รู้ว่าจะได้ใช้หรือไม่ มันดูแปลกประหลาดและย้อนแย้ง\n\nราวกับพี่แกเป็นแกะตัวอ้วนพีที่พร้อมให้ดาสิงสาราสัตว์มากัดกินแย่งชิง...ก้อนเนื้อไขมันที่อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต...\n\nจากที่พี่แกเล่ามาแกไม่ได้หวังว่าต้องการเงินมากมายอะไรแกเพียงหวังเพื่อไม่ให้เป็นภาระของลูกหลานในยามเกษียณ\n\nแต่สิ่งที่แกต้องเจอกลับกลายเป็นว่าราวกลับถูกปล้นเงินเก็บครึ่งชีวิตของแกโดยที่ไม่รู้ประสีประสาเพื่อหวังจะได้ลดหย่อนภาษีจากเบี้ยเกษียณ\n\nเรื่องราวยังไม่จบแค่นั้นบ่อยครั้งพี่แกจะชอบพูดถึงว่าแกใส่เงินลงไปในหุ้นซึ่งให้กำไรเป็นเงินปันผลราวๆ 10-15% ต่อปี โดยที่แกก็ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับตลาดทุนเท่าไหร่นัก\n\nเรื่องนี้ผู้เขียนขอออกตัวก่อนว่าตัวผู้เขียนเองก็ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับตลาดทุน\n\nผู้เขียนเพียงแต่ว่ามองเห็นตัวเลขเงินปันผลที่ค่อนข้างสูงแล้วอดจะเป็นห่วงพี่แกไม่ได้\n\nผู้เขียนเองก็ไม่มีความรู้เพียงพอที่จะไปช่วยเหลืออะไรพี่แกนัก ทำได้แค่เพียงรู้สึกว่าตนเองในอนาคตจะเป็นอย่างไร และรู้สึกเกลียดชังกับระบบการเงินในแบบปัจจุบันเป็นอย่างมาก\n\nพี่แกทำผิดอะไรที่ตั้งใจทำงานอย่างหนักใส่เวลาไปกับสิ่งที่แกมีความเชี่ยวชาญ แต่ในบั้นปลายชีวิตกับไม่สามารถคาดหวังที่จะมีชีวิตแบบไม่ต้องกังวลตลอดจนชีวิตจบลงได้\n\nแกไม่เคยคาดหวังที่จะร่ำรวยมากมายขอเพียงในบั้นปลายไม่ต้องอดมื้อกินมื้อไม่ต้องลำบากลูกหลานให้ต้องเจียดเงินอันน้อยนิดมาเป็นค่าเลี้ยงดูก็เพียงพอแล้ว\n\nเรื่องนี้สอนอะไรกับเรา......?\n\nสุดท้ายนี้ผู้เขียนต้องขออภัยหากข้อมูลผิดพลาดประการใดอาจมีใช้คำตกหล่นไปบ้างก็ขอให้เพื่อนๆเก็บไปเป็นประโยชน์ในการวางแผนชีวิตในวัยหลังเกษียณตั้งแต่เนิ่นๆนะครับ",
"sig": "31c4737409005ba8288b0be6d4e015a80f1f964e550eab3af5ebf7243ccd009b6ea8259b56616d31b4ad9df772a1fd4ac57b9f3df12bf87c35d9f72853035e0e"
}