สวัสดีปีใหม่ครับ
quoting
naddr1qq…que7มีคำกล่าวที่ว่า “นกไม่เห็นฟ้า ปลาไม่เห็นน้ำ หนอนในส้วมไม่เห็นคูถ ไส้เดือนไม่เห็นดิน คนอยู่ในโลกก็ไม่เห็นโลก” นี้หมายความว่า มันมีอะไรที่ลึกลับอยู่ ที่ทำให้นกไม่เห็นฟ้า หรือปลาไม่เห็นน้ำ. ให้ดูเห็นง่ายก็ที่ปลา ปลามันอยู่ในน้ำ น้ำก็ถึงตา มันยังมองไม่เห็นน้ำ ทั้งที่น้ำเป็นสิ่งที่มันปะทะหรือว่าติดกันอยู่เสมอไป. ตั้งแต่เกิดมาก็เป็นอย่างนั้นเสียแล้ว มันก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีน้ำ ปลาจึงไม่รู้ว่าน้ำนั้นคืออะไร โดยแท้จริง. หรือว่าหนอนที่เกิดมาจากอุจาระอยู่แท้ ๆ แต่ก็ไม่เห็นอุจาระ. หรือว่าไส้เดือนอยู่ในดิน มันกินดิน แต่มันก็ไม่เห็นดิน. ทั้งนี้เพราะคำว่า “เห็น” ในที่นี้มีความหมายพิเศษ
คนอยู่ในโลกก็ไม่เห็นโลก คือไม่ได้เห็นความจริงหรือความลับโดยแท้จริงของสิ่งที่เรียกว่า “โลก” มีตามันก็เห็นนั่นเห็นนี่เรือย ๆ ไป แต่ไม่เห็นจริง. ไม่รู้จักโดยแท้จริง มันจึงได้หลงในสิ่งเหล่านั้น. ถ้าเห็นจริงๆก็จะไม่หลงในอะไร. เพราะฉะนั้นอย่าได้ประมาท อย่าได้อวดดี ว่าเรา “เห็น” มันเพียงแต่ว่า สัมผัสตามธรรมดาด้วยตา แล้วรู้สึกไปตามกฎเกณฑ์อย่างธรรมดา ว่ามันมีเท่านั้น ; แต่ที่จริงยังมีอยู่อีกชั้นหนึ่ง คือชั้นลึกซึ้ง.
ทีนี้ เรามาดูกันถึงสิ่งที่เรียกว่า “ชีวิต” ขอให้สังเกตดูให้ดี ๆ ว่า เราต้องใช้คำว่า “สิ่งที่เรียกกันว่า…” สิ่งที่เรียกกันว่านี้ มันเป็นของคนโง่ก็ได้ คือคนโง่มันว่า หรือมันเรียกอะไรเป็นอะไร. แล้วในโลกนี้มีคนโง่มาก หรือมีคนฉลาดมาก ถ้าว่าเป็นคนฉลาด มันก็จะต้องรู้จักทำโลกนี้ให้หมดปัญหา คือไม่มีตวามทุกข์ยากลำบากวุ่นวาย.
เดี๋ยวนี้คนส่วนมาก ก็ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่า “โลก” นี้โดยแท้จริง มันจึงทำไปในลักษณะที่ไม่ถูกต้องตรงตามที่เป็นจริง เราจึงยุ่งกันทั้งโลกอยู่เวลานี้.
คำว่า “ชีวิต” นี้ก็เหมือนกัน มันมีสิ่งที่เรียกว่า “ชีวิต” โดยเฉพาะเด็ก ๆ สมัยนี้ จะใช้คำว่า “ชีวิต” นี้พร่ำเพรื่อ. สมัยปู่ ย่า ตา ยาย คำว่าชีวิตนี้ใช้น้อยที่สุด เป็นความลึกลับเอามาพูดถึงกันน้อยที่สุด. เดี๋ยวนี้หนังสืออ่านเล่นหนังสืออะไรก็มีคำว่า “ชีวิต” ใช้พร่ำเพรื่อ จนเด็ก ๆ เข้าใจไปว่า ตัวเองรู้จักสิ่งที่เรียกว่า “ชีวิต” อย่างแตกฉานทีเดียว. นั่นแหละคือความหลับหูหลับตา สำหรับจะอวดดี.
สิ่งที่เรียกว่าชีวิตนี้มันมีความลึกลับ และยังแถมมีเคล็ดลับที่ซ่อนเร้นอยู่ในนั้นมาก คำว่า “ชีวิต” ของเด็ก ๆ ที่เคยอ่านแต่หนังสืออ่านเล่น มันก็มีความหมายอย่างหนึ่ง คนวัยรุ่นที่เคยแต่อ่านหนังสืออ่านเล่นนั้น จะเข้าใจคำว่า “ชีวิต” ในความหมายไปอย่างหนึ่ง. ต่อเมื่ออายุมากแล้ว เป็นพ่อแม่แล้ว จะรู้จัก “ชีวิต” ในความหมายหนึ่ง ซึ่งจะจริงกว่าหรือถูกกว่าอีกมาก; แต่ก็ยังไม่หมด มันยังเหลือความลับของชีวิตนั้นอีกมาก จนกว่าจะเป็นพระอริยเจ้า หรือว่ามีปัญญาตามแบบของพระอริยเจ้านั่นแหละ จึงจะเห็นสิ่งที่เรียกว่า “ชีวิต” อย่างถูกต้องแท้จริงและถึงที่สุด คือสมบูรณ์ที่สุด.
เพราะฉะนั้น พระอริยเจ้านั้นก็มิใช่ใครอื่นที่ไหน ท่านเป็นเพียงผู้ที่รู้จักโลกตามที่เป็นจริง แล้วก็ไม่หลงโลก ท่านทำให้ชีวิตนี้ไม่มีความทุกข์ ; คนชนิดนี้เรียกว่าพระอริยเจ้า.
แต่เดี๋ยวนี้คนทั่วไปไม่เข้าใจคำว่า “พระอริยเจ้า” จัดไว้เป็นบุคคลที่ลึกลับ เข้าใจไม่ได้ ; หรือว่าจะเป็นบุคคลประเภทที่ไม่พึงปรารถนาด้วยซ้ำไป.
คนวัยรุ่นสมัยนี้จะเข้าใจว่า พระอริยเจ้าเป็นคนหมดความหมาย สำหรับโลก หมดความหมายสำหรับพวกเรา ท่านบ้า ๆ บอ ๆ ครึ ๆ คระ ๆ ไปตามแบบของท่าน. ถ้าใครนึกอยู่อย่างนี้ก็ขอให้นึกเสียใหม่ เพราะว่าการศึกษาอบรมสมัยนี้อาจจะทำให้นึกไปอย่างนั้น จนนึกไปว่าพระอริยเจ้านี้ท่านเป็นคนประหลาด บ้า ๆ บอ ๆ ไปตามแบบของท่าน.
ขอให้เข้าใจเสียใหม่ว่า พระอริยเจ้า นั้นคือบุคคล ที่รู้จักโลกตามที่เป็นจริง และจัดการทุกอย่างถูกต้องหมด จนไม่มีความทุกข์ คือท่านไม่เป็นเหมือนกับ นกไม่เห็นฟ้า ปลาไม่เห็นน้ำ หนอนไม่เห็นคูถอย่างนี้ อีกต่อไป คือไม่เป็นอย่างนี้อีกต่อไป ; จะเป็นผู้ที่รู้สิ่งทั้งหลายทั้งปวงถูกต้องตามที่เป็นจริง.
ด้วยเหตุนี้แหละ เราจึงต้องใช้คำว่า สิ่งที่เรียกว่า “ชีวิต” ไม่ใช้คำว่า “ชีวิต” เฉยๆ เพราะมันเรียกกันได้ตามชอบใจ หลายอย่าง หลายแบบ หลายชั้น หลายลักษณะนัก ดังนั้นจึงขอร้องให้ผู้ที่เป็นครูนั้น รู้จักความลับของสิ่งที่เรียกว่าชีวิต.
ทีนี้ ความลับของสิ่งที่เรียกว่า “ชีวิต” นี้ มันก็ยังมีมากมายอีก ในชั้นนี้เราเอาตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้จะดีกว่า และก็อย่างเดียวกันอีกนั่นแหละ คือว่าพระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้มาก ถ้าเอาพระไตรปิฏกเป็นหลักแล้วมันมากจนเกินกว่าที่ชาวบ้านจะศึกษาไหว หรือจะรวบรวมมาให้หมดได้. เพราะฉะนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการย่อหรือสรุปเอาแต่ใจความมาให้ฟังหรือให้ศึกษากัน.
ตามนัยที่พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้ทั้งหมด ทั้งสิ้นนั้น เราอาจจะสรุปความได้ว่า สิ่งที่เรียกว่า “ชีวิต” นั้น มันมีเคล็ดลับมาก แต่มันก็รวมอยู่ที่ สิ่งที่เรียกว่า ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ช่วยจำคำ ๖ คำนี้ไว้ให้ดี ๆ อย่าหาว่าเป็นคำธรรมดา หรือว่าเป็นเรื่องธรรมดา มันมีความลับอยู่ในนั้นมากมายนัก คือคำว่า ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เราเรียกเป็นภาษาไทยกันดีกว่า ภาษาบาลีชวนให้ยุ่งหัว อยากจะรู้ภาษาบาลีก็ไปดูปทานุกรมเอาเองก็ได้.
สิ่งที่สำคัญที่สุด หรือทั้งหมดของสิ่งที่เรียกว่า “ชีวิต” ก็ตาม หรือของความลับ เคล็ดลับของชีวิตก็ตาม มันสรุปรวมอยู่ที่ สิ่งที่เราเรียกกันว่า ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.
จากหนังสือความลับของชีวิต โดยพุทธทาสอินทปัญโญ