Why Nostr? What is Njump?
2023-12-18 06:07:39

Panai Lawasut on Nostr: หลายๆครั้งพี่ฟังพี่ชิต ...

หลายๆครั้งพี่ฟังพี่ชิต ผมมักจะได้คำตอบในสิ่งที่ผมไม่รู้ตัวว่ากำลังหาอยู่

อย่างในตอนที่สมาทานแนวคิดบิทคอยใหม่ๆ เรารู้สึกสบายใจแปลกๆ เรารู้สึกมีความหวังแบบบอกไม่ถูก เรารู้สึกกล้าลงมือทำในเรื่องที่หลายๆคนมองว่าเสี่ยง

ทุกๆครั้งที่มีคนถาม เราบอกออกมาไม่ได้ว่าไอ้ความรู้สึกรวมๆนี่มันคืออะไร อะไรทำให้เรามีความรู้สึกแบบนั้น อะไรทำให้เรา take action แบบนั้น ผมทำได้แต่อธิบายปรัชญาของบิทคอยที่พูดยังไงก็ไม่หมด และสุดท้ายก็ไม่มีคนฟัง

มันเป็นแบบนั้นมาตลอด จนได้ฟังรายการ alt tab ep.ของพี่ชิต เมื่อปีที่แล้ว

พี่ชิตบอกว่า “บิทคอยทำให้พี่ชิตรู้สึก secure”

ประโยคสั้นๆแค่นี้แหละ มันเหมือนพาผมไปพบกับโมเมนต์บรรลุธรรม มันอธิบายที่มาที่ไปของความรู้สึกในใจได้ อธิบายเหตุผลของหลายๆสิ่งที่เรา take action ได้

และมันยังเป็นหลักยึดของสิ่งที่เราจะทำต่อไปในอนาคตได้อีกด้วย

ไลฟ์ยาม่วงวันก่อนก็เช่นกัน มันพาผมไปโมเมนต์แบบนั้นอีกแล้ว…

ผมคงมิอาจจะไปขยายความสิ่งชิตพูดในไลฟ์ แต่หลายๆ quote ของพี่ชิตวันนั้นมันพาความคิดผมดำดิ่งไปในหลายมิติมากๆ ผมอยากจะขอเล่าความคิดที่มันฟุ้งอยู่ในหัว ที่ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียบเรียงมันออกมาได้หรือไม่ และผมก็ไม่แน่ใจด้วยว่ามันตรงกับสิ่งที่พี่ชิตพยามอธิบายพวกเรามั้ย

“คนส่วนใหญ่มักแยกไม่ออกว่าสิ่งที่เรากำลังพูดถึงมันอยู่ในเลเยอร์ไหน”

แค่วลีนี้จากโพสใน FB ของพี่ชิตก็พาสติผมหลุดออกจากไลฟ์ไปแล้ว มันได้คำตอบทันทีว่าทุกๆเรื่องที่เราถกเถียงกัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ ความสัมพันธ์ ทำไมมันถึงไม่มีวันแก้จบ

ก็เพราะทุกๆเรื่องมันไม่ได้อยู่บนเลเยอร์ foundation งั้นสินะ และเราก็รู้กันดีอยู่แล้วถ้าค่อยๆแกะไอ้ปัญหาต่างๆที่อยู่บนเลเยอร์ที่ซ้อนทับกันลงไปเลยเรื่อยๆ จนเจอ foundation ของ โดเมนนี้ เราจะเจอว่าเงินคือพื้นฐานของปัญหาทั้งหมด

เรื่องนี้ช่วยอธิบายความของคำว่า “fix the money fix the world” ได้เลย

จริงๆ bitcoiner เราเข้าใจเรื่องนี่กันดีอยู่แล้ว แต่ความเข้าใจเรื่อง foundation และเลเยอร์ต่างๆที่ built on ที่พี่ชิตเล่าให้ฟังนี้ มันช่วยจัดเรียง mind map ให้เรา มันทำให้เราต้องคอยมองย้อนกลับไปในทุกๆ action ของเรา ว่ามันอยู่บนเลเยอร์ foundation มั้ย

แต่ผมเองยังคิดต่อไปอีกว่า จริงๆถ้าแกะเลเยอร์ของเงินลงไปอีก ก็คงจะพบว่า”เงิน”ก็เป็นเลเยอร์ที่ build on “foundation ความเป็นมนุษย์”

วินาทีนั้นโมเมนต์บรรลุธรรมผมมาอีกแล้ว

มนุษย์ขับเคลื่อนด้วยกิเลสเป็นหลัก ทุกๆการกระทำ และทุกๆความต้องการของเรา มีแต่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งสิ้น

ถ้าจะ build เลเยอร์อะไรขึ้นมาต่อจาก foundation ความเป็นมนุษย์อันนี้
“เราเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง rely on กิเลสของมนุษย์”

สิ่งนี้ตอบคำถามว่า
ทำไมเศรษฐศาสตร์แบบออสเตรียนถึงเป็นคำตอบของระบบเศรษฐกิจ ทำไมถึงมีมือที่มองไม่เห็น ทำไม game theory ถึงได้ผลอยู่วันยันค่ำ

และ”ทำไมซาโตชิถึงคิดบิทคอยน์ขึ้นมาจากอัลกอริทึมที่เรียกว่ามนุษย์”

ในระดับบุคคลตัวเล็กๆอย่างเราปรัชญาเรื่องนี้ก็มีประโยชน์มากเช่นกัน มันทำให้ถามตัวเองว่างานที่เราทำอยู่ ธุรกิจของเรามัน rely on อะไร ใช่กิเลสของมนุษย์มั้ย ถ้าจะพูดให้มันสวยๆหน่อยคงต้องพูดว่า สิ่งที่เราทำอยู่มันสร้างคุณค่าให้กับคนอื่นมั้ย

ในไลฟ์พี่ชิตพูดถึง “พวกเราต้องเตรียมตัวสำหรับการ change” เพราะหลายๆสิ่งตอนนี้ ถูกสร้างขึ้นบนเลเยอร์ของเงินที่ไม่มั่นคง
วันที่มันเปลี่ยน เราต้องเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง

การมีบิทคอยน์ก็เรื่องนึง แต่การที่เราจะใช้ชีวิตต่อไปได้ การที่กิจการของเราจะดำรงอยู่ได้ หรือแม้แต่ POW ของเราที่ส่งต่อไปให้ลูกหลานจะถูกสานต่อไปได้ มันจำเป็นต้องกลับมาพิจารณา ว่าสิ่งที่เราทำไปนั้นมันอยู่บนเลเยอร์รากฐานของความเป็นมนุษย์มั้ย สิ่งที่เราทำมันจะมีคุณค่าจนคนยังจะต้องการอยู่มั้ยในวันที่โลกเปลี่ยน

ถ้าสิ่งที่คุณทำอยู่มันยังแค่ rely on เลเยอร์ของเงินเท่านั้น คุณจำเป็นต้องพิจารณาอย่างหนักแล้ว ถ้าสิ่งที่คุณทำยังเป็นการเล่นแร่แปลธาตุบนสินค้าการเงินทุกรูปแบบ หรือพวกงานฉาบฉวยทุกประเภท ผมเชียร์ให้คุณคิดให้หนักในเรื่องนี้ว่ามันจะมีคุณค่าสำหรับคนอื่นจริงๆมั้ยในวันที่โลกเปลี่ยน

ในขณะที่ความคิดในหัวผมกำลังฟุ้งกระจาย พี่ชิตพูดในไลฟ์ว่า

“เราไม่สามารถ build on บนสิ่งที่ entropy ไม่ต่ำได้”

พระเจ้า..!! เหมือนมีใครจับก้อนความคิดที่กระจัดกระเจิงของผมมามัดรวมเป็นก้อนเดียว ความรู้ความเข้าใจผมถูกจับมาเรียงร้อยให้สอดคล้องกันไปหมดด้วยประโยคนี้

ผมถึงกับต้องหยุดคลิปไว้ก่อนแล้วมานั่งคิดทบทวนกับตัวเอง

- Entropy ของระบบปิดมีแนวโน้มที่จะคงที่ หรือเพิ่มขึ้นเท่านั้น..
- เราไม่สามารถลด entropy ลงได้ ถ้าไม่มีการใส่พลังงานลงไป จะทำให้ entropy ลดลงตัองใส่ work ลงไปเท่านั้น
- เราจะทำให้สิ่งที่เราสร้างยั่งยืนได้ ต้องเริ่มสร้างบน entropy ที่ต่ำที่สุด
- ต้องหาทางลด entropy ให้มากที่สุด ก่อนจะ build สิ่งใดๆ
- คำจำกัดความของ entropy คือ “มาตรวัดความไม่รู้ของผู้สังเกตการณ”
- POW ทำให้เกิดงานและความรู้
- POW ทำให้ความรู้ตกผลึก มันจะมีอะไร entropy ต่ำเท่าสะสารที่ตกผลึกแล้ว
- ความรู้คือพลังงาน
(ขออภัย ผมเรียบเรียงสิ่งที่อยู่ในหัวออกมาเป็นประโยคสวยๆไม่ได้จริงๆ)

สิ่งนี้ตอบคำถามว่าทำไมเราจำเป็นต้องสร้าง POW ให้ถึงขั้นต่ำก่อนถึงจะเริ่ม build สิ่งใดๆขึ้นต่อไปได้

แล้วเราจำเป็นต้อง คิดให้หนักด้วยว่า POW ของเรา buil on foundation ไหน

ความคิดผมยังพาไปอีกว่า มนุษย์นั้นใช่เลเยอร์ foundation หรือยัง

ซึ่งจริงๆมนความคิดผม มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็เป็นเพียงเครื่องมือในการดำรงอยู่ของบรรดาเครือข่ายไมซีเลียมเท่านั้นนี่นา

พอความคิดผมมาถึงจุดนี้ ก็เริ่มรู้สึกตัวได้ว่า เรานี่ชักจะฟุ้งซ่านไปกันใหญ่แล้วนะ

ว่าแล้วผมก็เปิดฟังไลฟ์ยาม่วงพี่ชิตต่อไป

#siamstr

////////////////
ปล. เฉพาะ topic แรกในไลฟ์ ผมเองก็ไม่สามารถ เล่าสิ่งที่เกิดในหัวได้ทั้งหมดแล้ว นี่ยังไม่ได้รวมถึงเรื่องธรรมมะที่หัวข้อนี้ก็พาผมไปตกผลึกด้วย
ปล.2 ใครมาอ่านทีหลังหลายๆเดือน อาจไม่รู้ว่าเรากำลังคุยเรื่องไลฟ์อะไรกัน ขอฝากลิ้งค์ไว้ ขอบคุณ เซิร์ฟเวอร์จารย์อาร์ม
Nostrudel: https://w3.do/h2LirWPe
Wherostr: https://w3.do/giOJjuOb
ปล.3 ลิ้งค์ Witcast เรื่อง Entropy อันนี้เปิดโลกและสนุกมาก
https://www.youtube.com/live/CleSpBe5jqk?si=F6bF8yVIx3vEH90t
Author Public Key
npub1jalt2rsvr9nhd7e84yp8pmzytxmcptp8u20tp5wnx4dcr8xf8resze0yfp