TungKukk on Nostr: Why I turn myself to Traditional Way. ...
Why I turn myself to Traditional Way.
ผมจะเล่าท้าวความก่อนว่าผมชอบหนทางแห่งการเอาชนะ มากๆ มากกว่าการนั่งฟังหรือนั่งอ่านอะไรที่มันขัดหู ขัดตา
ในทางการเมืองนั้นเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราชื่นชอบความยุติธรรม ความเสมอภาค ความเท่าเทียม ซึ่งในทางเศรษฐกิจนั้นความเท่าเทียมแสดงให้เราเห็นถึงสัจธรรมที่แท้จริงว่าเราไม่สามารถจัดการสิทธิเสรีภาพให้มันเข้ารูปเข้ารอยได้อย่างนั้น
นั่นนำมาถึงการปฏิเสธความเสมอภาค ในทางสังคม
ทำไมเวลาดาราไปเที่ยว พวกเค้าจึงสามารถใช้ สิทธิประโยชน์จากชื่อเสียงในการแลกมาด้วยสิทธิพิเศษในบางครั้ง เพราะมันเกิดจากอรรถประโยชน์ที่ผู้ให้จะได้หลังจากกระทำลงไปยังไงหละครับ หรือ จากการแลกเปลี่ยนคุณค่าบางอย่าง ในสิ่งที่จิตใต้สำนึกเราพอรับรู้ได้
เมื่อไร้ซึ่งความเสมอภาค เราก็จะพบว่าฉันทามติทางความยุติธรรมนั้นจะเริ่มต้นจากผู้ปกครองเสมอ ซึ่งเป็นกาาตัดสินจากบนลงล่าง ไม่มีทางที่ผู้ต่ำต้อยจะสามารถตัดสินความยุติธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นั่นนำมาสู่ถึงหลักการของการกำเนิดชนชั้น ศีลธรรมระดับล่างและระดับบน รวมถึงความเชื่อแลกกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมา จากโมเลกุลเล็กๆจนถึงการปกครอง
เมื่อการเชื่อในเรื่องของชนชั้นเกิดขึ้น มันจึงเป็นการปฏิเสธเรื่องของเสรีภาพอย่างเสมอภาคไปในตัว เพราะลำดับขั้นคือความหมายที่แท้จริงของสังคมมนุษย์ เช่นเดียวกับสัตว์ล้านปีอย่าง Lobster
เมื่อคุณพบเหตุผลท่ามกลางการสร้างคุณค่าทางสังคมมนุษย์ งานศิลปะก็ดูเป็นเรื่องที่ง่ายดายที่จะมอง การสร้างสรรค์ที่ไม่ได้เกิดจากความว่างเปล่า รวดลายและความเป็นที่บรรจุอยู่ในเครื่องปั้น รูปภาพฝาผนัง แม้แต่งานภาพศิลปะ ก็สมควรอย่างยิ่งในการอนุรักษ์ไว้
ความเชื่อที่สำคัญอีกสิ่งอย่างคือการแสดงความเป็นเจ้าของ หากท่านค้นพบว่าพื้นที่ ที่ตัวเองอยู่มันสามารถดึงดูดจิตวิญญาณ มิใช่เพียงความทรงจำ หรือกระทั่งเรียกร้องให้ถวิลหา มันมากกว่าหลักการทางเศรษฐศาสตร์ หรือ สมมุติฐานทางเศรษฐศาสตร์ก็เป็นเพียงการแสดงทางเหตุผลซึ่งนำมาซึ่งการได้มาของท่านด้วย ดังนั้นเศรษฐศาสตร์ออสเตรียนถ้าคุณเพ่งมองลงไปลึกๆจะมีความเชื่อบางอย่างในอาจารย์หัวรุนแรงอย่างมิเซส หรือ รอดบาร์ด มากกว่า อาจารย์ที่เน้นความเป็นการแสดงถึงอย่างฮาเย็ก หรือ สมิท
ดังนั้นเศรษฐศาสตร์จึงมิใช่ทุกอย่างแต่เป็นเพียงหลักการของอธิบายการจัดสรรค์ได้อย่างเข้าใจทรัพยากรณ์มิใช่จิตวิญญาณ
เมื่อเราสืบค้นลงไปในรากลึกทุกอย่างจะมีความสัมพันธ์กันทางความหมายหรือสิ่งใดบางอย่าง โดยค้นพบว่าจิตวิญญาณของทรัพย์สิ่งนั้นเป็นของเรา และเราจะยอมแลกทั้งเลือดเนื้อแรงกายแรงใจเพื่อให้ได้มันมา
รากฐานดั้งเดิมภายในใต้มโนสำนึกหยั่งรากลึกถึงความเป็นที่ส่งออกมาจากบรรพกาลนั้นน่าค้นหามากๆ และมันน่าสนใจกว่าเสรีภาพที่นำไปสู่ความว่างเปล่า เพืื่อตายลงตามศาสนาอันอ่อนแอที่ถือกำเนิดขึ้น
Published at
2024-08-17 00:53:07Event JSON
{
"id": "761faac085a74599fe87a27fba0cadabdfa4afa6b78ae03f5e0dc545cb513f06",
"pubkey": "c9f3103344d3fb65cba9064be6fd762e86993b9964c9cfbececedd841f62d71e",
"created_at": 1723855987,
"kind": 1,
"tags": [],
"content": "Why I turn myself to Traditional Way. \n\nผมจะเล่าท้าวความก่อนว่าผมชอบหนทางแห่งการเอาชนะ มากๆ มากกว่าการนั่งฟังหรือนั่งอ่านอะไรที่มันขัดหู ขัดตา\n\nในทางการเมืองนั้นเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราชื่นชอบความยุติธรรม ความเสมอภาค ความเท่าเทียม ซึ่งในทางเศรษฐกิจนั้นความเท่าเทียมแสดงให้เราเห็นถึงสัจธรรมที่แท้จริงว่าเราไม่สามารถจัดการสิทธิเสรีภาพให้มันเข้ารูปเข้ารอยได้อย่างนั้น\n\nนั่นนำมาถึงการปฏิเสธความเสมอภาค ในทางสังคม\n\nทำไมเวลาดาราไปเที่ยว พวกเค้าจึงสามารถใช้ สิทธิประโยชน์จากชื่อเสียงในการแลกมาด้วยสิทธิพิเศษในบางครั้ง เพราะมันเกิดจากอรรถประโยชน์ที่ผู้ให้จะได้หลังจากกระทำลงไปยังไงหละครับ หรือ จากการแลกเปลี่ยนคุณค่าบางอย่าง ในสิ่งที่จิตใต้สำนึกเราพอรับรู้ได้\n\nเมื่อไร้ซึ่งความเสมอภาค เราก็จะพบว่าฉันทามติทางความยุติธรรมนั้นจะเริ่มต้นจากผู้ปกครองเสมอ ซึ่งเป็นกาาตัดสินจากบนลงล่าง ไม่มีทางที่ผู้ต่ำต้อยจะสามารถตัดสินความยุติธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ \n\nนั่นนำมาสู่ถึงหลักการของการกำเนิดชนชั้น ศีลธรรมระดับล่างและระดับบน รวมถึงความเชื่อแลกกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมา จากโมเลกุลเล็กๆจนถึงการปกครอง \n\nเมื่อการเชื่อในเรื่องของชนชั้นเกิดขึ้น มันจึงเป็นการปฏิเสธเรื่องของเสรีภาพอย่างเสมอภาคไปในตัว เพราะลำดับขั้นคือความหมายที่แท้จริงของสังคมมนุษย์ เช่นเดียวกับสัตว์ล้านปีอย่าง Lobster \n\nเมื่อคุณพบเหตุผลท่ามกลางการสร้างคุณค่าทางสังคมมนุษย์ งานศิลปะก็ดูเป็นเรื่องที่ง่ายดายที่จะมอง การสร้างสรรค์ที่ไม่ได้เกิดจากความว่างเปล่า รวดลายและความเป็นที่บรรจุอยู่ในเครื่องปั้น รูปภาพฝาผนัง แม้แต่งานภาพศิลปะ ก็สมควรอย่างยิ่งในการอนุรักษ์ไว้ \n\nความเชื่อที่สำคัญอีกสิ่งอย่างคือการแสดงความเป็นเจ้าของ หากท่านค้นพบว่าพื้นที่ ที่ตัวเองอยู่มันสามารถดึงดูดจิตวิญญาณ มิใช่เพียงความทรงจำ หรือกระทั่งเรียกร้องให้ถวิลหา มันมากกว่าหลักการทางเศรษฐศาสตร์ หรือ สมมุติฐานทางเศรษฐศาสตร์ก็เป็นเพียงการแสดงทางเหตุผลซึ่งนำมาซึ่งการได้มาของท่านด้วย ดังนั้นเศรษฐศาสตร์ออสเตรียนถ้าคุณเพ่งมองลงไปลึกๆจะมีความเชื่อบางอย่างในอาจารย์หัวรุนแรงอย่างมิเซส หรือ รอดบาร์ด มากกว่า อาจารย์ที่เน้นความเป็นการแสดงถึงอย่างฮาเย็ก หรือ สมิท \n\nดังนั้นเศรษฐศาสตร์จึงมิใช่ทุกอย่างแต่เป็นเพียงหลักการของอธิบายการจัดสรรค์ได้อย่างเข้าใจทรัพยากรณ์มิใช่จิตวิญญาณ \n\nเมื่อเราสืบค้นลงไปในรากลึกทุกอย่างจะมีความสัมพันธ์กันทางความหมายหรือสิ่งใดบางอย่าง โดยค้นพบว่าจิตวิญญาณของทรัพย์สิ่งนั้นเป็นของเรา และเราจะยอมแลกทั้งเลือดเนื้อแรงกายแรงใจเพื่อให้ได้มันมา \n\nรากฐานดั้งเดิมภายในใต้มโนสำนึกหยั่งรากลึกถึงความเป็นที่ส่งออกมาจากบรรพกาลนั้นน่าค้นหามากๆ และมันน่าสนใจกว่าเสรีภาพที่นำไปสู่ความว่างเปล่า เพืื่อตายลงตามศาสนาอันอ่อนแอที่ถือกำเนิดขึ้น",
"sig": "71cb2089d62e728ed6dd39c579784742fc2bd35a9ff21f72d3a082010081c8226cb5889cec0ed2cc51a89003cfeeb74790a2e77373603b548c00dce1ea8c9479"
}