
สำหรับไคลเอนท์อื่นที่ไม่ใช่ #Amethyst
คลิกอ่านได้ที่
🦘#YakiHonne https://w3.do/58HZDdzx
🦘#Habla https://w3.do/z4J0D5KO
หลายคนน่าจะผ่านตาคุ้นหูกับภาพยนตร์ดังอย่าง Joker เมื่อปี 2019 ที่ส่งดารานำชาย วาคิน ฟินิกซ์คว้าออสการ์สาขานักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ในปีถัดมา ส่วนตัวหลังจากดูหนังเรื่องนี้มีความรู้สึกผสมปนเปกัน ส่วนหนึ่งชอบการแสดงของทีมดาราในเรื่อง ชอบเทคนิคการวางเฟรมภาพและการใช้ดนตรีประกอบที่ขับอารมณ์ซีนต่าง ๆ ได้ดี
แต่ที่ตงิดใจคือเนื้อหามันไปไม่ถึงอย่างที่เราหวัง เพราะนี่คือหนังเล่าต้นกำเนิดของวายร้ายเบอร์หนึ่งในจักรวาลแบตแมน ทำไมถึงเป็นแค่นักแสดงตลกหนุ่มจิตป่วยขี้เหงาขี้แพ้คนนึงที่ลุกขึ้นมาก่ออาชญากรรม ที่สร้างแรงบันดาลใจให้โจรทั้งเมืองลุกมาก่อจลาจล
คือดูแล้วผมนึกถึงหนังอย่าง Taxi Driver ของปู่มาร์ติน สกอร์เซซี่ขึ้นมาทันที แถมโรเบิร์ต เดอ นีโรที่เล่น Joker ก็คือดารานำของหนังปี 1976 นี้อีกต่างหาก (หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวจัด ๆ เลยล่ะ)
ผมเคยดูเรื่องนี้ตั้งแต่ยังเด็ก ต้องยอมรับตรง ๆ เลยว่าหนังไม่สนุก ไม่ใช่เพราะหนังไม่ดี แต่เพราะวัยและประสบการณ์ยังไม่เพียงพอที่จะเพลิดเพลินกับผลงานแบบนี้ได้
หน้าหนังเรียบง่ายแบบแบบฉบับหนังยุค 70s เมื่อ “ทราวิส” หนุ่มนาวิกโยธินปลดประจำการจากสงครามเวียดนามกลับสู่มาตุภูมิที่นิวยอร์ก เขากลายเป็นคนแปลกแยกจากสังคม ไม่มีเพื่อน ไม่มีงาน และป่วยเป็นโรคนอนไม่หลับ ก็เลยตัดสินใจสมัครเป็นคนขับแท็กซี่กะดึกแก้เหงา ก่อนชีวิตจะพาให้ไปเจอผู้หญิงสองคนที่ทำให้ชีวิตเขาพลิกผันถึงขึ้นลงมือทำเรื่องรุนแรงป่าเถื่อนในตอนท้าย
ผู้กำกับสกอร์เซซี่ยืนยันหนักแน่นว่านักวิจารณ์หลายคนพูดผิดที่บอกว่าเรื่องนี้ขับเน้นความเป็นชายอย่างสุดโต่ง เพราะโดยเนื้อแท้มันคือหนังเฟมินิสต์ที่ยกย่องผู้ไปสุดโต่ง โดยหญิงคนแรกที่ทราวิสเจออย่าง “เบ็ตซี” นั้นคือเทพธิดาผู้บริสุทธิ์ มีจุดมุ่งหมายอันสูงส่งในการเปลี่ยนสังคมให้ดีขึ้น ผ่านการทำงานเป็นเลขาฯ ในแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่
ส่วนหญิงคนที่สองอย่าง “ไอริส” คือผู้หญิงหลงผิดติดบ่วงกามที่แมงดาสารเลวหลอกใช้เธอเป็นเครื่องมือทำเงินไปวัน ๆ
และทั้งสองคนนี้ต้องได้รับการช่วยเหลือออกจากหลุมพรางที่พวกเธอกำลังติดกับ!
เมื่องานประจำทุกค่ำคืนของทราวิสกลายเป็นแค่เรื่องฆ่าเวลา และบ้านเมืองอันโสมมยามดึกดื่นทำให้ประสาทของเขาตึงเขม็ง ทราวิสค่อย ๆ มีพฤติกรรมผิดเพี้ยนมากขึ้น เขาออกกำลังกายเป็นบ้าเป็นหลัง แต่กินเหล้าแทบทั้งวัน ติดยาระงับปวด เริ่มสะสมปืนเถื่อน หัดยิงปืน หัดใช้มีดพก ออกแบบเสื้อผ้าที่ซ่อนอาวุธไว้ตามจุดต่าง ๆ ในร่างกายได้อย่างแนบเนียน
เขาฝึกฝนอยู่นานจนพร้อมสำหรับภารกิจปลดแอดหญิงสาวที่เขาบูชาทั้งสองแล้ว
ผมจะไม่สปอยล์หนังไปมากกว่านี้นะครับ สำหรับใครที่สนใจอยากชม รู้สึกจะพอหาได้ทั้งทางธรรมดาและธรรมชาติ ค้นหากันได้ไม่ยาก
แต่ประเด็นที่น่าถกเถียงกันต่อจากปากคำของผู้กำกับก็คือประเด็นเฟมินิสต์ เพราะทั้งสองตัวละครหญิงในเรื่องต่างก็ติดกับดักการ “สภามิภักดิ์” ต่ออำนาจบางอย่าง เบ็ตซี่นั้นติดกับในวังวนหญิงแกร่งบ้างานที่โดยเนื้อแท้เป็นแค่เบี้ยตัวนึงในเกมการเมือง ในขณะที่ไอริสนั้นติดกับดักที่ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงหลายต่อหลายคนเลือกจะเป็น นั่นคือการใช้เรือนร่างแลกเงินตราและเรียกร้องความสนใจจากผู้ชาย
ในขณะที่ทราวิสเองคลุ้มคลั่งสติเสียจากงานที่ไร้ความหมาย จนอุปโลกน์ “คุณค่า” ปลอม ๆ ให้ตัวเอง ด้วยการเป็นผู้ปลกแอดหญิงสาวจากอำนาจกดขี่เหล่านั้น
นี่น่าตระหนกคือในตอนท้ายของเรื่อง ความรุนแรงที่เขาเลือกก่อเพื่อสร้างมอบความหมายให้กับชีวิตที่ว่างเปล่าของตนเอง กลับสร้างแรงกระเพื่อมให้สังคมได้คล้าย ๆ กรณีที่เคยเกิดขึ้นจริงกับอาชญกรรมหลายคดีที่กลายเป็นแบบอย่างให้คนเปลี่ยนพฤติกรรม หรือแม้แต่เกิดอาชญากรรมเลียนแบบเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่
หนังอาจจะมีภาพที่รุนแรง ไม่เหมาะสำหรับเด็กดู (แต่ผมเสือกดูตั้งแต่เด็ก 5555) แต่ด้วยการถ่ายทำที่ประณีต ทุกภาพทุกซีนในเรื่องโดดเด่น นักแสดงทุกคนเล่นได้เข้าขาลงตัว แถมมีดนตรีประกอบเลิศรสที่แทบจะเป็นอีกตัวละครสำคัญของเรื่องไปเลยด้วยซ้ำ
ถ้าคุณไม่ได้มองหนังแค่ในฐานะ “ความบันเทิง” และอยากมองมันในแง่ “cinematography” ดูบ้าง Taxi Driver อาจจะเป็นประตูก้าวแรกให้คุณค้นพบโลกใหม่ของการรับชมภาพยนตร์ครับ
คะแนนความชอบ : 8⁄10
#siamstr #moviereview #movie #movies