nuishow on Nostr: ฟังสัมภาษณ์เรื่อง A380 ...
ฟังสัมภาษณ์เรื่อง A380 ของการบินไทย ไม่พร้อมถูกนำกลับมาบินไปรับคนไทยในอิสราเอล เหตุเพราะจอดตากแดดไว้นานมากที่อู่ตะเภา
การจะกู้คืนมาขับใช้ จะเกิดค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่ที่สำคัญกว่านั้นมากคือต้องใช้เวลา
ไฟลต์ล่าสุดที่ผมกลับจากสิงคโปร์ เผอิญผมได้สนทนาเรื่องนี้พอดีกับลูกเรือการบินไทยที่แสนอบอุ่น (…จนร้อน)
เป็นการสนทนาเผ็ดร้อนก่อนเกิดเหตุสงครามในอิสราเอลนะ เราไม่ได้รู้อะไรล่วงหน้า
แต่พอรู้แล้วก็ตอบคำถามจากข่าวคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะ รมต. คมนาคม ที่ให้ข่าววานนี้ว่า A380 ยังถูกนำออกมาใช้ไม่ได้ …เหตุจอดทิ้งไว้นาน (รอการขาย)
… การจะฟื้นคืนนั้นนาน และต้องควานหาตัวกัปตัน และฟื้นฟูทักษะการบิน …ต้องต่อไลเซนส์ สะสมชั่วโมงบินกันใหม่ (ใครขับได้บอกด้วย)
แต่เมื่อต้องอพยพคนไทยจำนวนมากในบริเวณฉนวนกาซา ความใหญ่โตของ A380 ที่จุได้ถึง 500 ที่นั่ง จึงถูกถามถึงความสามารถในการนำไปรับคนไทยแทนลำเล็กกว่าที่ใช้กันอยู่ (เวลานี้จึงทำได้เพียง “ทะยอยนำกลับ”)
กองทัพอากาศไทยใช้ A340-500 สเปกจุได้ราว 270-310 ที่นั่ง (ข้อมูลระบุไว้แบบนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการจัดเรียงเก้าอี้ของกองทัพอากาศ) แต่นำไปรับกลับมาได้ 130 คนในรอบแรก มีแผนจะจัดเครื่องบินไปรับกลับ 6 รอบ (ขาไป ต้องตีเครื่องเปล่า)
ยุคนี้มีข้อมูลให้สืบค้นได้เยอะ ขนาด ทอ. บินอ้อม คนยังรู้เลย (แอป FlightRadar™️ นี่บอกหมด ! บินไปย้งไง ?) ทอ. ใช้เวลาไป 12 ชม. ปกติต้อง 9 ชม. เซ่ ! คนเห็นฟ้อง
โฆษกกระทรวงต่างประเทศต้องออกมาแจงว่าอ้อมเพราะไม่มีสัมพันธ์ทางการทูตกับบางประเทศแถบนั้น
เรามีคนไทยตกค้างอยู่ในอิสราเอลถึง 25,962 คน (19% ของจำนวนแรงงานไทยในต่างประเทศทั้งหมด) ขนกลับกันได้ทีละไม่มาก ต้องตั้งคำถามต่อว่า อีกกี่เที่ยวบินถึงจะเพียงพอ ต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ และ …“จะทันไหม ?” เพราะชีวิตคนประเมินมูลค่าไม่ได้
สายการบินพาณิชย์หลายสายที่นายกรัฐมนตรีประสานไป ก็แถลงความร่วมมือดี ตีรวม ๆ แล้วเราจะได้ 24 เที่ยวบิน (รวมการบินไทยด้วย) …แต่สเปกเครื่องบินเขาก็ไม่ใหญ่โตพอจะรับกลับได้ครั้งละมาก ๆ เหมือน A380
ซึ่งหากได้ ก็ต้องวางแผนนัดรวบรวมคนให้ดี ๆ เพราะการเข้าถึงจุดจอดเครื่องบิน ของผู้อพยพก็คงยากลำบากเช่นกันในเวลานี้ …
จินตนาการภาพคงคล้ายหนังที่ต้องค่อย ๆ ย่องมาทีละมุมตึก ปรักหักพัง
แต่ KeyPoint ที่ผมจะชวนผู้ประกอบการและคนทำงานคุยกันวันนี้คือ ”การเก็บของอย่างมีประสิทธิภาพ“
ข้อมูลจากลูกเรือการบินไทยที่คุยกับผมคือ เขาเสียดายที่ A380 หลายลำที่รอการขาย ไม่ได้ถูกนำไปจอดในภูมิศาสตร์แนะนำคือ “ออสเตรเลีย” ที่เป็นทะเลทราย อากาศแห้ง และสำคัญคืออากาศคงที่
เหตุเพราะอากาศสวิงสวายร้อนชื้นแบบบ้านเราทำให้เบาะและเครื่องมือต่าง ๆ เสื่อมสภาพ
…ของแบบนี้แปลกนะ หากมึคนนั่งขยับไปมา ไม่ยักกะเป็นไร แต่พอไร้คนนั่ง คนสัมผัสมัน มันเสื่อม
ใครมีประสบการณ์ปิดห้องไว้นาน ๆ ก็จะรู้ว่า เก้าอ้ง เก้าอี้ โต๊ะตั่ง เบาะเบอะ มัน “กรอบ” หมด
ถ้าเป็นขนมอบกรอบก็คงขายได้ แต่พออุปกรณ์กรอบนี่ สินค้าเสื่อมราคาทันที ขายไม่ได้แล้ว
ผมได้สนทนากับนักธุรกิจใหญ่ท่านหนึ่ง ท่านกรุณาคิดให้ว่าผมจะหายอดขายใหม่ให้บริษัทได้จากอะไร … เขาคิดให้ผมอย่างจริงจังแล้วตอบว่า “คุณหนุ่ยก็ต้องขายของโดยไม่มีสต๊อกสิครับ”
ค่าเก็บรักษาของนี่โหดมาก … จะต่อว่าการบินไทยว่าทำไมไม่เอา A380 หลาย ๆ ลำที่รอการขาย บินไปจอดไว้ออสเตรเลีย จะได้ไม่เสื่อมสภาพ … ก็ต้องตอบแบบเห็นอกเห็นใจว่า “ก็ค่าจอดออสเตรเลียมันแพงกว่าอู่ตะเภาเรานิ !“
แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องบวกลบคูณหาร หาจุดคุ้มค่า
ระหว่าง …จอดถูก แต่ของพังบ่นปี้ vs. จอดแพง แต่ของน่าจะยังดีอยู่ (โดยทฤษฎี) vs. ขายมันออกไปถูก ๆ ให้พ้น ๆ ตัว แต่หยุดค่าใช้จ่ายได้ทันที
เรื่องนี้ลองเทียบกับใจเราก็ได้นะ
เวลาใครเขาต่อราคาของเหลือใช้เรา เราไม่ชอบเลขราคาที่เขาต่อเลย (เพราะมัวไปเทียบกับราคาของใหม่ตอนซื้อมา) เราก็เลยพาลเก็บไว้ไม่ขายเอาดื้อ ๆ
วัน เดือน ปี หมุนเปลี่ยนผ่าน Time Fly เร็วจะตาย ! ของเหลือใช้นั้นกลายเป็นของเน่าเสีย … มานั่งเสียดาย กำขี้ดีกว่ากำตดเสียแล้ว
ขายทิ้งเมื่อไม่ต้องการใช้แบบไม่ได้ราคา ดีกว่าเก็บดองไว้ให้ไหมันแตกเสียหาย ขายไม่ได้เลย แถมมีค่าเก็บไว้ที่วิ่งไม่หยุด ! เจอแบบนี้นี่เซ็งสุด …
เอวัง…
================
เริ่มเขียนบันทึกตั้งแต่เช้า และเก็บเล็กผสมน้อยเขียนมาตลอดวัน แต่การงานวันนี้เยอะ มาเลยสรุปจบเอาก่อนนอน ง่วงแล้ว สรุปจบไม่ดีเท่าไหร่ ไม่มีโซลูชัน ….
ขอใช้คำว่า ”เอวัง ด้วยประการฉะนี้“ แล้วกัน
Published at
2023-10-18 06:58:35Event JSON
{
"id": "f5d2c7368b504d3d9491c47addab064865bc2e37d2707c94df85f3a7e64b4690",
"pubkey": "411ddf2569a47c321d4bdb1609bd73ab00ea6bd713148e1bce20c892c7452cae",
"created_at": 1697612315,
"kind": 1,
"tags": [],
"content": "ฟังสัมภาษณ์เรื่อง A380 ของการบินไทย ไม่พร้อมถูกนำกลับมาบินไปรับคนไทยในอิสราเอล เหตุเพราะจอดตากแดดไว้นานมากที่อู่ตะเภา \n\nการจะกู้คืนมาขับใช้ จะเกิดค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่ที่สำคัญกว่านั้นมากคือต้องใช้เวลา \n\nไฟลต์ล่าสุดที่ผมกลับจากสิงคโปร์ เผอิญผมได้สนทนาเรื่องนี้พอดีกับลูกเรือการบินไทยที่แสนอบอุ่น (…จนร้อน) \n\nเป็นการสนทนาเผ็ดร้อนก่อนเกิดเหตุสงครามในอิสราเอลนะ เราไม่ได้รู้อะไรล่วงหน้า\n\nแต่พอรู้แล้วก็ตอบคำถามจากข่าวคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะ รมต. คมนาคม ที่ให้ข่าววานนี้ว่า A380 ยังถูกนำออกมาใช้ไม่ได้ …เหตุจอดทิ้งไว้นาน (รอการขาย) \n\n… การจะฟื้นคืนนั้นนาน และต้องควานหาตัวกัปตัน และฟื้นฟูทักษะการบิน …ต้องต่อไลเซนส์ สะสมชั่วโมงบินกันใหม่ (ใครขับได้บอกด้วย) \n\nแต่เมื่อต้องอพยพคนไทยจำนวนมากในบริเวณฉนวนกาซา ความใหญ่โตของ A380 ที่จุได้ถึง 500 ที่นั่ง จึงถูกถามถึงความสามารถในการนำไปรับคนไทยแทนลำเล็กกว่าที่ใช้กันอยู่ (เวลานี้จึงทำได้เพียง “ทะยอยนำกลับ”)\n\nกองทัพอากาศไทยใช้ A340-500 สเปกจุได้ราว 270-310 ที่นั่ง (ข้อมูลระบุไว้แบบนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการจัดเรียงเก้าอี้ของกองทัพอากาศ) แต่นำไปรับกลับมาได้ 130 คนในรอบแรก มีแผนจะจัดเครื่องบินไปรับกลับ 6 รอบ (ขาไป ต้องตีเครื่องเปล่า) \n\nยุคนี้มีข้อมูลให้สืบค้นได้เยอะ ขนาด ทอ. บินอ้อม คนยังรู้เลย (แอป FlightRadar™️ นี่บอกหมด ! บินไปย้งไง ?) ทอ. ใช้เวลาไป 12 ชม. ปกติต้อง 9 ชม. เซ่ ! คนเห็นฟ้อง \n\nโฆษกกระทรวงต่างประเทศต้องออกมาแจงว่าอ้อมเพราะไม่มีสัมพันธ์ทางการทูตกับบางประเทศแถบนั้น \n\nเรามีคนไทยตกค้างอยู่ในอิสราเอลถึง 25,962 คน (19% ของจำนวนแรงงานไทยในต่างประเทศทั้งหมด) ขนกลับกันได้ทีละไม่มาก ต้องตั้งคำถามต่อว่า อีกกี่เที่ยวบินถึงจะเพียงพอ ต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ และ …“จะทันไหม ?” เพราะชีวิตคนประเมินมูลค่าไม่ได้ \n\nสายการบินพาณิชย์หลายสายที่นายกรัฐมนตรีประสานไป ก็แถลงความร่วมมือดี ตีรวม ๆ แล้วเราจะได้ 24 เที่ยวบิน (รวมการบินไทยด้วย) …แต่สเปกเครื่องบินเขาก็ไม่ใหญ่โตพอจะรับกลับได้ครั้งละมาก ๆ เหมือน A380 \n\nซึ่งหากได้ ก็ต้องวางแผนนัดรวบรวมคนให้ดี ๆ เพราะการเข้าถึงจุดจอดเครื่องบิน ของผู้อพยพก็คงยากลำบากเช่นกันในเวลานี้ …\nจินตนาการภาพคงคล้ายหนังที่ต้องค่อย ๆ ย่องมาทีละมุมตึก ปรักหักพัง \n\nแต่ KeyPoint ที่ผมจะชวนผู้ประกอบการและคนทำงานคุยกันวันนี้คือ ”การเก็บของอย่างมีประสิทธิภาพ“ \n\nข้อมูลจากลูกเรือการบินไทยที่คุยกับผมคือ เขาเสียดายที่ A380 หลายลำที่รอการขาย ไม่ได้ถูกนำไปจอดในภูมิศาสตร์แนะนำคือ “ออสเตรเลีย” ที่เป็นทะเลทราย อากาศแห้ง และสำคัญคืออากาศคงที่\n\nเหตุเพราะอากาศสวิงสวายร้อนชื้นแบบบ้านเราทำให้เบาะและเครื่องมือต่าง ๆ เสื่อมสภาพ \n\n …ของแบบนี้แปลกนะ หากมึคนนั่งขยับไปมา ไม่ยักกะเป็นไร แต่พอไร้คนนั่ง คนสัมผัสมัน มันเสื่อม\n\nใครมีประสบการณ์ปิดห้องไว้นาน ๆ ก็จะรู้ว่า เก้าอ้ง เก้าอี้ โต๊ะตั่ง เบาะเบอะ มัน “กรอบ” หมด\n\nถ้าเป็นขนมอบกรอบก็คงขายได้ แต่พออุปกรณ์กรอบนี่ สินค้าเสื่อมราคาทันที ขายไม่ได้แล้ว\n\nผมได้สนทนากับนักธุรกิจใหญ่ท่านหนึ่ง ท่านกรุณาคิดให้ว่าผมจะหายอดขายใหม่ให้บริษัทได้จากอะไร … เขาคิดให้ผมอย่างจริงจังแล้วตอบว่า “คุณหนุ่ยก็ต้องขายของโดยไม่มีสต๊อกสิครับ” \n\nค่าเก็บรักษาของนี่โหดมาก … จะต่อว่าการบินไทยว่าทำไมไม่เอา A380 หลาย ๆ ลำที่รอการขาย บินไปจอดไว้ออสเตรเลีย จะได้ไม่เสื่อมสภาพ … ก็ต้องตอบแบบเห็นอกเห็นใจว่า “ก็ค่าจอดออสเตรเลียมันแพงกว่าอู่ตะเภาเรานิ !“ \n\nแน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องบวกลบคูณหาร หาจุดคุ้มค่า \n\nระหว่าง …จอดถูก แต่ของพังบ่นปี้ vs. จอดแพง แต่ของน่าจะยังดีอยู่ (โดยทฤษฎี) vs. ขายมันออกไปถูก ๆ ให้พ้น ๆ ตัว แต่หยุดค่าใช้จ่ายได้ทันที \n\nเรื่องนี้ลองเทียบกับใจเราก็ได้นะ \n\nเวลาใครเขาต่อราคาของเหลือใช้เรา เราไม่ชอบเลขราคาที่เขาต่อเลย (เพราะมัวไปเทียบกับราคาของใหม่ตอนซื้อมา) เราก็เลยพาลเก็บไว้ไม่ขายเอาดื้อ ๆ \n\nวัน เดือน ปี หมุนเปลี่ยนผ่าน Time Fly เร็วจะตาย ! ของเหลือใช้นั้นกลายเป็นของเน่าเสีย … มานั่งเสียดาย กำขี้ดีกว่ากำตดเสียแล้ว\n\nขายทิ้งเมื่อไม่ต้องการใช้แบบไม่ได้ราคา ดีกว่าเก็บดองไว้ให้ไหมันแตกเสียหาย ขายไม่ได้เลย แถมมีค่าเก็บไว้ที่วิ่งไม่หยุด ! เจอแบบนี้นี่เซ็งสุด …\n\nเอวัง… \n\n================\nเริ่มเขียนบันทึกตั้งแต่เช้า และเก็บเล็กผสมน้อยเขียนมาตลอดวัน แต่การงานวันนี้เยอะ มาเลยสรุปจบเอาก่อนนอน ง่วงแล้ว สรุปจบไม่ดีเท่าไหร่ ไม่มีโซลูชัน ….\n\nขอใช้คำว่า ”เอวัง ด้วยประการฉะนี้“ แล้วกัน",
"sig": "4685e8adb483502f66f90fd63a573d1b0f0be9ffec080704535970ab7d3c68e1662f1716a9a391f23a40669e8fea383f7128211daaa81f0ac9810e0825335fbc"
}