"We were born for one thing
Tame the greatest fear of all
We were born for one thing
Born to face the greatest fear of all"
Joe Dulplantier (Gojira)
“เราเกิดมาเพียงเพื่อสิ่งเดียว การเผชิญหน้ากับความกลัวที่ยิ่งใหญ่” “ความตาย”
ในเนื้อเพลงไม่ได้กล่าวถึงวิธีการที่ใช้ในการเผชิญหน้ากับความกลัวตาย ตัวของนักร้องนำที่แต่งเนื้อเพลงนี้ขึ้นมาเคยศึกษาปรัชญาทางตะวันออกไกลที่พูดถึงความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์ “การกลัวตาย”
ถ้าหากจะใช้หลักของ “อนัตตา” ความเข้าใจถึงการไม่มีตัวตน ไม่มีเรา ไม่มีเขา ไม่มีคุณ ไม่มีผม ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า เป็นเพียงปรากฏการณ์ที่มอบประสบการณ์ให้กับตัวของปัจเจก มันเกิดขึ้นแล้วหายไป มันปรากฏขึ้นใหม่สู่การรับรู้แล้วก็หายไป ไม่ยั่งยืนไม่ถาวร รสหวานที่ปลายลิ้น รูปงามยามที่ตาเห็น สัมผัสแห่งความซาบซ่าน ความรัก ความเกลียดชัง ความทุกข์ ความเจ็บปวด ความสุข ที่กล่าวมาเป็นเพียงประสบการณ์หนึ่งที่จะหมุนเวียนกันเกิดขึ้นแก่ผู้ที่ประสบ ไม่มีสิ่งใดที่คงอยู่อย่างถาวร เป็นเพียงแค่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วหายไป
ชีวิตก็เช่นกัน ครั้งหนึ่งตัวตนของเราที่เรายึดไว้ถือไว้ว่ามี “ตัวเรา” ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีอยู่จริงในชีวิตของพ่อและแม่มาก่อน เราไม่ใช่แม้แต่บุคคลอื่นที่พวกเขาไม่เคยรู้จัก ไม่ใช่แม้แต่คนที่เคยเดินสวนทางไปมากับพวกเขา ที่พวกเขาไม่ได้ให้ความใส่ใจที่จะจดจำ เราไม่เคยมีอยู่เลย เราไม่เคยปรากฏขึ้นในการรับรู้ของพวกเขามาก่อนเลย จนกระทั้งเราได้ถือกำเนิดขึ้นภายในครรภ์ของมารดา ปรากฏการณ์แห่งชีวิตสำหรับผู้ที่เป็นพ่อและแม่
ถ้าหากว่า ”ตัวเรา“ เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง ก่อนหน้านี้เราอยู่ที่ไหน เราจำไม่ได้ด้วยซ้ำก่อนปรากฏการณ์แห่งชีวิตจะเกิดขึ้นแก่เราทั้งสาม และเรายังต้องรอจนถึงช่วงอายุที่สมองจะพัฒนาจนเราสามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของพ่อและแม่ของเราได้ และเช่นเดียวกันกับลูก ๆ ของเรา พวกเขาก็ไม่เคยมีอยู่จริงในชีวิตของเรามาก่อนหน้านี้ พวกเขาไปอยู่ที่ไหนมาก่อนหน้านี้ เรารับรู้ว่าพวกเขามีอยู่ก็ในเวลาที่ปรากฏการณ์แห่งชีวิตมันบังเกิดขึ้นมาอยู่เพียงเบื้องหน้าของเรา
หลักแห่ง “อนัตตา” คือความเข้าใจถึงการไม่ยึดถือตัวตน ไม่ใช้เพียงแค่กาย หรือ ความนึกคิด แม้แต่สิ่งที่เรียกว่าจิตวิญญาณก็ไม่มีอยู่จริง ทุกสิ่งทุกอย่างแตกสลายและประกอบขึ้นใหม่ เป็นไปตามระบบที่มันเป็น ดังนั้นเราเพียงแค่มายึดปรากกฏการณ์นี้เอาไว้ เราถึงเข้าใจไปเองว่าเรามีตัวตน เราจึงต้องแตกสลายและประกอบขึ้นใหม่ เกิดขึ้นวนซ้ำไปซ้ำมาเป็นเช่นเดียวกันกับระบบที่มันเป็น
“อนัตตา” เป็นสิ่งที่ยากจะทำความเข้าใจ เมื่อมันถูกใช้อธิบายถึงความจริงที่ว่า ไม่มีตัวคุณ ไม่มีตัวผม ไม่มีอะไรที่มีอยู่จริง ทั้ง ๆ ที่พวกเรายังคงมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันได้จริง จับต้องกันได้จริง สามารถพบกับประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตได้จริง ๆ
ที่เรายังไม่เข้าใจ เราเพียงแค่ยึดมั่นถือมั่นว่าสิ่งที่เราประสบพบเจอคือความเป็นจริง พวกเรายังคงยึดติดกับสิ่งที่เรียกว่า “ตัวเรา” มันเป็นความเจ็บปวดและความรู้สึกที่อ้างว้างหากจะต้องยอมรับมัน ถ้าหากว่าสิ่งนี้คือความจริงที่เที่ยงแท้ ตัวเราที่ไม่อยากผลัดพลากไปจากสิ่งที่รัก คนที่เรารัก ตัวตนความเป็นเราในชั่วขณะที่ยังคงมีการรับรู้ถึงสรรพสิ่งต่าง ๆ อยู่นี้
”เราไม่ตายได้หรือไม่“ หรือถ้าหากต้องตายไปขอเพียงความทรงจำ ความนึกคิด โปรดได้ตามติดจิตวิญญาณของเราไป สู่การสถิตย์ลงในร่างใหม่ โดยที่ยังคงจำทุก ๆ เหตุการณ์ ทุก ๆ ความรู้สึก ทุก ๆ บุคคลที่เรารัก ได้หรือไม่
นี่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งของการ ”กลัวความตาย“ และ ”อนัตตา“ คงจะเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่เราสามารถนำเอามาใช้เพื่อ ”เผชิญหน้ากับมัน ความกลัวที่ยิ่งใหญ่“ และเมื่อเราเข้าใจและยอมรับในความจริงที่เที่ยงแท้
มันไม่มี ”เรา“ อยู่แล้วตั้งแต่แรก
#Siamstr
#Musicstr
https://youtu.be/3p85-KtgDSs?si=AEjkKrwrA5qZSKRs