layman on Nostr: # บิตคอยน์ : ...
บิตคอยน์ : ระบบเงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้ตัวกลาง (Peer-to-Peer)
บทคัดย่อ
ถ้าเรามีระบบเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า ระบบไร้ตัวกลาง “Peer-to-Peer” เราจะสามารถชำระเงินออนไลน์ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านธนาคาร หรือสถาบันการเงินใดๆ เลย ถึงแม้ว่าเราจะใช้ลายเซ็นดิจิทัลได้ แต่ถ้ายังต้องพึ่งพาตัวกลางอย่างธนาคาร เพื่อป้องกันการใช้เงินซ้ำ ข้อดีของระบบนี้
ก็จะหายไป เรามีวิธีแก้ปัญหาการใช้เงินซ้ำได้ โดยใช้ระบบเครือข่ายแบบไร้ตัวกลาง (Peer-to-Peer) ระบบเครือข่ายนี้ จะบันทึกเวลาของธุรกรรมต่างๆ โดยการนำข้อมูลธุรกรรมไปผ่านกระบวนการเข้ารหัสที่เรียกว่า “แฮช” “Hash” ผลลัพธ์จากการ แฮช (Hash) นี้จะถูกเชื่อมโยงต่อกันเป็นสายโซ่ โดยการสร้างสายโซ่นี้จำเป็นต้องแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน ซึ่งต้องใช้พลังการประมวลผลมหาศาล เราเรียกกระบวนการนี้ว่า “Proof-of-Work” กระบวนการนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลธุรกรรมจะถูกบันทึกไว้ในสายโซ่อย่างถาวรและไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะการแก้ไขข้อมูลแม้เพียงเล็กน้อยจะทำให้ผลลัพธ์ของการ แฮช (Hash) นั้นเปลี่ยนไป และต้องแก้โจทย์คณิตศาสตร์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องยากมากในทางปฏิบัติ สายโซ่ของข้อมูลที่ยาวที่สุด ไม่ได้เป็นเพียงหลักฐานยืนยันลำดับของธุรกรรมต่างๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสายโซ่นั้นเกิดจากการทำงานร่วมกันของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ “Nodes” ที่มีพลังประมวลผลมากที่สุดอีกด้วย ตราบใดที่เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Nodes) ส่วนใหญ่ในระบบยังคงทำงานอย่างซื่อสัตย์ พวกเขาจะสามารถสร้างสายโซ่ของข้อมูลที่ยาวที่สุดได้เร็วกว่ากลุ่มผู้ไม่หวังดี จึงสามารถป้องกันการโจมตีระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบเครือข่ายนี้ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้โดยไม่ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อน ระบบนี้ถูกออกแบบให้ส่งต่อข้อมูลโดยอาศัยความร่วมมือของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Nodes) แต่ละจุด โดยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Nodes) สามารถเข้าร่วมหรือออกจากระบบได้อย่างอิสระ เมื่อกลับเข้าร่วมใหม่ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Nodes) จะยอมรับสายโซ่ข้อมูลที่ยาวที่สุด ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Nodes) นั้นไม่อยู่
Published at
2024-06-04 05:43:07Event JSON
{
"id": "18749e80c729038d385961934a12212946ba881430b82ea03bd68871cb0aa52f",
"pubkey": "bb6738dc50e26244312dc3e87fb5fcf49f222c260bebe00352f477fcab327449",
"created_at": 1717479787,
"kind": 30023,
"tags": [
[
"client",
"Yakihonne",
"31990:20986fb83e775d96d188ca5c9df10ce6d613e0eb7e5768a0f0b12b37cdac21b3:1700732875747"
],
[
"published_at",
"1717479787"
],
[
"d",
"ZFfWOdrjprjYax0KaeI6j"
],
[
"image",
"https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQiAXt5bvKqvIRjae3h_qi8MIAwwXwD8I5Nsw\u0026s6BQVbOmL._AC_SL1000_.jpg"
],
[
"title",
"บทคัดย่อ bitcoin whitepaper"
],
[
"summary",
"บทคัดย่อ \"bitcoin whitepaper\""
],
[
"zap",
"bb6738dc50e26244312dc3e87fb5fcf49f222c260bebe00352f477fcab327449",
"",
"100"
]
],
"content": "# บิตคอยน์ : ระบบเงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้ตัวกลาง (Peer-to-Peer)\n\n## บทคัดย่อ\n\nถ้าเรามีระบบเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า ระบบไร้ตัวกลาง “Peer-to-Peer” เราจะสามารถชำระเงินออนไลน์ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านธนาคาร หรือสถาบันการเงินใดๆ เลย ถึงแม้ว่าเราจะใช้ลายเซ็นดิจิทัลได้ แต่ถ้ายังต้องพึ่งพาตัวกลางอย่างธนาคาร เพื่อป้องกันการใช้เงินซ้ำ ข้อดีของระบบนี้\nก็จะหายไป เรามีวิธีแก้ปัญหาการใช้เงินซ้ำได้ โดยใช้ระบบเครือข่ายแบบไร้ตัวกลาง (Peer-to-Peer) ระบบเครือข่ายนี้ จะบันทึกเวลาของธุรกรรมต่างๆ โดยการนำข้อมูลธุรกรรมไปผ่านกระบวนการเข้ารหัสที่เรียกว่า \"แฮช\" “Hash” ผลลัพธ์จากการ แฮช (Hash) นี้จะถูกเชื่อมโยงต่อกันเป็นสายโซ่ โดยการสร้างสายโซ่นี้จำเป็นต้องแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน ซึ่งต้องใช้พลังการประมวลผลมหาศาล เราเรียกกระบวนการนี้ว่า “Proof-of-Work” กระบวนการนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลธุรกรรมจะถูกบันทึกไว้ในสายโซ่อย่างถาวรและไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะการแก้ไขข้อมูลแม้เพียงเล็กน้อยจะทำให้ผลลัพธ์ของการ แฮช (Hash) นั้นเปลี่ยนไป และต้องแก้โจทย์คณิตศาสตร์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องยากมากในทางปฏิบัติ สายโซ่ของข้อมูลที่ยาวที่สุด ไม่ได้เป็นเพียงหลักฐานยืนยันลำดับของธุรกรรมต่างๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสายโซ่นั้นเกิดจากการทำงานร่วมกันของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ “Nodes” ที่มีพลังประมวลผลมากที่สุดอีกด้วย ตราบใดที่เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Nodes) ส่วนใหญ่ในระบบยังคงทำงานอย่างซื่อสัตย์ พวกเขาจะสามารถสร้างสายโซ่ของข้อมูลที่ยาวที่สุดได้เร็วกว่ากลุ่มผู้ไม่หวังดี จึงสามารถป้องกันการโจมตีระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบเครือข่ายนี้ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้โดยไม่ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อน ระบบนี้ถูกออกแบบให้ส่งต่อข้อมูลโดยอาศัยความร่วมมือของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Nodes) แต่ละจุด โดยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Nodes) สามารถเข้าร่วมหรือออกจากระบบได้อย่างอิสระ เมื่อกลับเข้าร่วมใหม่ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Nodes) จะยอมรับสายโซ่ข้อมูลที่ยาวที่สุด ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Nodes) นั้นไม่อยู่\n",
"sig": "a7d0916db274e3a07b5a58f5d765b0d17842f9f7c101607783449fb97b41da21394ab9e21a91f363129a2acc168cbc31ed8e0a8de220541560048b5abd7444c8"
}