สำหรับชาว Bitcoin ที่ติดตาม RS มาตลอด คงเข้าใจดีว่า Bitcoin คือที่สุดของสกุลเงินดิจิทัล
ใช่แล้วครับ.. Bitcoin ได้รับสมยานามว่าเป็นทองคำดิจิทัล มีค่ามาก ปลอดภัยสูงสุด แต่การทำธุรกรรมบนเลเยอร์ 1 นั้นก็ยังคงยากเย็นแสนเข็ญ
แล้ว Lightning Network ล่ะ?
มันก็เหมือน “ระบบการโอนเงินอย่างรวดเร็ว” (บนเลเยอร์ 2) ที่ทำให้การแลกเปลี่ยน Bitcoin รวดเร็ว ปลอดภัย และค่าธรรมเนียมถูกลง แต่มันก็ยังจำกัดอยู่แค่การแลกเปลี่ยน Bitcoin เท่านั้น
Lnfi (เดิมชื่อ NostrAssets) เคลมว่าแพลตฟอร์มของพวกเขาเปรียบเสมือน “ศูนย์การค้า” ที่อาจจะเปลี่ยนโฉมหน้าของ Bitcoin และ Lightning Network ไปตลอดกาล
โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยให้ Bitcoin ไม่ใช่แค่สกุลเงินดิจิทัล แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการสร้างแอปพลิเคชันและบริการทางการเงินแบบกระจายอำนาจอีกด้วย
// ข้อมูลนี้เป็นการสรุปจากเอกสารของ Lnfi ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ
https://image.nostr.build/9b746f8cc8db44a0b5380c595e32a2dcfcffbecf97c0718dbed3b02ca01a3dbc.jpg
🤔 Lnfi คืออะไร?
Lnfi นิยามตัวเองว่าเป็น Layer 2.5 ซึ่งเป็นเลเยอร์ที่อยู่ระหว่าง Layer 2 และ Layer 3 โดยทำหน้าที่เชื่อมต่อทั้งสองเลเยอร์เข้าด้วยกัน
พวกเขาระบุว่าเป้าหมายคือการนำ Web3 และโทเค็นมาสู่ Lightning Network และสร้างระบบนิเวศแบบกระจายอำนาจสำหรับแอปพลิเคชัน
🤔 แล้ว Lnfi ทำงานอย่างไร?
Lnfi ใช้ Taproot Assets (เดิมชื่อ Taro) ซึ่งเป็นโปรโตคอลใหม่ ที่ช่วยให้สามารถออกสินทรัพย์ดิจิทัลบนบล็อกเชนของ Bitcoin ได้
สินทรัพย์เหล่านี้จะสามารถโอนผ่าน Lightning Network ได้อย่างราบรื่น Lnfi อ้างว่าสิ่งนี้จะทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็ว ปริมาณมาก และมีค่าธรรมเนียมต่ำ
🤔 เจ้า Lnfi มันมีอะไรน่าสนใจบ้าง?
Lnfi ระบุว่าแพลตฟอร์มของพวกเขาทำได้มากกว่าการแลกเปลี่ยน Bitcoin ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การแลกเปลี่ยน Bitcoin กันเท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่การออกโทเค็น, ระดมทุน, stake, lock, ให้ของขวัญ และซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลบน Lightning Network ได้
ลองนึกถึงการมี Stablecoin วิ่งอยู่บน Lightning ดูครับ..
Lnfi เชื่อว่ามันจะช่วยลดภาระบล็อกเชนของ Bitcoin ช่วยให้การทำธุรกรรม Bitcoin บนเลเยอร์ 1 ราบรื่นขึ้น (เพราะไม่ได้วิ่งบนเลเยอร์ 1) ช่วยเพิ่มทราฟฟิกและการใช้งานบนเลเยอร์ชั้นถัดไป.. ทำให้เกิด Adoption ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ Lnfi ยังเคลมว่าแพลตฟอร์มของพวกเขาใช้งานง่ายด้วยภาษาธรรมชาติ โดยผู้ใช้สามารถใช้คำสั่งภาษาธรรมชาติ (ภาษาพูดธรรมดา) ผ่าน Nostr Protocol เพื่อโต้ตอบกับ Lnfi ได้อย่างง่ายดาย
ผู้ใช้สามารถส่งคำสั่งผ่านแอปพลิเคชัน Nostr เช่น Damus เพื่อสั่งให้ Lnfi ดำเนินการต่างๆ เช่น การโอนสินทรัพย์ เป็นต้น (สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ในเอกสารของ Lnfi)
Lnfi อ้างว่าธุรกรรมทั้งหมดบนแพลตฟอร์มไม่มีค่าธรรมเนียม อย่างไรก็ตามควรตรวจสอบข้อมูลนี้อีกครั้งจากเอกสารของ Lnfi
ในด้านความปลอดภัยและความโปร่งใส Lnfi ระบุว่าการดำเนินการทั้งหมดของผู้ใช้จะถูกเข้ารหัสและสามารถตรวจสอบได้บน NostrAssets Explorer
และ Lnfi ยังอ้างว่าแพลตฟอร์มของพวกเขามีประสิทธิภาพสูง เพราะสามารถรองรับธุรกรรมจำนวนมากต่อวินาที (TPS) ได้
https://image.nostr.build/7eeaf1a10b1afb6e8d6d1e546793ea253de671176754fb350cca3f790ed153e7.jpg
บริการต่างๆ บนแพลตฟอร์ม Lnfi
MicroNode บริการที่ Lnfi เคลมว่าจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าและจัดการ Lightning Node บนคลาวด์ได้ โดยไม่ต้องมีความรู้ทางเทคนิค ผู้ใช้สามารถควบคุม Bitcoin ของตนเองได้อย่างเต็มที่ โดย MicroNode จะทำหน้าที่เป็น Lightning Node ให้กับผู้ใช้ โดย Lnfi จะดูแลเรื่องการติดตั้งและดูแลเซิร์ฟเวอร์ให้
Lightning Starter แพลตฟอร์มที่ Lnfi อ้างว่าจะช่วยให้โครงการต่างๆ สามารถระดมทุนและออกโทเค็นได้อย่างยุติธรรมและโปร่งใส
LN Exchange แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจสำหรับการซื้อขาย Bitcoin และ Taproot Assets ที่ Lnfi เคลมว่าจะรวดเร็ว ปลอดภัย และค่าธรรมเนียมต่ำ
เวิร์คช็อป Lnfi ในเวที Advanced Stage ของงาน #TBC2024 (วันที่ 14 กันยายน 2567)
เวิร์คช็อป Lnfi จะเป็นโอกาสดี ที่เราจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแพลตฟอร์มนี้จากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เตรียมตัวให้พร้อมกับคำถามที่น่าสนใจ แล้วมาพบกันในงานครับ..
https://image.nostr.build/ca3da44972ebbe48f39fe842834e1679202c17f180cf017fb705420a09154457.jpg
เนื้อหาเสริม..
เจาะลึกคำว่า Layer 2.5 และหลักการทำงานของ Lnfi
ในโลกของบล็อกเชน คำว่า “เลเยอร์” (Layer) มักถูกใช้เพื่ออธิบายระดับต่างๆ ของโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่ง Bitcoin เองก็มีเลเยอร์ต่างๆ อยู่เช่นกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการใช้งาน
เลเยอร์ 1 (Layer 1): คือบล็อกเชนหลักของ Bitcoin ที่บันทึกธุรกรรมทั้งหมด เป็นเหมือนฐานรากของระบบ เรียกว่า Base Layer หรือเลเยอร์ชั้นฐาน (บ้างก็เรียก Bitcoin Chain, Main Chain คือเชนหลักที่ Settle ธุรกรรมในทุกๆ ประมาณ 10 นาทีนั่นเอง)
เลเยอร์ 2 (Layer 2): ถูกสร้างขึ้นบนเลเยอร์ 1 เพื่อเพิ่มความเร็วและลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม (Scaling) ตัวอย่างเช่น Lightning Network, โปรโตคอล ARK เป็นต้น
เลเยอร์ 3 (Layer 3): มักจะเกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชันและบริการที่สร้างขึ้นบนเลเยอร์ 2 อีกที เช่น แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินต่างๆ
แล้ว Layer 2.5 ล่ะ? มันอยู่ตรงไหน?
🤔 Layer 2.5 คืออะไร?
Layer 2.5 เป็นเลเยอร์ที่อยู่ระหว่าง Layer 2 และ Layer 3 ทำหน้าที่เชื่อมต่อทั้งสองเลเยอร์เข้าด้วยกัน และเพิ่มขีดความสามารถให้กับทั้งสองเลเยอร์
Lnfi ก็คือ Layer 2.5 นั่นเองครับ (Lnfi นิยามตัวเองว่าเป็น Layer 2.5)
โดย Lnfi ทำหน้าที่เชื่อมต่อ Lightning Network (Layer 2) และ Nostr Protocol (ซึ่งอาจจัดได้ว่าเป็น Layer 3) เข้าด้วยกัน เพื่อให้สามารถออกโทเค็นและสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจได้
📌 หลักการทำงานของ Lnfi
Lnfi ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่าง Bitcoin, Lightning Network และ Nostr Protocol โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของแต่ละเลเยอร์ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มทางการเงินแบบกระจายอำนาจที่มีประสิทธิภาพสูง
“Bitcoin” เป็นรากฐานของระบบนิเวศ Lnfi โดย Lnfi จะใช้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์หลักและเป็นเลเยอร์สำหรับการบันทึกข้อมูลขั้นสุดท้าย (final settlement)
“Lightning Network” Lnfi จะใช้ Lightning Network เพื่อเพิ่มความเร็วและลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม ทำให้การโอน Bitcoin และ Taproot Assets รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“Taproot Assets” (TARO เดิม) เป็นโปรโตคอลที่ช่วยให้สามารถออกสินทรัพย์ดิจิทัลบนบล็อกเชนของ Bitcoin ได้ (Tokenization) โดย Lnfi ใช้ Taproot Assets เพื่อสร้างโทเค็นและสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ขึ้นมา (Mint)
“Nostr Protocol” เป็นโปรโตคอลแบบกระจายอำนาจสำหรับการส่งข้อความและข้อมูล Lnfi อ้างว่าผู้ใช้สามารถใช้คำสั่งภาษาธรรมชาติผ่าน Nostr Protocol เพื่อโต้ตอบกับแพลตฟอร์มได้ และสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจขึ้นมา
📌 Lnfi ทำงานผ่าน LN Assets Daemon (LAD)
LAD เป็นกระบวนการเบื้องหลังที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่าง Taproot Assets, Lightning Network และ Nostr Protocol
LAD จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถ..
ฝากและถอน Bitcoin และ Taproot Assets
โอนสินทรัพย์ระหว่างบัญชี Nostr
ซื้อขาย Bitcoin และ Taproot Assets บน LN Exchange
จัดการ Lightning Node ผ่าน MicroNode
หมายเหตุ
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการสรุปข้อมูลที่เผยแพร่โดย Lnfi เท่านั้น โดยมีเจตนาเพื่อนำเสนอข้อมูลเบื้องต้น และเปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจคนี้ ผู้เขียนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Lnfi และไม่ได้มีเจตนาชี้ชวนให้เชื่อหรือสนับสนุนโปรเจคนี้แต่อย่างใด
ข้อมูลและข้อความในบทความนี้อาจไม่สมบูรณ์หรือล้าสมัยในอนาคตหลังจากนี้ ผู้อ่านควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ และทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนหรือดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Lnfi
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้อ่านควรศึกษาและทำความเข้าใจความเสี่ยงต่างๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน
Your truly, Jakk Goodday 🥳