Why Nostr? What is Njump?
2023-09-25 02:23:25

A Good Many on Nostr: # ความกลัว ![image]() ภาพโดย <a href="">Chräcker ...

ความกลัว

image ภาพโดย Chräcker Heller จาก Pixabay

ความกลัวที่ไม่อาจข้ามผ่าน

หลายครั้งที่มนุษย์เรามักถูกหยุดยั้งด้วยความกลัว ความคิด หรือจินตภาพต่างๆ ที่ถูกเติมแต่งขึ้นมา มันทำให้ความกล้าหาญของเรา ถดถอยลง หรือบางครั้งมันอาจเหมือนถูกสะกดด้วยมนต์ที่สูงส่ง จนหลายๆคนครั่นคร้ามกับความกลัวเหล่านั้น

ทุกๆคนน่าจะรู้ตัวเองแล้วว่า เรากลัวอะไร แต่เคยถามตัวเองบ้างไหมว่า ตั้งแต่เมื่อเราเกิดมาแล้วจนถึงปัจจุบันนั้น เราเคยกลัวอะไรมากที่สุด และกลัวสิ่งเหล่านั้นมานานแค่ไหนแล้ว ความกลัวจากสิ่งต่างๆเหล่านั้น มันเพิ่มขึ้น หรือ ลดลง อย่างไร? ช่วงเวลาไหนที่เรามักจะกลัวอะไรเหล่านั้น? และเราจะมีอะไรที่เป็นเหมือนสัญญาณในการบ่งบอกว่าความกลัวเหล่านั้นมันกำลังเข้ามาหาเรา? ความผิดหวังเป็นความกลัวไหม ความเสียใจเศร้าโศกเป็นความกลัวหรือเปล่า หรือความคลาดเคลื่อนจากการนัดหมายเป็นความกลัวด้วยไหม เราให้น้ำหนักกับความกลัวสิ่งใดมากกว่ากัน เราจัดลำดับความรุนแรงจากผลที่อาจเกิดขึ้นจากความกลัวเหล่านั้นด้วยอะไร เคยคิดบ้างไหมว่า หากปราศจากความกลัวเหล่านั้นแล้ว เราจะดำรงชีวิตที่แตกต่างจากเดิมไปมากแค่ไหน อย่างไร?

เราจะใช้อะไรวัด หรือตวงความกลัวเหล่านั้น ออกมาเป็นระดับขีดความกลัวด้วยอะไร

หากเช้าวันหนึ่งเราลืมตาตื่นมาจากการหลับไหล แล้วพบว่าทุกสิ่งที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้มันเปลี่ยนไป ชุดที่เราใส่นอน เตียงที่เราเอนกายเมื่อยามค่ำคืน ห้องหับที่เราอาศัย เฟอร์นิเจอร์ต่างๆรอบตัว รวมไปถึงตัวเราที่ไม่ใช่คนเดิมจากเมื่อวานนี้ เราจะรู้สึกอย่างไร เราจะตกใจแค่ไหน เราจะควบคุมสถานการณ์ต่อจากนี้อย่างไร โดยส่วนมากที่ผู้คนส่วนใหญ่จะทำคือ สิ่งแรกที่เราลืมตาตื่นขึ้นมา คุณต้องสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงทุกๆสิ่งรอบตัวก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นเมื่อคุณตั้งสติได้พอประมาณ คุณจึงจะย้อนกลับมาดูตัวเอง นั่นแหละ!! เราตระหนกกับสิ่งของรอบๆตัวก่อน เพราะอะไรกัน อาจจะเพราะสิ่งเหล่านั้นมันเกิดจากภาพซ้ำๆที่เรามองเห็นอยู่ในทุกๆวัน ใช่ไหม? เราเคยเห็นภาพที่คุ้นเคยจากการใช้ชีวิตประจำวันของเราแบบใดแบบหนึ่งแล้วจดจำมันไว้ว่ามันคือความปกติ แล้วทำไมเราจึงย้อนมามองดูตัวเองภายหลังหล่ะ คำตอบง่ายๆ เพราะเราไม่ได้ตระหนักถึงตัวตนของเราเลยอย่างไรหล่ะ เราสังเกตจากสิ่งรอบตัวเป็นสำคัญ เราเอาชีวิตของเราเองวางไว้ที่ตรงนั้น เอาความสำคัญทั้งหมดวางไว้ตรงที่เราคิดว่ามันคือกึ่งกลางของแกนหลักในชีวิตเรา เราเอาชีวิตทั้งหมดของเราวางไว้ตรงที่เราอุปโลกน์ขึ้นมาว่ามันคือทุกสิ่งที่เราต้องดำเนินไปอย่างนั้น เราเอาแก่นของชีวิตเราไปผูกกับความเป็นไป อย่างที่มันควรจะเป็นในแบบที่เราคาดหวัง ในแบบที่เราคาดคิด ในแบบที่เราออกแบบเอาไว้ แล้วเราเอาความกลัววางไว้ตรงไหน?

image ภาพโดย REDioACTIVE จาก Pixabay

การมองที่ตัวเองมันยากกว่าการส่องตัวเองในกระจก

สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นมาแล้ว ย่อมดีเสมอ มันคือคำพูดของคนบางคนที่มองว่าอะไรที่เกิดขึ้นมาแล้ว จนเกิดส่งผลอย่างใดอย่างหนึ่งที่อาจผิดไปจากที่เราคาดหวัง แต่เรายังยอมรับสิ่งเหล่านั้นได้ มันไม่แปลกเหรอ ที่เรายอมรับกับเรื่องอะไรแบบนั้น การคาดหวังอีกอย่างว่าสิ่งใดที่เกิดขึ้นมาแล้ว เป็นอย่างที่เราต้องการเสมอ มันจะไม่ดีกว่าเหรอ เรากลัวว่าจะผิดหวัง จึงต้องยอมรับมันแบบนั้น หรือว่าเรา ยอมรับเรื่องที่มันเกิดขึ้นแบบนั้นได้จริงๆ หากเราคาดหวังว่าวันพรุ่งนี้เราจะต้องได้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงขึ้น แล้วผลออกมาว่าเรายังไม่ใช่คนนั้น มีอีกคนที่ขึ้นมาแทนที่เรา เรายอมรับสิ่งนั้นได้มากแค่ไหน คนอื่นๆจะมาซุบซิบนินทาว่าควรเป็นเรามากกว่าในตำแหน่งนั้นบ้างไหม เราคิดว่าเราจะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น หรือมีโอกาสในการพัฒนาสิ่งต่างๆให้เพิ่มพูนขึ้นได้ดีกว่านั้นบ้างไหม เราไม่เสียใจจริงๆเหรอ เราไม่ผิดหวังจริงๆเหรอ เราคิดว่ามันเกิดขึ้นแล้ว มันย่อมดีเสมอจริงๆเหรอ บางครั้งบางที การที่เรามองส่องในกระจกแล้วเห็นรอยสิวเราอาจจะคิดว่าแค่สิวเหล่านั้น เราอาจไปทำหัตถการบางอย่างให้มันเลือนหายไปได้ง่ายๆ แต่เราเคยคิดบ้างไหมว่า เวลาที่เราถ่ายรูปเก็บช่วงเวลาเหล่านั้นไว้ รอยสิวเหล่านั้น มันไม่ได้หายไปจากในอดีตเลย มีเพียงอนาคตที่อาจเปลี่ยนไป มีเพียงรูปถ่ายใบหลังจากนั้นเท่านั้น ที่เปลี่ยนไป เราอาจจะบอกว่าทุกสิ่งจากนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้วนะ แต่อย่าลืมว่า … อดีตมันเหมือนเดิมเสมออย่างไรหล่ะ

อยากกินของอร่อย แต่มันไม่มีประโยชน์ แต่มันก็อร่อยจริงๆนะ

image ภาพโดย gepharts3d จาก Pixabay

ป๊อก!! ซู่ว!! เสียงเปิดกระป๋องอะลูมิเนียมพร้อมเม็ดละอองน้ำจากในกระป๋องที่สาดกระเด็นออกมาโดนมือประปราย อันเกิดมาจากแรงดันบางส่วนถูกดันออกมาพร้อมกับของเหลวในภาชนะบรรจุเหล่านั้น ลองหลับตาแล้วนึกดูว่า หากไม่มีผลงานวิจัยออกมาบอกว่าน้ำตาลหากมากเกินไปก็เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์ เราจะห้ามใจไม่ให้เปิดกระป๋องเหล่านั้นได้อย่างไร แล้วหากมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไม่มีน้ำตาลแต่ยังคงความหวานคล้ายแบบเดิม เราจะกลับมาเปิดกระป๋องเหล่านั้นแล้วดื่มกินอย่างเอร็ดอร่อยอีกหรือไม่ แล้วหากผลงานวิจัยที่ออกมาล่าสุดบอกว่าสารให้ความหวานแทนน้ำตาลบางชนิดส่งผลเสียต่อร่างกายมนุษย์แล้วเราจะต้องกลับมาห้ามใจไม่เข้าใกล้เสียงซู่ซ่าเหล่านั้นได้อีกหรอ มนุษย์เราบางครั้งก็ทำตัวแปลกประหลาดกับความกลัว บางคนกลัวแต่ก็กล้าที่จะลองต่อต้าน บางคนกลัวจนวิตกกังวล บางคนกลัวแต่ก็อยากลอง บางคนก็ไม่กลัวเลยแม้จะรู้อะไรมาบางอย่าง

แต่บางคนไม่รู้ จึงไม่กลัว

ถ้าแบบนั้นก็ตอบคำถามสิ่งเหล่านี้ได้ง่ายๆ ถ้าไม่รู้ก็จะไม่เกิดความกลัว ใช่หรือไม่ ลองคิดดูว่ากว่ามนุษย์เราจะรู้ว่าอะไรกินได้ อะไรกินไม่ได้ อะไรที่กินได้แต่ต้องปรุงแบบไหน ทำอย่างไร มันมหัศจรรย์มากเลย ผมรู้สึกทึ่งมากกับคนที่ กิน อะไรต่างๆที่เห็นลงไป แล้วรอให้คนที่เหลือดูว่า รอดก็กินได้ ไม่รอดคือโอเคบาย!! คนคนนั้นเค้ามีความกลัวบ้างไหม เคยได้ยินมาก่อนไหมว่าใครกินอะไรมาแล้วมันเป็นแบบไหนบ้าง ผมรู้สึกตลกกับชีวิตที่เราเอาไปเสี่ยงกับอะไรแบบนั้นในยุคที่เรายังไม่ตกผลึกว่า อะไร เป็นอะไร จนกระทั่งปัจจุบัน เราก็ยังไม่ตกผลึกว่า เสียงป๊อก!! ซู่ว!! ในกระป๋องผลไม้ในน้ำเชื่อมบางยี่ห้อ มันอันตรายจากน้ำตาลในผลไม้ หรือน้ำเชื่อม หรือเพราะแก๊สที่อัดลงไป หรือเพราะกระป๋องที่บรรจุ หรือเพราะตัวเราเอง ที่บางครั้งต้องควบคุมอาหารเหล่านั้น หรืออาจจะเป็นเพราะใครสักคนที่อยากให้เราเป็นคนที่ไม่กลัวคนนั้น เพื่อที่จะได้จดบันทึกลงไปว่า อันนี้ไม่ควรกินหว่ะ!!

image ภาพโดย Jeniffer, Wai Ting Tan จาก Pixabay

. . .

บางครั้ง เมื่อเราวางอะไรบางอย่างลงไป มันก็อาจจะทำให้อะไรๆมันเบาขึ้น ความหนักที่เรากลัวอาจจะเป็นทองคำที่มีค่า หรืออาจจะเป็นเพียงก้อนหินที่ดูธรรมดา แต่หากเราวางมันลงไว้ก่อน แล้วคิดถึงสิ่งที่เราต้องการจริงๆ เราอาจจะรู้ว่า เราควรแบกสิ่งเหล่านั้นไว้ต่อไป หรือวางมันทิ้งไว้อย่างนั้นตลอดกาล เหมือนกับความกลัวในตอนนี้ ผมกลัวเหลือเกินว่า คนที่อ่านมาถึงตรงนี้ จะกลัวที่จะมองดูตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ผ่านคนอื่น กลัวที่คุณ อาจจะเป็นคนอื่นที่มองดูใครสักคน แล้วกลัวว่าคนคนนั้น อาจจะเป็นคุณ 👀

Author Public Key
npub1mndr23nszjzhzpuqfljlu4zges8g8j669qyecc7mtlclf0ts2j0qyae897